ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ Google Maps ได้มีการอัพเดทตัวแอพบนมือถือ และบนเว็บไซต์มาให้เราได้ใช้งานกันเพิ่มเติมกันพอสมควร ซึ่งถ้าใครที่ใช้อยู่เป็นประจำแล้วก็คงจะสังเกตหรือว่าได้ลองใช้กันไปเรียบร้อย แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองหรือว่ายังเป็นมือใหม่ของ Google Maps วันนี้ผมจะขอรวบรวมเอาฟีเจอร์เด็ดๆน่าใช้มาให้เพื่อนๆได้ทราบและนำเอาไปใช้กันครับ

สารบัญ :: ดูหัวข้อทั้งหมดก่อน เผื่อรู้อยู่แล้ว หรือแตะที่หัวข้อนั้นๆถ้าต้องการกระโดดไปเฉพาะส่วนที่อยากรู้ได้

นำทาง – ดูสภาพการจราจร

การเลือกเส้นทางไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง

บันทึกสถานที่ที่เราต้องการไปบน Google Maps

การเพิ่มจุดแวะพักระหว่างทาง

ดูพื้นที่จริงผ่าน Street View

การเลือกเสียงนำทาง

ใช้งาน Google Maps แบบออฟไลน์ ไม่ต้องพึ่งเน็ต

การแชร์เส้นทางให้คนอื่น

 

นำทาง – ดูสภาพการจราจร

ฟีเจอร์หลักที่คนใช้ Google Maps นอกเหนือจากดูตำแหน่งแล้ว ก็คือการให้มันช่วยนำทาง ซึ่งความฉลาดของมันเหนือแอพนำทางอื่นก็คือมันมีข้อมูลสภาพการจราจรที่ค่อนข้างแม่นยำ (คลิกอ่าน ทำไม Google Maps ถึงบอกสภาพจรจรได้แม่นยำ) นั่นเอง หลายๆคนสามารถเลี่ยงรถติด เดินทางถึงที่หมายได้เร็วขึ้นเป็นชม.ๆกันเลยทีเดียว

ซ้าย(บน1) : อยากไปที่ไหนก็ไปแตะตำแหน่งนั้นๆ หรือกดแถบขาวด้านบนแล้วพิมพ์ชื่อสถานที่เพื่อค้นหาได้เลย จากนั้นก็กดปุ่มรถสีฟ้าด้านล่างขวาก็จะขึ้นแสดงการนำทางมาให้เราละ

ขวา(บน2) : Google Maps จะมีตัวเลือกการเดินทางหลักๆ 3 แบบคือ ขับรถ รถสาธารณะ และเดินเท้า ตามสัญลักษณ์ในกรอบสีฟ้าด้านบน ส่วนด้านล่างที่เป็นแผนที่ เส้นสีฟ้าคือเส้นทางแนะนำที่เร็วที่สุด ส่วนเส้นสีเทาเป็นทางเลือกอื่นที่ไปได้ เผื่อว่าเราไม่อยากไปเส้นทางที่ Google Maps แนะนำที่สุด เลือกเปลี่ยนได้โดยการแตะที่เส้นสีเทา และตัวแอพจะมีการบอกระยะทาง รวมถึงเวลาที่ใช้ด้านล่าง หากพร้อมเดินทางแล้วก็กดปุ่มลูกศรสีฟ้าเพื่อเริ่มนำทางได้เลย

หากเป็นเส้นทางในเมืองใหญ่ที่มี Uber (ไม่รู้จัก uber คลิกอ่าน) ให้บริการ เช่น กรุงเทพฯ สิงคโปร์ ซานฟรานฯ จะมีแถบขวาสุดเพิ่มขึ้นมา ให้เราสามารถกดเรียก Uber ผ่าน Google Maps ได้เลยทันที

 

คำแนะนำ

  • ควรศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง เพื่อดูว่าเส้นทางที่ไปมันถูกต้องรึเปล่า ลัดเลาะเข้าซอยหรือพื้นที่ไม่น่าวางใจหรือไม่

  • ตอนออกต่างจังหวัด หากมันมีการให้เลี้ยวเข้าถนนท้องที่ (Local Road) ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นกิ่งออกจากถนนหลัก-ถนนหลวงแล้วล่ะก็ หากไม่ได้เร็วกว่ากันเกิน 1 ชม. แนะนำให้วิ่งบนถนนหลักจะดีกว่าและปลอดภัยกว่า เพราะเส้นดังกล่าวอาจจะเปลี่ยวและวิ่งลำบากได้

  • กรณีเดินทางไกล แนะนำให้ดูป้ายตามถนนประกอบด้วย เพื่อเพิ่มความแม่นยำ โดยสังเกตป้ายที่บอกทางไปยังจุดหมายของเรา หรือว่าจังหวัดทางผ่าน

  • อย่าฟังเสียงบอกทางมากนัก เพราะบางครั้งมันมีบอกงงๆ ซ้ายเป็นขวา ขวาเป็นซ้ายด้วย

 

การเลือกเส้นทางไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง

การนำทางของ Google Maps จะมีค่าตั้งต้นจะเป็นการเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุดเสมอ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นค่าทางด่วน ซึ่งเราสามารถเลือกให้ตัวแอพมันหาเส้นทางที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย

ซ้าย(บน1) : ก่อนที่จะกดนำทาง ให้แตะที่ 3 จุดด้านบน แล้วแตะ “ตัวเลือกเส้นทาง”

ขวา(บน2) : เลือก “เลี่ยงค่าผ่านทาง” เพื่อให้แอพเลือกเส้นทางที่เราไม่ต้องจ่ายเงินค่าทางด่วนเพิ่มเติม

  

บอกให้รู้ไว้

  • บน Android ตัวแอพจะยังไม่จำการตั้งค่านี้ ทำให้ทุกครั้งที่เราใช้ Google Maps นำทาง ต้องมานั่งตั้งค่าตรงนี้ใหม่ทุกครั้งไป สำหรับคนที่ไม่ชอบจ่ายค่าทางด่วน

  • แต่บน iOS เริ่มจดจำแล้ว…หวังว่า Android จะตามไปเร็วๆนี้

หน้าตัวเลือกบน iPhone จะมีให้เลือก Save current settings แล้ว

บันทึกสถานที่ที่เราต้องการไปบน Google Maps

ในตอนที่เราวางแผนการท่องเที่ยว โดยมากเราก็จะทำการจดบันทึกว่าเราอยากจะได้ไหน ที่ใดบ้าง ซึ่งการมี Google Maps ก็จะช่วยทำให้เราบันทึกตำแหน่งที่เราต้องการจะไปได้ง่ายขึ้นมาก พร้อมเห็นตำแหน่งของแต่ละสถานที่บนแผนที่ ทำให้คำนวนได้ง่ายขึ้นว่าเราควรจะเดินทางไปที่ใดก่อน เพื่อความประหยัดเวลาที่สุดนั่นเอง

เราสามารถค้นหาสถานที่ที่อยากได้แล้วปักดาวเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เห็นสถานที่ที่เราอยากไปทั้งหมดว่าเราควรจะไปที่ใดก่อน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปมา

 

เราสามารถสามารถทำได้สองวิธีหลักๆ

  1. แปะดาวบันทึกเอาไว้

  2. ติดป้ายกำกับ

ซ้าย(บน1) : แตะค้างบนตำแหน่งที่เราต้องการ เช่น บ้านเพื่อน หรือสถานที่ท่องเที่ยว แล้วให้แตะลากแถบขวาด้านล่างของจอขึ้นมา ก็จะเห็นหน้านี้ ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะบันทึกหรือกำหนดป้ายกำกับได้

ขวา(บน2) : บางสถานที่อาจจะไม่มีปุ่มป้ายกำกับ ให้แตะสามจุดด้านบนขวาแทน แล้วค่อยเลือกเพิ่มป้ายกำกับ

 

เราสามารถเรียกดูที่เราบันทึก หรือใส่ป้ายกำกับเอาไว้ได้ที่

 

Tips สามารถตั้งค่าบ้าน หรือที่ทำงานได้ง่ายๆ

เพื่อความรวดเร็วในการนำทางกลับบ้านหรือไปที่ทำงาน เราสามารถตั้งค่า 2 สถานที่ที่เราไปประจำนี้ได้ ทำให้เรากดนำทางไปได้ง่ายขึ้นเพียบ โดยเข้าไปที่เดิมคือ “สถานที่ของคุณ” แล้วเลือกตั้งค่าที่ “ติดป้ายกำกับ” ใส่ทั้งสองตัวเลือกนี้เข้าไป

 

การเพิ่มจุดแวะพักระหว่างทาง

ปกติเวลาเราเดินทางไปไหนไกลๆ ก็เรามักจะมีการแวะพักเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ หรือว่าหาอะไรกินกันตามทาง ซึ่งตัว Google Maps เองก็สามารถเพิ่มจุดแวะพักระหว่างทางเหล่านี้ได้ โดยจะสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 แบบคือ ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านขายของ และร้านกาแฟ ซึ่งวิธีการใช้งานก็ไม่ได้ยากอะไร สังเกตด้านบนเวลาอยู่ใน “หน้าจอนำทาง” จะมีแว่นขยายอยู่ ก็ให้กดลงไปได้เลยก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาแล้ว

 

ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่เดินทางแล้วยังไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะมีการแวะพักตรงไหนอย่างไร อยากจะเข้าเมื่อไหร่ก็แค่กดแว่นขยายและเลือกเท่านั้น ก็จะทำให้เรารู้จักร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันที่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตัวเลือกตำแหน่งต่างๆที่เราอาจจะสนใจด้วย 

สำหรับการเพิ่มจุดแวะพักนี้ เราจะเพิ่มได้เพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น จะไม่สามารถเพิ่มเข้าไปทีละ 2-3 ตำแหน่งได้ ถ้าต้องการจะวางแผนตำแหน่งแวะพักตลอดทาง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปแล้วล่ะก็ ต้องไปพึ่งพาความสามารถของ Google Maps บน Desktop / Note แทนนะ

 

