อย่างที่ทราบกันดีว่ามือถือ Nokia ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดตอนนี้ เป็นมือถือที่ผลิต และจัดจำหน่ายโดย HMD Global ที่ได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์ระดับตำนานมาตั้งแต่ปี 2016 อย่างไรก็ตามล่าสุดสัญญาณที่มือถือ Nokia จะหายไปอีกรอบก็ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น เพราะ HMD เริ่มเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงระบบกันภายใน ก่อนจะหมดสัญญาในปี 2025

HMD Global เริ่มรีแบรนด์ทิ้งชื่อ Nokia

เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ใช้งานมือถือ Nokia หลายรายได้รับการแจ้งเตือนจาก MyApp newsletter โดยระบุว่า HMD Global กำลังโฟกัสกับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ลบภาพจำจากแบรนด์มือถือ Nokia

และภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 บนหน้าเว็บของ Nokia จะถอดเมนูส่วนที่เกี่ยวข้องกับ “มือถือ” ออกไป และย้ายข้อมูลไปไว้บนเว็บไซต์ HMD Global แทน นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนชื่อบัญชีโซเชียลของตัวเอง เช่นใน X/Twitter ก็ได้เปลี่ยนจาก @nokiamobile เป็น @HMDglobal แล้ว

แถมก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ HMD Global ยังได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วว่าทางบริษัทจะทำมือถือในชื่อ HMD เป็นของตัวเอง แต่จะผลิตมือถือควบคู่กับ Nokia ไปด้วย ซึ่งมือถือรุ่นแรกคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายน 2024

มือถือ Nokia เริ่มทิ้งช่วงเปิดตัว ก่อนหมดสัญญา

ถึงแม้จะมีการระบุว่าจะผลิตทั้งสองแบรนด์ควบคู่กัน แต่สมาร์ทโฟน Nokia รุ่นล่าสุดที่มีการเปิดตัวออกมาคือ Nokia G42 5G ซึ่งต้องย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2023 นอกเหนือจากนั้นก็มักจะเป็นฟีเจอร์โฟนแบบปุ่มกดมากกว่า ซึ่งก็น่าจะมีการปรับแผนเปิดตัวสมาร์ทโฟน Nokia ให้น้อยรุ่นลงในแต่ละปีจริง ๆ

จังหวะการเปิดตัวมือถือของตัวเองมาวางจำหน่ายคู่กัน หรือเริ่มโยกย้ายเว็บไซต์กันไปมา ดันไปประจวบเหมาะกับช่วงที่ HMD Global ใกล้จะหมดสัญญาใช้ชื่อ Nokia ทำแบรนด์มือถือภายในปี 2025 พอดี ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงว่า HMD Global อาจไม่ต่อสัญญาใช้ชื่อในปีถัดไปแล้วจริง ๆ และอาจทำให้ Nokia หายหน้าไปจากตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

ทั้งนี้การรีแบรนด์ในวงการสมาร์ทโฟนนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะผู้ใช้งานมักจะติดภาพจำกับชื่อแบรนด์ไปแล้ว หากชื่อ HMD ไม่ติดตลาด แบรนด์ที่จะได้ประโยชน์ที่สุดคือ Motorola เพราะทั้งสองแบรนด์นี้ต่างมีตลาดหลักของตัวเองอยู่ในแถบยุโรป และอเมริกา ซึ่งจะถือเป็นการช่วยลดคู่แข่งไปได้อีก 1 เจ้าหาก Nokia หายไปนั่นเอง

เบื้องต้นข้อมูลดังกล่าวเป็นแค่การวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ จากฝั่ง HMD Global ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร ปี 2025 น่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นกว่านี้

ที่มา: GizmoChina