หน้าจอ – ส่วนสำคัญที่สุดในการติดต่อระหว่างคนและอุปกรณ์พกพา ไม่ว่าจะสมาร์ทโฟนหรือว่าแท็บเล็ตก็ตาม ถ้าขาดสิ่งๆนี้ไปแล้วก็แทบจะทำให้เราใช้งานเจ้าอุปกรณ์อัจฉริยะของเราไปไม่ได้เลย แต่ว่าในปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆมีการเลือกใช้หน้าจอที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติเรามักจะพิจารณาคุณภาพของหน้าจอจากเพียงความละเอียด และความสดของสีเท่านั้น แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วยังมีรายละเอียดอื่นๆที่น่าสนใจที่ควรต้องนำเอามาพิจารณาด้วย ซึ่งวันนี้เดี๋ยวผมจะมารวบรวมให้ได้ทราบกัน
[แก้ไขเพิ่มเติม 3/8/14] เรื่องของความกว้างของเฉดสี – ขอบคุณ mobilebomb สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
เราสามารถบ่งชี้คุณภาพของหน้าจอได้จากคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ความละเอียด (Resolution)
ความกว้างของเฉดสี (Color Gamut)
ความถูกต้องของสี (Color Accuracy)
ความสว่างสูงสุดและต่ำสุด (Brightness)
Contrast Ratio
มุมภาพที่สามารถรับชมได้ (Viewing Angle)
ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity)
การใช้พลังงาน (Power Efficiency)
ขยายความของแต่ละคุณสมบัติ
1. ความละเอียดของหน้าจอ ยิ่งเยอะยิ่งคมบาดตา
ถูกนำมาใช้ในการตลาดมากที่สุดเพราะเป็นตัวเลขที่ดูแล้วเข้าใจง่าย เห็นผลชัดเจน เช่น 480×800 (WVGA), HD (720×1280), Full HD (1080×1920), WQXGA หรือ QHD (1600×2560)
ความละเอียดยิ่งมากยิ่งทำให้แสดงผลภาพและตัวอักษรได้คมชัด
ความละเอียดและจำนวนพื้นที่แสดงผลต้องสัมพันธ์กัน หน้าจอยิ่งใหญ่ความละเอียดควรมากตาม แต่ถ้าหน้าจอเล็กก็ไม่จำเป็นต้องละเอียดมากเกินให้ความจำเป็น
พื้นที่น้อย ความละเอียดสูง ภาพจะยิ่งชัด
พื้นที่มากขึ้น ความละเอียดเท่าเดิม ภาพจะมีความคมชัดน้อยลง
Steve Jobs เป็นคนเอาทฤษฎีว่า หน้าจอมือถือที่ความละเอียดมากกว่า 300ppi (pixel per inch) ห่างจากตาราว 10 นิ้ว ตาคนเราจะแยกเม็ดพิกเซลบนหน้าจอไม่ได้ มาเผยแพร่ตั้งแต่ iPhone 4
LG G3 ได้พยายามแย้งทฤษฎีนี้ด้วยการบอกว่าตาคนเรารับรู้ที่ความละเอียดสูงกว่านี้ (แต่ส่วนตัวผู้เขียนแยกไม่ออกนะ)
300 ppi ไม่ใช่เลขตายตัว อาจลดลงได้เมื่อหน้าจอใหญ่ขึ้นและระยะห่างจากจอ-ตามากขึ้น1
ความแตกต่างของหน้าจอที่ความหนาแน่นของจำนวนพิกเซลต่างกัน
สรุป หน้าจอที่สวยคมชัด ควรต้องมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 300ppi
สูตรการคำนวนหาค่า ppi : ,
w = ความละเอียดตามแนวนอน (พิกเซล)
h = ความละเอียดตามแนวตั้ง (พิกเซล)
di = ขนาดของหน้าจอ (นิ้ว)
2.ความกว้างของเฉดสี ยิ่งมากภาพยิ่งสดใสมีชีวิตชีวา2,3
ตาของมนุษย์เราสามารถแยกสีได้ราวๆ 10 ล้านสี
