เมื่อพูดถึง Google Maps ฟีเจอร์นึงที่หลายๆคนน่าจะได้ใช้กันประจำเพื่อเลี่ยงรถติด ก็คือการดูสภาพจราจรบนถนนแบบ real-time ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้ช่วยให้หลายๆคนสามารถรอดพ้นจากการจอดแน่นิ่ง เลี่ยงไปใช้เส้นทางที่เร็วกว่า และไปถึงจุดหมายทันเวลามานักต่อนักแล้ว แต่เคยนึกสงสัยมั้ยครับว่า Google เค้าไปเอาข้อมูลมาจากไหน? ทำไมถึงสามารถบอกว่าถนนไหนรถติดหรือรถไม่ติดได้อย่างแม่นยำขนาดนั้น? เดี๋ยวไปหาคำตอบกันครับ 😉
เรื่องการคำนวนสภาพการจราจรว่าถนนเส้นไหนติด หรือเส้นไหนโล่งบน Google Maps นี้ ทางทีมผู้พัฒนาเคยเขียนใน Blog ทางการเอาไว้ตั้งแต่เมื่อปี 20091 (สมัยที่ Android เกิดใหม่ๆ เลยทีเดียว) แต่ปัจจุบันเห็นว่ามีข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ผสมเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ข้อมูลจากผู้ใช้ Android ที่เปิดใช้งานโทรศัพท์หรือ GPS อยู่
เมื่อเราเปิด Google Maps และยินยอมแชร์ตำแหน่งของเรา สมาร์ทโฟนที่เราใช้อยู่นี้จะส่งข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตน (anonymous data) กลับไปบอกทาง Google ว่าเรากำลังเคลื่อนที่ที่ความเร็วเท่าใด แล้วนำไปเปรียบเทียบกับโทรศัพท์เครื่องอื่นๆ ที่อยู่บนถนนเดียวกับเราและรอบๆเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยระบบหลังบ้านของแอพ จะประมวลข้อมูลเหล่านี้จนเห็นภาพรวมของการจราจรทั้งหมด แล้วจึงส่งข้อมูลกลับมาให้เราได้ใช้งานกันต่อไป
ดูความติดได้ทั้งหมด 4 ระดับ
เขียว รถโล่ง ทำความเร็วได้
ส้ม รถเคลื่อนตัวช้า แต่ไปได้เรื่อยๆ
แดง รถติด ขยับสลับหยุด
น้ำตาล รถติดแหง่ก โปรดระวังหลับ
ประเด็นที่น่าสนใจ
ข้อมูลที่ส่งกลับไปประมวลผลมีขนาดไม่กี่ไบท์เท่านั้น ไม่เปลืองดาต้าเท่าไหร่นะ
ข้อมูลที่ระบบได้รับจากเราไป ทาง Google บอกว่าไม่มีข้อมูลส่วนตัวนะ ว่าเป็นของใครอย่างไร หรือถ้าไม่สบายใจก็ปิดทิ้งไปก็ได้ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ช่วยกันแชร์ตำแหน่งเพื่อปรับปรุงข้อมูลให้แม่นยำไปเถอะ
ความสามารถแบบนี้ใกล้เคียงกับการรายงานจราจรของ จส.100 นั่นแหละ แต่ว่าสะดวกกว่ามาก เพราะไม่ต้องกดโทรเข้าไปรายงาน แค่เปิดแอพให้แชร์ข้อมูลก็จบ แล้วคนอื่นๆก็จะสามารถดูเส้นทาง และคำนวนระยะเวลาที่ใช้ได้ทันทีแบบ real-time
2-3 ปีที่แล้วหลายๆคนบ่นว่า traffic report บน Google Maps ไม่แม่นเท่าไหร่ แต่ตอนนี้แม่นมากขึ้นเยอะแล้วก็เพราะคนใช้ Android มากขึ้นนั่นเอง
และด้วยจำนวนคนใช้ Android ที่มากขึ้นในประเทศไทยนี้ ก็ทำให้ระบบสามารถรายการสภาพการจราจรได้ครอบคลุมเส้นทางมากขึ้น เข้าไปได้ทุกซอกทุกมุมถนนที่มีคนใช้รถรามากๆนั่นเอง
ถนนในซอยสุขุมวิทเป็นที่รู้กันว่ามีรถขับเข้าไปใช้เป็นทางลัดตัดไปมาระหว่างถนน และมีคนอยู่มากมาย จน Google สามารถรวบรวมเอามาแสดงสภาพการจราจรได้เช่นกัน
