ในงาน IFA 2019 รอบนี้วงการมือถือกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทาง HMD Global ได้เปิดตัวมือถือใหม่รวมกันถึง 5 รุ่น นอกจากสมาร์ทโฟน Android One อย่าง Nokia 6.2 และ Nokia 7.2 แล้ว ยังมีมือถือฟีเจอร์โฟนอีก 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบไปด้วยรุ่นคลาสสิคอย่าง Nokia 2720 Flip 4G มือถือสายแกร่ง Nokia 800 Tough ตามมาด้วยรุ่นจิ๋ว Nokia 110

Play video

Nokia 2720 Flip 4G

มือถือฝาพับสุดลาสสิคได้ถูกนำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง โดย Nokia 2720 Flip นั้นรองรับการใช้งาน 4G ตามชื่อรุ่น ตัวเครื่องมี 2 หน้าจอคือจอด้านนอกขนาด 1.3 นิ้ว สำหรับดูเวลาและแสดงการแจ้งเตือนข้อความหรือสถานะต่างๆ ส่วนจอด้านในสำหรับใช้งานมีขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด QVGA ในเครื่องมี Wi-Fi จึงสามารถใช้งานเป็น Wi-Fi hotspot  มาพร้อมกล้อง 2 ล้านพิกเซล + LED Flash หน่วยความจำภายใน 4GB สามารถเติมเมมได้ด้วย microSD Card มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการณ์ Kai OS เวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานและตอบสนองได้ลื่นไหลกว่าเดิม สามารถติดตั้งแอปเพื่อการใช้งานโซเชียลอย่าง WhatsApp และ Facebook ได้ รวมถึงมีบริการของ Google มาให้ใช้งานอีกต่างหาก Nokia Flip 4G มีด้วยกัน 2 สีคือ ดำ และ เทา จะเริ่มวางขายในเดือนกันยายน เปิดราคามาที่ 90 ยูโร หรือราว 3,000 บาท แต่คาดว่าหากหักลบภาษีของฝั่งนั้นออกไปก็น่าจะเหลืออยู่ราวๆ 2,500 บาท

 

Play video

Nokia 800 Tough

ถ้าพูดถึงมือถือกับความแกร่ง ชื่อนึงที่หลายคนนึกถึงก็ก็ต้องเป็น Nokia และมือถือรุ่นนี้จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น Nokia 800 Tough ที่ออกแบบมาเพื่องานสมบุกสมบัน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ใช้งานได้ไม่ว่าอากาศจะเลวร้ายแค่ไหน เพราะมันผ่านการทดสอบความแกร่งทางทหารอย่าง MIL-STD-810G มาแล้วเรียบร้อย จะตกหล่นเป็นเมตรๆ ก็ไม่พัง นอกจากนั้นยังได้รับมาตรฐาน IP68 จะน้ำหรือฝุ่นก็ไม่มีกลัว

ตัวเครื่องถูกห่อหุ้มไว้ด้วยวัสดุที่ทำจากยางและเคลือบสารกันลื่น เรียกว่าพร้อมลุยกันไม่ว่าจะเจอสภาวะไหนๆ พอร์ตต่างๆ รอบตัวเครื่องมีฝาปิดพร้อมกับซีลทุกอย่างไม่ให้เข้าไปถึงภายในตัวเครื่องได้ และมีที่เกี่ยวเผื่อเอาไปเกาะกับกระเป๋า จักรยาน หรือคล้องไว้ตามตัวก็ได้

ส่วนเรื่องของการใช้งานก็ยังมีโหมดโคตรอึด แม้แบตเตอรี่จะแค่ 2100 มิลลิแอมป์แต่สามารถสแตนบายด์ได้ยาวนานเป็นเดือน มีไฟฉายที่แสงสว่างถึง 198 ลูเมนส์เผื่อใช้ในการเดินป่า และลำโพงที่เสียงดังเป็นพิเศษ แน่นอนว่า Nokia 800 Tough ก็มาพร้อมกับ Kai OS ลงแอปต่างๆ เพิ่มเติมได้ มี GPS รองรับการระบุตำแหน่ง ใช้งานกับ Google Maps ได้ เผื่อไปเดินป่าแล้วหลง ก็ให้มันนำทางออกมา โดยจะมีวางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี ก็คือ ดำ Black Steel และสีลายพรางคาโม Dessert Sand ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 100 ยูโร หรือราวๆ 3,400 บาท โดยคาดว่าจะมาในช่วงเดือนตุลาคม

 

Play video

Nokia 110

หลังจาก Nokia 105 ประสบความสำเร็จขายดิบขายดี ทาง HMD ก็เลยเข็นเอา Nokia 110 ตามออกมาอีกรุ่น โดยอัพเกรดเพิ่มกล้องให้เอาไว้ถ่ายรูปแชะแชร์ ใส่เกมยอดฮิตอย่าง Snake และ Doodle Jump มาเลย จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน จะเอามารับฟังข่าวสารหรือรายการทางวิทยุ FM ก็เหมาะ และรองรับการเล่นเพลง MP3 ได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 27 ชั่วโมง โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 20 เหรียญสหรัฐ บวกลบคุณหารภาษีแล้วก็ไม่น่าเกิน 800-900 บาท แน่นอน

มารอลุ้นกันอีกทีว่ามือถือทั้ง 3 รุ่นของ Nokia สายฟีเจอร์โฟนนั้นจะมีตัวไหนเข้าไทยบ้าง แต่ดูแล้ว Nokia 2720 Flip และ Nokia 800 Tough ก็น่าโดนไม่หยอกเหมือนกันนะ