หน้าจอทั่วไปจะไม่สามารถแสดงเฉดสีได้เท่าที่ตาเห็น
CIE 1931 xy chromaticity diagram เป็นไดอะแกรมถูกหยิบยกนำขึ้นมาใช้อธิบายเรื่องของเฉดสีมากที่สุดโดยสีที่แสดงในกราฟนี้เป็นสีที่สร้างขึ้นมาจากการคำนวนทางคณิตศาสตร์ เพื่อจำลองสีที่มีตามธรรมชาติ
กรอบสามเหลี่ยมด้านใน แสดงถึงมาตรฐานของเฉดสีแต่ละแบบ
จอมอนิเตอร์ ปริ้นเตอร์, และภาพแสดงบนอินเทอร์เน็ต ส่วนมากจะใช้ sRGB เป็นมาตรฐานเฉดสี ซึ่งมีพื้นที่เฉดสีที่ครอบคลุมน้อยกว่ามาตรฐานอื่น
หน้าจอที่คุณภาพสูงมักจะให้สีออกมาได้เกินมาตรฐาน sRGB (1996) และพยายามเทียบกับ Adobe RGB (1998) ที่มีความกว้างของเฉดสีมากกว่า
แต่หน้าจอที่แสดงสีได้เกินเฉด sRGB ไม่ได้หมายความว่าจะได้จอที่สีสวยเสมอไป ต้องมีการจัดการ (calibrate) กับสีที่เกินมานั้นให้ดีด้วย มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาสีเพี้ยนได้8
กล่าวคือ Color Gamut นี้จะกว้างแค่ไหนไม่สำคัญเท่าการแสดงสีให้ได้ถูกต้อง
ProPhoto RGB เป็นมาตรฐานเฉดสีของงานถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ให้สีที่ครอบคลุมมากกว่า
image credit : fstoppers
ตัวอย่างภาพ เปรียบเทียบภาพที่แสดงความกว้างของเฉดสีได้ต่างกัน ซึ่งภาพด้านล่างเป็นภาพ Original มีเฉดสีครบถ้วน กับภาพบนที่มีการลดจำนวนเฉดสีลงไป ทำให้สีดูซีดกว่าความเป็นจริง ซึ่งหน้าจอที่แสดงเฉดสีได้น้อยกว่าก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกันนี้เอง
สรุป หน้าจอที่แสดงสีครบถ้วนจะได้ภาพที่มีชีวิตชีวามากกว่า ซึ่งควรจะแสดงได้ไม่น้อยกว่ามาตรฐาน sRGB แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความถูกต้องของสีเป็นหลักด้วย
3. ความถูกต้องของสี ไม่สดหรือซีดเกินไป และไม่เพี้ยนติดสีอื่น4
คนทั่วไปมักจะหลงกับหน้าจอที่มีการเร่งสีให้สด ภาพออกมาดูดีเกินจริง
เมื่อนำไปเปิดที่จออื่นๆ อาจตกใจกับภาพที่เคยสวดสดกลับเป็นซีดจางไม่เหมือนจอเรา
แสงสีขาวที่แสดงบนหน้าจอควรต้องใกล้เคียงกับสีขาวจริงๆ ไม่ติด ฟ้า เขียว เหลือง แดง ม่วง
ซ้าย : เฉดสีของ Adobe RGB ซึ่งจอที่ดีควรจะมีจุดขาวอยู่ที่จุด D65 หรือคลาดเคลื่อนไปไม่มาก (credit: Wikipedia)
ขวา : การทดสอบความเที่ยงตรงของสี จะตรวจสอบจากสีที่แสดงตามจุดเทาต่างๆว่ามีการคาดเคลื่อนไปจากจุดต่างๆที่กำหนดไว้มากน้อยแค่ไหน (credit: DisplayMate)
ล่าง : สีจากหน้าจอต่างๆจะถูกนำมาพลอตเทียบว่ามีความแม่นยำขนาดไหน (credit: DisplayMate)
สรุป หน้าจอที่ดีควรให้สีตรงตามธรรมชาติ ไม่อ่อนหรือสดเกินไป
4.ความสว่างสูงสุดและต่ำสุด สำหรับดูในที่สว่าง-มืด
หน้าจอที่สามารถเร่งแสงสว่างได้มาก จะสามารถสู้แสงแดดตอนกลางวันได้
เปรียบเทียบความสามารถในการแสดงผลเมื่อออกแสงแดด Credit image: PhoneArena