เมืองเชียงใหม่ที่น่าจะไม่ได้มีการติดเซนเซอร์ตรวจจับสภาพจราจรก็สามารถรายงานได้จากเหล่าผู้ใช้งานแอนดรอยด์นั่นเอง
ถนนทางหลวงในช่วงเทศกาลก็สามารถดูสภาพการจราจรได้เช่นกันผู้ใช้ iOS ก็สามารถช่วยรายงานสภาพการจราจรได้เช่นกันผ่านการเปิดใช้งาน Google Maps หรือใช้ Navigate
สำหรับ iOS เข้าใจว่าถ้าไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ระบบก็จะไม่มีการส่งข้อมูลให้ Google Maps ต่างจาก Android ที่จะมี Google Services คอยส่งตลอดเวลาแม้จะไม่ได้ใช้งานแอพอยู่ก็ตาม
ถ้าไม่อยากให้ Google Services แอบส่งข้อมูลกลับไป Server และเพื่อประหยัดแบตน่าจะต้องปิด GPS ไปเลยจะเป็นการชัวร์ที่สุดนะ
ข้อมูลจากชุมชนผู้ใช้ Waze
Waze เป็นแอพแผนที่พร้อมระบบนำทางที่ถูก Google ซื้อไปเมื่อกลางปี 2013 ที่ผ่านมา3 ซึ่งแอพนี้มีชื่อเสียงมาจากชุมชนผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง คอยช่วยกันรายงานสภาพจราจรว่าตรงไหนมีอุบัติเหตุ หรือเกิดปัญหาขึ้นที่ส่วนใดของแผนที่อยู่บ้าง หลังจากที่ Google เข้าซื้อแอพนี้ ก็มีการรวมเอาข้อมูลจากผู้ใช้ใน Waze มาแสดงขึ้นบน Google Maps ด้วย ทำให้ผู้ใช้ทั้งสองแอพสามารถรู้ถึงเส้นทางที่กำลังจะขับไปว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างได้ทันที
จำนวนผู้ใช้งานอาจจะไม่ได้มีมากนัก แต่มีการรายงานสภาพการจราจรกันตลอดเวลา
ประเด็นที่น่าสนใจ
จำนวนผู้ใช้ Waze ในประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้เยอะมากนัก ทำให้ข้อมูลเรื่องอุบัติเหตุ หรือการซ่อมแซมถนน ไม่ได้มีขึ้นมาแสดงอย่างต่อเนื่องนัก นานๆ จะมีโผล่ขึ้นมาทีนึง ยังไงถ้าสนใจอยากมีส่วนร่วมก็ไปโหลดแอพนี้มาใช้กันได้นะ
ข้อมูลจากทางรัฐหรือเอกชนที่มีเซนเซอร์ตรวจจับสภาพจราจร
ในบางประเทศ Google ได้มีการตกลงทำสัญญากับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องสภาพจราจรอยู่ เพื่อขอแลกเปลี่ยนซื้อขายข้อมูลนำเอามาประมวลผลใช้ใน Google Maps ซึ่งถ้าใครเคยสังเกตถนนในกรุงเทพฯเส้นหลักๆ มักจะมีป้ายจราจรอัจฉริยะบอกสภาพการจราจรในปัจจุบันให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบอยู่เช่นกัน แต่ไม่แน่ใจว่า Google ได้มีการตกลงขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทาง กทม. ส่วนใดอย่างไรบ้างนะครับ
ภาพจาก manager.co.th ขอยืมใช้แป๊บ เดี๋ยวไปหาถ่ายเองมาลงอีกสักครู่ 😛
ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นก็เป็นคำตอบสำหรับคนที่สงสัยกันนะครับว่า Google Maps รู้ได้อย่างไรว่าถนนเส้นไหนติดหรือรถโล่งวิ่งสบายๆ เขียนเอาไว้อ่านกันเป็นเกร็ดความรู้ระหว่างรถติดขับกลับบ้านในช่วงเทศกาลนี้นะครับ ขอให้เดินทางกันปลอดภัยทุกคนครับ
อ้างอิง
1Google Official Blog : The bright side of sitting in traffic: Crowdsourcing road congestion data
2Quora : How does Google Maps collect real-time traffic data?