ดูพื้นที่จริงผ่าน Street View

สำหรับคนที่เดินทางไปที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน หลายๆคนก็อยากที่จะเห็นสถานที่จริงว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เวลาเดินทางไปถึงจะได้รู้และสังเกตได้ง่ายๆ ซึ่ง Google Maps ก็มีความสามารถนี้ให้ได้ใช้กันด้วย

ไม่เคยมาสถานที่นี้มาก่อน ไปแล้วกลัวเอ๋อ เลี้ยวไม่ถูก เปิด Streetview ดูถนนก่อนได้

ใช้ง่ายๆแค่ค้นหาสถานที่แล้วสังเกตภาพด้านซ้ายล่าง กดปุ๊บก็เข้าได้เลย

บางครั้งมันอาจจะไม่ได้อยู่ข้างนอกเสมอไป ถ้าไม่มีรูปขึ้น ลองแตะลากส่วนขาวขึ้นข้างบนเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านในอาจจะเจอปุ่ม Steetview ซ่อนไว้อีกที

Streetview ไม่ได้มีเอาไว้แค่ดูสถานที่ในเมืองเท่านั้น ปัจจุบันมีการเก็บข้อมูล Streetview ไปครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวก็จะมีภาพของสถานที่นั้นๆมาให้ดูกัน

 

แต่ละสถานที่จะมีการเปิดให้เราร่วมรีวิวหรือแชร์รูปถ่าย เพื่อให้คนอื่นเข้ามาอ่านหรือชมได้ด้วย

การเลือกเสียงนำทาง

เราสามารถเลือกเสียงนำทางเป็นภาษาไทย หรืออังกฤษได้จากการตั้งค่าใน

>> Settings > Language and input > Language

แต่เมื่อเราเปลี่ยนภาษาตรงนี้แล้ว ภาษาของทั้งระบบก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งวิธีนี้บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะอยากให้ภาษาของระบบและแอพแยกกัน เช่น อยากใช้เมนูอังกฤษแต่ว่าเสียงนำทางเป็นภาษาไทย และสงสัยว่าเราสามารถตั้งค่าให้แยกกันได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวแล้วยังหาไม่เจอนะครับ เข้าใจว่า Google ยังไม่ทำแยกมาให้ รบกวนถ้าใครมีวิธีสามารถชี้แนะได้ครับ

 

ใช้งาน Google Maps แบบออฟไลน์ ไม่ต้องพึ่งเน็ต

เหตุผลที่หลายๆคนยังไม่เลือกใช้ Google Maps ก็เพราะว่าในประเทศไทยจะยังไม่รอบรับการเซฟแบบออฟไลน์ หรือเข้าใจกันว่าต้องต่อเน็ตเท่านั้นถึงจะใช้งานได้ แต่ว่าในความจริงแล้ว Google Maps ไม่จำเป็นต้องต่อเน็ตตลอดเวลาเพื่อใช้งาน และจริงๆมันก็สามารถโหลดแผนที่มาเก็บเอาไว้ได้โดยไม่ต้องโหลดแบบ Offline ด้วย เพราะเมื่อเราเปิดแผนที่ดูทาง แอพจะมีการดาวน์โหลดแผนที่บริเวณนั้นๆ เก็บแคช (cache) เอาไว้ ซึ่งถ้าเราลากไปให้ทั่วทุกบริเวณที่ต้องการไป ครอบคลุมเพียงพอ เราก็สามารถใช้ได้โดยปิดเน็ตไปเลยได้ เปิดแค่เพียง GPS ก็เพียงพอแล้วครับ

ในกรณีที่เราไปยังประเทศที่รองรับการเซฟแผนที่แบบออฟไลน์ เราสามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลดกันได้ทันทีครับ โดยใช้นิ้วจีบเข้าออกยืดขยายพื้นที่ที่ต้องการเซฟ ซึ่งระบบก็จะมีการบอกให้ว่าต้องใช้พื้นที่ในเครื่องกี่มากน้ออยครับ

 

การแชร์เส้นทางให้คนอื่น

เวลาเดินทางเราก็อาจจะไม่ได้ไปแค่คนเดียว หรือต้องการแชร์เส้นทางให้คนที่บ้านรู้ ซึ่งเราสามารถแชร์สถานที่หรือแผนการเดินทางของเราที่วางแผนเอาไว้ให้คนอื่นได้เลยที โดยปุ่มแชร์จะอยู่ที่หน้ารายละเอียดของสถานที่นั้นๆ ซึ่งบางครั้งปุ่ม Share ก็จะอยู่ด้านหน้าเลย หรือบางครั้งก็จะหลบไปอยู่ที่จุดสามจุดด้านบนขวา 

 

เมื่อเรากดแชร์แล้วก็จะมีทางเลือกให้เรากดส่งไปหาได้เลยทันที

 

และนี่ก็เป็นเพียงการใช้งานขั้นพื้นฐานสำหรับคนที่ต้องการใช้งาน Google Maps เท่านั้น จริงๆแล้วเจ้าแอพนี้ยังมีความสามารถอีกหลายอย่างให้ได้ใช้งานมากๆ ซึ่งเดี๋ยวจะเอามาแนะนำให้ในคราวหน้านะครับ 😀