การเร่งแสงหน้าจอให้มากขึ้น ควรต้องทำคู่ไปกับการลดแสงสะท้อน เพราะมันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มองไม่เห็นหน้าจอเมื่ออยู่ในแสงจ้า
หน้าจอที่มีการสะท้อนมากเหมาะกับเอาไปทำกระจกส่องตัว ไม่ใช่เอาไว้ทำหน้าจอ โดยมากจะแก้ไขโดยการเคลือบสารกันสะท้อน
หน้าจอที่สามารถปรับแสงให้ออกมาน้อย จะช่วยถนอมสายตายามค่ำคืนหรืออับแสงไฟ
สรุป หน้าจอที่ดีควรสว่างสู้แสง ไม่สะท้อนภาพมาก และหรี่ให้น้อยจนถนอมสายตาได้
5. Contrast Ratio ขาวให้สุด ดำให้สนิท5
คอนทราส เรโช (Contrast Ratio) คือ คุณสมบัติของหน้าจอที่บอกว่าสามารถไล่เฉดสีขาวไปถึงดำได้เนียนขนาดไหน5
หน้าจอคุณภาพสูงจะมีคอนทราสสูงตาม สีดำบนหน้าจอคือดำสนิท ไม่ออกเทาๆ
หน้าจอที่ดีควรจะแยกเฉดสีตั้งแต่ขาวสุดไปถึงดำสุดได้ทุกช่อง ไม่ใช่เห็นเป็นปื้นๆ
สรุป หน้าจอที่ Contrast Ratio ดีจะสามารถแสดงสีดำเป็นดำ ขาวเป็นขาว แยกเทาเป็นเฉดได้ครบถ้วน รวมถึงภาพสีที่จะสดคมกว่าเดิม
6. มุมภาพที่สามารถรับชมได้ โดยสีไม่ผิดเพี้ยน
ปกติเวลามองหน้าจอ เราอาจจะไม่ได้มองไปตรงๆเสมอไป อาจมีการเอียงจอเพื่อแบ่งคนอื่นดู หรือมองด้านข้างขณะพรีเซ้นต์งานอยู่เสมอ
หน้าจอจะให้แสงสว่างเต็มที่ต่อเมื่อเรามองเข้าไปตรงๆ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนองศาในการมอง ±30 องศา ความสว่างของจอจะลดลงอย่างมากทันที
หน้าจอ LCD จะมีความสว่างลดลงราว 50% เมื่อมองในมุมเกิน ±30 องศา
บางคนอาจไม่ชอบจอที่มีมุมภาพกว้าง เพราะไม่อยากให้ใครมองเห็นว่าเราดูอะไรอยู่
ตัวอย่างภาพจาก เปรียบเทียบสุดยอด Smartphone ต้นปี 2014 Galaxy S5, Xperia Z2, One M8 และ Find 7a (ความเร็ว-หน้าจอ-ลำโพง-กล้อง)
สรุป หน้าจอที่มีคุณภาพโดยมากจะยังคงคอนทราส จุดขาว และความถูกต้องของสีเอาไว้ได้ แม้เปลี่ยนมุมมองภาพที่มอง
7. ความสม่ำเสมอของแสงบนจอภาพ ควรต้องเรียบเนียนสม่ำเสมอ
หน้าจอ LCD จะมีการวางแสงสว่างหลังแผ่นภาพเพื่อส่องสว่างให้กลายเป็นภาพขึ้นมา โดยมากจะวางไว้ด้านข้าง6
Image credit : HD Installers
ข้อจำกัดของจอ LCD คือเรื่องความบางของจอ และความสม่ำเสมอของแสง
หน้าจอ OLED แทบจะไม่มีปัญหานี้เพราะทุกพิกเซลล้วนส่องสว่างด้วยตัวมันเอง
หน้าจอ OLED จะไปมีปัญหาเรื่องของสีเพี้ยนมากกว่า เพราะเม็ดสีอาจเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
ลักษณะของหน้าจอ LCD ที่มีแสงลอด
8. การใช้พลังงาน ภาพสวยแต่ต้องไม่กินพลังงาน
ข้อสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะนี่การใช้งานในแต่ละวันว่ามันจะอยู่ได้ยาวนานขนาดไหน
หน้าจอที่ใหญ่จะกินพลังงานสูงตามไปด้วย
หน้าจอที่มีความละเอียดสูงไม่จำเป็นว่าจะกินไฟมากกว่าความละเอียดต่ำ
จอ LCD และ OLED จะมีความแตกต่างกันชัดเจนเรื่องการกินไฟ
จอ LCD จะมีอัตราการกินไฟค่อนข้างคงที่ ไม่เปลี่ยนไปตามภาพที่แสดง