- 3Droidsans : Google เข้าซื้อ Waze เรียบร้อยแล้ว
หวังว่าระบบนำทางจะไม่พาผมเข้าที่เปลี่ยวๆหรือไปในที่หลอนๆอีกนะ
เอาข้อมูล Share Location Service ของทุกคนไปประมวลผล
กลับกัน ถ้าเป็น service จากค่ายจีนเช่น Baidu จะไม่ใช่แค่ปิด แต่จะหาทางถอดออกให้ได้เลย 555
อยากทราบเหมือนกันครับว่ามันแยกยังไงระหว่างสมาร์ทโฟนบนรถยนต์ กับสมาร์ทโฟนคนเดินถนน คิดว่าในบางถนนความเร็วในการเคลื่อนที่คงไม่ต่างกันมาก แถมสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่นยังจับ gps ไม่ค่อยแม่นอีกต่างหาก =.=
ล่าสุดไปเชียงใหม่ กลับบ้านพี่ ลองให้ google นำทางดู เล่นพาไปซอยที่แคบมากกก รถวิ่งแล้วคนยังไม่สามารถเดินได้ ยังดีที่รอดปลอดภัยออกมา =.= บางทีก็ไว้ใจไม่ได้เวลามันพาเข้าซอยซอกแซก 5555
ตอนไปงาน bike for dad เสร็จ ขับรถกลับบ้านปากช่อง เลย
เที่ยงคืนกว่า ช่วงนั้น ถนนมิตรภาพ ทำถนนช่วง ทับกวาง ขึ้นไป มวกเห้ก ยันเกือบถึงปากช่อง
น่าจะทำรองรับ เทศการณ์ต่างๆ ทำให้รถขาไปปากช่อง รถติดตอนกลางคืนมาก
ด้วยเหนื่อย ง่วง เลย จัดเส้นลัด จะบอกว่า ยิ่งกว่าทางลูกรังอีก ดีนะที่ขับกระบะ 4WD
ถึงบ้าน ตาสว่างเลย 555
ปัญหาหลักๆคือชอบพาไปทางเปลี่ยวหรือทางลูกรัง ซึ่งไม่มีออปชั่นเหมือน TOMTOM ให้หลีกเลี่ยงทางพวกนี้
และอีกอันนึงคือควรจะจำ Option avoid toll ไว้ด้วย ต้องมากดใหม่ทุกที
อันนี้จริงมาก ชอบพาเข้าป่าเข้าพง โคตรน่ากลัว
ส่วนเรื่อง avoid toll นี่ก็เพลียแท้ -_-"
เว็บนี้ก็เขียนเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
http://www.whatphone.tv/tips/google-maps-traffic/
เรื่องเข้าป่าเข้าพงนี่สมัยก่อนเคยเจอเหมือนกันพาลัดเข้าที่ชาวบ้านเฉยเลย
อยากให้คนไทยใช้ Waze กัยเยอะ ๆ ด้วยอะ
เรื่องพาเข้าป่า ทางเปลี่ยว เข้าทางลูกรัง นี่น่ากลัวสุดละ
ไม่รู้เมื่อไหร่จะพัฒนาให้เลือกเส้นทางให้มากกว่านี้ได้ซักที ><
ผมใช้บ่อย ความแม่นยำให้ 4 จาก 10
เชื่อไม่ค่อยได้
ข้อสงสัย เคยเห็นมีรายการรถอุบัติเหตุด้วย เค้าใช้ข้อมูลจากอะไรมาถึงแสดงข้อมูลในมือถือได้ ส่วนความแม่นยำนี่ผมใช้ 8/10 เลยครับ เคยเห็นในมือถือแจ้งว่า ถึงช่วงนี้จะรถติด ช่วงนี้จะโล่ง เป็นไปตามนั้นเลย (ยกเว้นเจอรถวิ่งช้าขับเลนขวา อันนี้แย่หน่อย เพราะไม่ได้รีบ กลายเป็นเรามีส่วนร่วมทำรถติดไปด้วย) ส่วนเรื่องการนำทางนี้ ผมมักจะเตือนหลายคนที่พึ่งเคยใช้มือถือนำทาง และไม่เคยใช้อุปกรณ์นำทางอย่างอื่น จะบอกว่า เวลาจะบอกเส้นทางกับใคร ให้กดที่ถนนเป็นหลัก อย่ากดแชร์ตำแหน่งจากในบ้าน หรือในสถานที่เช่น วัด พอมันไม่ได้อยู่บนถนน เครื่องก็จะไม่รู้ว่า ด้านหน้าของบ้านหรือวัดนั้นอยู่ด้านไหน โปรแกรมจะนำเราพยายามหาทางที่ใกล้จุดที่สุด ซึ่งถ้าเราแชร์จากหลังบ้าน หรือหลังวัด นั่นก็ไปกันคนละทิศเลย
จาก Waze เลยครับ