Hands - On | สัมผัสแรก iPhone 15 และ iPhone 15 Plus น้องเล็ก 5 สีสดใส อัปเกรดใหม่หลายจุด ฟีลลิ่งดีขนาดไหน

หลังจากที่ iPhone ได้วางขายหน้าร้านอย่างเป็นทางการในวันนี้ ทางทีมงาน Droidsans ก็ไม่รอช้า รีบไปรับเครื่องมาแล้วมาพรีวิวให้ทุกคนได้ดูกัน ซึ่งสำหรับรุ่นเล็กอย่าง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ที่มาด้วยกัน 5 สีสัน จอ Dynamic Island และพอร์ตชาร์จ USB – C ครั้งแรกของเครื่อง บอกเลยว่าหลังจากที่สัมผัสไปแล้วให้ความรู้สึกรักพี่เสียดายน้องมาก อยากครอบครองไว้ทั้งหมดนี่เลยล่ะ

First Impression จับเครื่องครั้งแรก

อย่างแรกคงต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้มาจับเครื่องจริง หลังจากเขียนข่าวหลุดและข่าวเปิดตัว เมื่อเครื่องมาถึงมือแล้วพูดได้คำเดียวเลยว่า “ ซื้อ! ” ซึ่งทั้ง iPhone 15 และ 15 Plus มีด้วยกันทั้งหมด 5 สี ที่มาในโทนพาสเทล ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาส่องแต่ละสีใกล้ ๆ ดีกว่า

สีที่เราได้มาลองสัมผัสนั้น มีทั้งหมด 4 สีสันสดใส ได้แก่ ชมพู, เหลือง, ฟ้า และเขียว พออยู่รวมกันแล้วเหมือนแก๊งค์ Power Puffgirls เลย

สำรวจรอบเครื่องแบบชัด ๆ

กรอบหลังกระจกสีสดใส

มาที่ด้านหลังของตัวเครื่องกันก่อน รุ่น 15 และ 15 Plus จะใช้เป็นวัสดุกระจกแต่งสี ที่มีการแต่งสีแทรกทั่วอณูของตัวเครื่อง และแต่ละสีก็จะมีสีโมดูลที่แตกต่างกันออกไปตามสีของเครื่องเลย อย่างสีชมพูก็จะมีโมดูลสีชมพูเดียวกัน สีเหลือง เขียว ฟ้า ก็จะมีโมดูลสีตามตัวเครื่องนั้น ๆ ค่ะ ส่วนตัวชอบสีชมพูและเขียวรอบนี้มาก แล้วคือสีชมพูรอบนี้ดูจะสวยกว่าชมพูที่มีมาเลยล่ะค่ะ

ขอบโค้งมนดีต่อใจ เหลี่ยมคมน้อยลง

ทางด้านข้างตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมิเนียมขอบโค้งมน ให้สัมผัสเรียบลื่น จับแล้วไม่บาดมือ (รุ่นก่อนหน้าก็ไม่ได้บาดมือนะ แต่ว่ารุ่นนี้เหมือนจะโค้งมนกว่าเดิม) ลูบไปมาก็ฟินไปอีกแบบเหมือนกันค่ะ ส่วนตำแหน่งปุ่ม Power ,ปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง และปุ่มปิดเสียงอยู่ในตำแหน่งเดิม

บ๊ายบายพอร์ต Lightning เวลคัม USB – C

ด้านล่างของเครื่องเป็นลำโพงและไมค์สำหรับสนทนา มาพร้อมพอร์ต USB – C ที่เปลี่ยนมาใช้เป็นครั้งแรกของแบรนด์ ซึ่งสายที่แถมมาในกล่อง ยังเป็นสาย USB 2.0 จะได้ความเร็ว 480Mbps เท่ากับสายแบบเดิมนะ

ขนาดจอต่าง ความสว่างเพิ่มมากขึ้น

พลิกกลับมาที่หน้าจอ วัสดุ Ceramic Shield ในรุ่น 15 จะมีขนาดจออยู่ที่ 6.1 นิ้ว ก็เป็นขนาดที่กะทัดรัดดี กำลังดี ส่วน 15 Plus ก็จะใหญ่ขึ้นมาเป็น 6.7 นิ้ว ก็จะมีความเต็มตามากขึ้นมาอีก 1 ระดับ ทั้งนี้ก็อยู่ที่การใช้งานส่วนบุคคลแล้ว ว่าต้องการใช้จอที่ขนาดประมาณไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมเพิ่มความสว่างหน้าจออยู่ที่ 1,000 นิต (จากเดิมอยู่ที่ 800 นิต) จ้า

จอ Dynamic Island

ทั้งคู่ได้อัปเกรดหน้าจอมาเป็น Dynamic Island ใช้ประโยชน์หลากหลาย คอยอำนวยความสะดวกแจ้งเตือนสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไว้รายงานกิจกรรมแบบเรียลไทม์ เมื่อมีอะไรเด้งมาก็แค่แตะเพื่อขยายออกมา จะดูข้อความจากไรเดอร์, เช็คการเชื่อมต่อกับหูฟัง หรือเช็คระดับแบตเตอรี่ได้

สเปค iPhone 15

จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : RAM 6GB
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift, ซูมดิจิทัลสูงสุด 10 เท่า
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, มุมกว้าง 120 องศา
กล้องหน้า : TrueDepth 12MP, ระบบโฟกัส Focus Pixels
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ :
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 171 กรัม

สเปค iPhone 15 Plus

จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : RAM 6GB
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift, ซูมดิจิทัลสูงสุด 10 เท่า
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, มุมกว้าง 120 องศา
กล้องหน้า : TrueDepth 12MP, ระบบโฟกัส Focus Pixels
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 201 กรัม