จอ OLED จะมีอัตราการกินไฟผันแปรไปตามภาพที่แสดง ยิ่งเป็นสีขาวมากเยอะจะกินไฟมาก
เปรียบเทียบการใช้พลังงานของหน้าจอแบบต่างๆระหว่าง OLED vs LCD
credit image : Bugzilla
รู้จักหน้าจอรุ่นยอดนิยมที่วางขาย7
TFT LCD – Thin Film Transistor Liquid-Crystal Display
เป็นจอยอดนิยมในอดีตและยังพบได้ในรุ่นประหยัดทั่วไป โดยเจ้า TFT LCD มันเป็นตัวที่พัฒนาขึ้นมาจากจอ LCD รุ่นแรกๆ โดยจะมีคุณภาพและความละเอียดที่ดีขึ้น แต่เจ้า TFT LCD ก็ยังมีปัญหาเรื่องมุมการมองแคบ สู้แสงแดดไม่ค่อยได้ และกินแบตมาก
IPS LCD – In-Plane Switching Liquid-Crystal Display
จอ IPS เรียกได้ว่าเป็นจอ LCD ขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นกว่าจอ TFT LCD เป็นอย่างมาก พบได้ตามมือถือรุ่น Hi-End ทั่วไป โดยจะมีการแก้ข้อเสียของ TFT LCD ไปแล้วทั้งเรื่องมุมการมองที่กว้างขึ้น กินพลังงานน้อยลง ความละเอียดสูง
AMOLED – Active-Matrix Organic Light-Emitting Diode
ต่อยอดพัฒนาขึ้นมาจากเทคโนโลยี OLED ที่ได้รับการยอมรับว่าดีกว่า LCD เพราะสามารถสร้างสีขึ้นมาได้ดีกว่า มีอัตราการตอบสนองที่เร็วกว่า มุมการมองภาพที่กว้างขึ้น ให้แสงสว่างได้แรงชัดขึ้น และมีน้ำหนักที่เบากว่า LCD
Super AMOLED
เป็นเวอร์ชั่นของจอ AMOLED ที่พัฒนาโดย Samsung ซึ่งจะทำการรวมเอาเซนเซอร์จับสัมผัสใส่เข้าไปบนหน้าจอไปเลย ทำให้ได้จอที่มีความบางที่สุดในตลาด
เปรียบเทียบ IPS LCD vs Super AMOLED
ทั้งสองหน้าจอนี้ เป็นรุ่นที่ถูกนำไปใช้ใน Smartphone ระดับพรีเมียมมากที่สุด และแน่นอนว่าก็ถูกเปรียบเทียบกันมากที่สุดตามไปด้วย ซึ่งหากเอามาวัดกันในปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องยากที่จะใช้เพียงความรู้สึกมาบอกว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน เพราะด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนากันขึ้นมาจากเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ใครที่เคยใช้ตัวไหนมาก่อน จากที่เคยไม่ชอบอาจจะเปลี่ยนใจได้ หรือเรียกได้อีกอย่างว่า IPS LCD และ Super AMOLED ดีแทบจะไม่ต่างกันแล้ว แต่ถ้าวัดเป็นตัวเลขแล้ว การตัดสินอาจจะมีการเทไปให้ทางฝั่ง AMOLED มากกว่า ซึ่งเดี๋ยวจะไปหามาเขียนให้ได้อ่านกันต่อไป
Super AMOLED สีเว่อร์ สดเกินจริง และกินไฟจริงเหรอ?
ถ้าเอาตาม“ทฤษฎี”แล้วจอ AMOLED อาจจะไม่ได้เวอร์หรือว่าสดเกินจริง แต่กลับให้ตามจริงได้มากกว่า เพราะว่าหน้าจอ Super AMOLED จะเป็นจอที่ให้เฉดสีได้กว้างกว่าจอ LCD และระบบ Print ที่ใช้กันทั่วไปแทบจะทุกที่ทุกบ้าน (sRGB) ทำให้เวลาที่เราเอาภาพไปเปิดที่จออื่นหรือปริ้นท์ออกมาแล้วจะได้คุณภาพด้อยกว่าบนจอ SuperAMOLED (อ้างอิงจากข้อ 2) แต่ต้องอย่าลืมว่าจอและระบบปริ้นท์ที่แย่กว่านั้น เป็นส่วนมากของคนทั่วไป จึงทำให้จอ AMOLED ดูเป็นคนส่วนน้อยและกลายเป็นสีเพี้ยนไปนั่นเอง
ส่วนเรื่องกินไฟมากน้อยนั้น ก็ขึ้นกับการใช้งานของแต่ละคนว่ามีการเปิดสีอะไรบนหน้าจอเป็นหลัก ซึ่งนั่นก็ทำให้เป็นการยากที่จะหาข้อสรุปที่ตายตัวว่าแบบไหนกินไฟมากกว่ากัน
ทั้งหมดนี้ต้องบอกว่าเขียนตามทฤษฎีนะ ส่วนของจริงเรื่องความสวยงามเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล ตัดสินแทนกันลำบาก ทำได้ดีที่สุดคือ ต้องใช้เป็นตัวเลขวัดกันออกมาให้ชัดเจนว่าใครเจ๋งกว่าใครด้านไหนแทนไปเลย ยันกันที่ตัวเลข…แต่สุดท้ายแล้ว ต่อให้ตัวเลขออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่าก็ไม่ได้ทำให้ความชอบของคนนั้นๆต่อหน้าจอที่เค้าชอบลดลงได้แต่อย่างใด ^^
ชอบจอไหนเชิญจอนั้นตามสะดวกเลย
ทิ้งท้าย
อยากรู้มากว่าหน้าจอมีผลในการตัดสินใจเลือกซื้อของเพื่อนๆขนาดไหน แล้วปกติแยกออกว่าหน้าจอไหนดีไม่ดีกันอย่างไรบ้าง ฝากมาคอนเม้นท์ไว้ด้านล่างได้เลยครับ
ปล.1 อยากเสริมตรงไหน หรือข้อมูลมีผิดพลาดประการใด ขอเชิญมาติติงให้แก้ไขได้ทันทีครับ จักเป็นพระคุณอย่างสูง
ปล.2 อ่านจบ วานมาเม้นท์บอกหน่อย ยาวๆแบบนี้เชื่อว่าไม่ค่อยมีคนอ่าน แค่อยากเขียน T__T
references:
1Retina display : http://en.wikipedia.org/wiki/Retina_Display
2Wikipedia : Color vision
3Wikipedia : CIE 1931 color space
4Displaymate : Reference Colors for the Standard Color Gamuts
5Contrast Ratio: http://en.wikipedia.org/wiki/Contrast_ratio
6HD Installer
7http://www.nairaland.com/836519/10-types-smartphone-displays-touchscreens
8Anantech : http://www.anandtech.com/show/7821/color-gamut-in-mobile-and-pcs
ภาพไม่ขึ้นเลยครับทั้งคอมที่ทำงาน และเน็ตมือถือครับ
ขออภัยครับ แก้ไขเรียบร้อย >/||\<
ดูได้แล้วครับ ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ 🙂
+1 เป็นเหมือนกันเลย ตอนแรกขึ้นอยู่รูปหนึ่งตอนนี้ไม่ขึ้นเลยสักอันละ
Edit : ดูได้ละ ขอบคุณมากครับ
ผมอ่านจนจบน้า
AMOLED ชอบตรงเวลามืดๆ มันมืดเกือบสนิทดี แต่ใช้มาปีกว่าแล้ว (note2) มีรอยตรง notification bar ด้านบนเป็นแถบเลย T T
ส่วน IPS ผมว่าหลังๆสีก็สวยขึ้นเยอะน้า (iPhone5)
subpixel สีน้ำเงิน มันเสื่อมไวมากครับ ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน รองลงมาก้อ เขียว แต่แดง อึดได้อยู่
เสริมนิดครับ ต้นทุนหน้าจอ AMOLED แพงกว่า LCD ประมาณ 10-20%
อ้างอิง
อ่านหมดแล้ววว มาให้กำลังใจฮะ
บทความมีสาระมาก อ่านแล้วได้ความรู้อยู่ฮะ
ปล.ไม่ซีเรียสเรื่องจอ เลยไม่ซีเรียสว่าต้องไปเปรียบเทียบใคร แหะๆ
เคยใช้อยู่ไม่กี่รุ่น
มี galaxy S1,galaxy nexus,nexus 4 (ปัจจุบัน)
ฝั่ง tablet ก็ ipad 1, nexus 7(2012) , ipad air (ปัจจุบัน)
ถ้ารวมทั้งจอมือถือ แท็บเล็ตที่เคยใช้ ผมชอบจอ ipad air ที่สุดนะ (แม้จะเป็นสาวกหุ่นเขียวก็ตาม) คือรู้สึกว่ามันดูนวลตาดี สีสันก็ถูกต้อง ปรับความสว่างต่ำสุดก็ไม่แสบตาเท่าไร แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังมากๆ ผมว่าจอ AMOLED ของซัมซุงอย่าง galaxy tab s 10.5 น่าจะตอบโจทย์ เห็นว่าคะแนนหน้าจอดีมาก
ส่วนจอคอม ต้นเดือนที่แล้วเพิ่งซื้อจอ dell 24" U2414H (1080p IPS) มาต่อโน้ตบุ๊ค ใช้งาน สบายตากว่าจอ TN ความละเอียดแค่ 1366×768 เยอะเลย
Steve Jobs เป็นคนเอาทฤษฎีว่า หน้าจอมือถือที่ความละเอียดมากกว่า 300ppi (pixel per inch) ห่างจากตาราว 10 นิ้ว ตาคนเราจะแยกเม็ดพิกเซลบนหน้าจอไม่ได้ มาเผยแพร่ตั้งแต่ iPhone 4
LG G3 ได้พยายามแย้งทฤษฎีนี้ด้วยการบอกว่าตาคนเรารับรู้ที่ความละเอียดสูงกว่านี้ (แต่ส่วนตัวผู้เขียนแยกไม่ออกนะ)
————————-
ผมเห็นด้วยกับผู้เขียนครับ ถ้ามองที่ระยะ10นิ้วแยกไม่ออกครับ ต้องจ้องใกล้พินิจพิจารณาอย่างใกล้ ใช้งานจริงคงไม่มีใครจ้องใกล้ๆขนาดนั้น
แม้ผมจะไม่ชอบผลไม้เลย
แต่จุดนี้ผมเห็นด้วยสุดตัว และถึงเกาหลีจะบอกว่า
แยกออกได้จริงๆนะ ลองเอามาเทียบกันแล้วนั่งเพ่งดูนานๆสิ
แต่ในชีวิตจริงมันไม่มีประโยชน์ และกินแรงเครื่องขึ้นมากโดยแทบไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ผมว่าก็มีหลายคนที่ดูจอห่างจากตาไม่เกิน 10 นิ้ว โดยเฉพาะก่อนนอน 5555
เอาจริงๆถ้าไม่ได้เอาเครื่องที่ความละเอียดมาวางคู่กันก้แยกไม่ออก แต่ลองเอาoppo find7 กับ find 7aมาวางคู่กันสิ ด้านหน้าเหมือนกัน แต่ตัวภาพในจอมันก้ต่างกัน คนก้ยังแยกแยะได้ว่าอันนี้ดูละเลียดกว่านะ ต่อให้มอง20นิ้วก้ยังแยกออก
Galaxy Nexus ใช้ไปสักพักจอลาย
LG Nexus 5 ใช้มาจะปี จอยังไม่ลาย ชอบๆ
Sumsung Galaxy S4 ของน้องสาว จอสวยมว๊ากก
iPhone 5S ของน้องสาว ไม่ต่างจาก Nexus 5 ที่ถืออยู่
Lenovo A39 ของแม่ พื้นๆ
มาลงชื่อว่าอ่านจบแล้ว
ส่วนตัวผมว่าถึงแม้บทความของพี่กิมจะยาว แต่ผมรู้สึกว่ามันอ่านง่าย และสนุกนะครับ ต้องขอชื่นชมพี่กิมในการหาสื่อประกอบ ที่ทำให้บทความยาวๆ ดูไม่น่าเบื่อ
ตั้งแต่ใช้มาจอ samsung มีปัญหามากสุด จอเหลือง จอด่าง จอม่วง จนเลิกใช้ samsung เพราะจอ
ส่วนจอ ips ใช้ดีสุดครับ
ก้อ มันเล่นกะของที่คุม ยากสุดก้อแบบนี้แหละครับ ปล่อยให้มันทำพอเข้าที่เข้าท่า จอมันจะแจ่มเว่อร์
ชอบจอsuperLCDสุด มันสบายตากว่า แต่จอซัมซุงมันสีสวยดี
แต่ตัวเองใช้จอIPS 5555
อยากให้ลองเอาจอ IGZO ของ Sharp มาเทียบด้วย อิอิ
พอดีมีแผนจะไปญี่ปุ่น อาจจะไปสอย ZETA 5 มา
IPS กำลังเขย่าวงการอยู่ขณะนี้ Z6 เข้าปุ๊บกี่ตัวก็หมดปั๊บ….ช้าอด หมดแล้ว
ผมชอบ IPS มากกว่านะ
จอ IGZO คุ้มกว่านะผมว่า สีทีไ่ด้กับการประหยัดพลังงาน
ผมไม่ชอบเลยที่ออกมาโฆษณาว่าต้องเลือกที่จอ ของแบบนี้คนใช้เลือกเองดีกว่า ไอโฟนไม่เห็นต้องโฆษณาเลยว่าจอสวย แต่ก็มียี่ห้อนึงมักจัะเอามาเปรียบเทียบกับของตัวเอง ว่าดีกว่า
โดยรวมแล้ว ส่วนตัวแล้วผมชอบ IPS นะ
แต่ก็ไม่ชอบอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เวลาให้สีดำแล้วมันดำไม่สนิทอะ
อ่านจบนะครับ ไม่ต้องกังวล (ถึงจะต้องพยายามอ่านหน่อยก็เถอะ แต่สาระมาแบบเข้าใจง่าย ต้องทนครับ)
ผมเคยใช้แต่ TFT กับ IPS ส่วนตัวชอบ IPS มากกว่า (แต่ดันมีโอกาสได้ใช้ TFT มากกว่า T^T)
ส่วนตระกูล AMOLET ไปดู S4 ของเพื่อนก็เฉยๆ แต่ใช้ไม่นาน ยังบอกอะไรไม่ได้
ส่วนตัว อยากลอง IGZO ครับ
บทความดีครับ จอของss ยอมรับว่าจอสวยครับ แม้รุ่นกลางๆอย่างace2 จอเนียนมาก สีก็สดใส ทีนี้ลองมาใช้lenovo s920 หน้าจอก็สมราคาถึงแม้จะเป็น ips แต่เทียบace2แล้วต่างกันเรื่องสีกับความละเอียดจอจนเห็นได้ชัด
ละเอียดมากๆ ชอบๆ 🙂
ส่วนตัวที่บ้านมีครบ TFT IPS AMOLED Super AMOLED
ตัวผมเองผมชอบ Super AMOLED สีสดได้ใจ แต่ถ้าเอาไว้อ่านบทความยาวๆอย่างเช่นบทความนี้ ผมขอ IPS ดีกว่าครับ
ผมชอบอ่านนะครับ สาระความรู้ การนำเสนอได้ไม่น่าเบื่อ มีการเอารูปมาประกอบทำให้เห็นจริง เข้าใจง่ายครับ
ความรู้ทั้งน้านน แผล๊บๆ
ขอบคุณงับ
ผมใช้ มือถือที่เป็นจอ IPS ย่อมชอบจอ IPS เป็นการเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว
แต่ถัาเอาเหตุผลละก็ ผมก็ว่าจอ IPS ใช้อ่านสบายตากว่า จอ super amoled นะ
ส่วนจอ super amoled ผมว่าใช้ดูหนังดูรูปได้ว้าวกว่า เทียบจากที่เห็นรูปในจอ Tab s ตัวใหม่ ที่จอดีขึ้นมาก
แต่ใช้นานๆ และเล็งอ่านตัวหนังสือ มันไม่ค่อยสบายตาเท่าไหร่ สุดท้ายก็มาตรงที่ชอบ IPS นั้นแหละครับ
ใช้หลากหลายสบายตากว่า
ชอบจอ IPS ครับ แต่ละค่ายก็อัดเทคโนโลยีมาต่างกัน เห็น sony เปิดจอ IPS ที่ให้สีดำกว่า IPS เดิมๆแหล่มเลย ส่วนจอ S AMOLED ใครๆก็ว่ามันเพี้ยนตลอดเวลาที่ผ่านมาพอทดสอบใน ss หรือเป็นเฉพาะค่าย แต่สดเกิน บางสีกลืนสีอื่นเท่าที่เห็น เทาๆนี่ดำเลย สรุป IPS แต่บางค่ายน่ะอย่าง htc นี่เด่นจอเลยสมจริงสบายตา กับ Sony สดสวยสุดๆ
IGZO มันไม่ใช่ Panel
แต่มันเป็นสารตอนทำ TFT ง่ายๆคือเป็น TFT
ส่วน Panel มันจะเป็นอะไรนั้นก็แล้วแต่จะเอาไปใส่กับ Panel อีกที
จะเอาไปใช้กับ OLED ก็ได้ IPS,LCD ก็ได้ ,,Sharp ทำเข้าใจกันผิด
มันเอามาใช้แทนของเก่าเพราะ Sharp เคลมไว้ว่า e- มันเดินทางผ่านได้ดีกว่า เลยประหยัด
จริงๆทู้นี้มาไกลละน่าจะใส่มาให้ครบพวก response time ด้วยอะไรด้วย
ส่วนตัวแล้วแยกความแตกต่างที่ชัดเจนไม่ออกนะครับ ระหว่าง IPS กับ super AMOLED เอาเป็นว่าพึงพอใจทั้งคู่ครับ
ทำไมบทความนี้ถึงไม่เป็นพื้นเหลือหรือปักหมุดครับ
มันเป็นความรู้ที่ควรปักหมุดสักระยะนะครับ
//ด้วยความเคารพ
เรื่องจอ
ส่วนตัวใช้ Note2, Z1, Iphone 4 iPhone 5 iPad 4 iPad mini
ผมชอบ IPSของZ1 เพราะอ่านหนังสือสบายตาครับ รองต่อมาก็จอตระกูล APPLE
ส่วนNote2 ผมต้องปรับความสว่างต่ำสุด ปรับลดสีลงมา มันสดเกินไป 555+
ขอบคุณครับมีประโยชน์มากๆ ครับ
สำหรับผม super amoled เท่านั่น เพราะผมชอบสีแสบตา นิ่มๆ ips ไม่ชอบครับ
สำหรับผม super amoled เท่านั่น เพราะผมชอบสีแสบตา นิ่มๆ ips ไม่ชอบครับ
ใช้มาหมดทุกชนิดที่ชอบที่สุดคือจอ super lcd ของ htcนะจอสดแต่ไม่่มากจนเกินไปและไม่จืดเกินไปกำลังดี ส่วน ips ก็ชอบแต่เป็นบางตัวเช่น huawei p6,iphone5s ปัจจุบันใช้ p6 รู้สึกชอบสีจอนะขนาด 720p แต่ไม่รู้สึกต่างจาก full hd เลยแทบแยกไม่ออก
ขอบคุณสำหรับบทความที่ดีครับ
ได้ความรู้เยอะเลยครับ
แวะมาทักทายว่าอ่านจบแล้วครับ ขอขอบคุณที่เขียนบทความที่มีประโยชน์และอ่านใด้ไม่เบื่อ
ส่วนตัวที่ผ่านมาเคยใช้จอ LCD และ SUPER AMOLED ครับ ผมชอบจอ SUPER AMOLED
นะ สีสวย ชัดเจนดี
ผมชอบทั้ง 2 แบบนะ แต่ AMOLED ยังมีปัญหาอยู่ไม่ใช่หรอคับ อย่างนี้เท่ากับว่ายังไม่สมบูรณ์ ว่าแต่ผมสงสัย Amoled นี่ไม่ได้มีแค่ SS ที่ผลิตได้ใช่มะคับ เหมือนกับจอ IPS ที่ LG ไม่ใช่ค่ายเดียวที่ทำได้ แล้วทำไมไม่เอาจอ True IPS ที่เป็นอีกเวอร์ชั่นของ IPS ที่ LG ผลิตมาด้วยอ่าา ผลิตได้แต่ไม่มีใครซื้อเนี้ย ก็เท่านั้นนะคับ
(เตรียมกินมาม่าเลยคับ ต้มให้ละ)
อ่านจบแล้วครับ ดีมาก ๆ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ
ใช้ grand 2 อยู่ เป็น lcd แต่มีความรู้สึกว่าสีสด และมุมมอง พอกับ ips เลย
ปริ้นเตอร์ไม่ได้แสดงผลด้วย sRGB ครับ Driver สามารถรับค่า RGB ได้แต่จะต้องแปลงเป็น CMYK สำหรับการแสดงผลเท่านั้น (พิมพ์) ไม่สามารถพิมพ์ด้วยสี RGB (หรือ sRGB) ได้ สรุปเครื่องพิมพ์ทั้งหมดมีระบบการแสดงสีแตกต่างจากจอภาพครับผม
– จอแสดงผลด้วยแสงทั้งหมดจะใช้ RGB
– วัสดุที่แสดงผลด้วยสี (ตัวสี) จะใช้ CMYK
พอดีเห็นมีการกล่าวถึงปริ้นเตอร์เลยขออธิบายเพิ่มเติมให้ครับ ส่วนข้อมูลที่เหลือนั้นแน่นและสมบูรณ์มาก ขอบคุณสำหรับการค้นคว้าข้อมูลมานำเสนอด้วยครับ
ลงชื่อว่าอ่านจบ บทความทรงคุณค่าจริงๆ
ขอบคุณสำหรับความรู้ ชอบครับ
หน้าจอดี-ไม่ดี วัดกันตรง สายตาคนใช้ ครับ ตาถึงมัย ตาบอดสีรึเปล่าว ไปละ
กระทู้ข่าวสาระเยอะดีครับ ข้อมูลแน่น ชอบการเขียนแบบนี้
ส่วนตัวผมชอบ แบบ Super AMOLED นะครับ เพราะมันปรับได้ ถ้าค่ามาตราฐานจะเร่งสีไปหน่อย ต้องไปปรับเป็น รูปแบบมืออาชีพ สีภาพที่เห็นจอมือถือกับคอมพิวเตอร์จะค่อยข้างเหมือนกัน
ก็ยังคงชอบจอ IPS มากกว่าอยู่ดี เพราะเท่าที่เห็นจอ AMOLED ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาตลอดเวลา แต่มันก็สวยนะ แต่เพี้ยนจริงๆ
จอ AMOLED ให้สีที่เที่ยงตรงกว่า IPS ครับ มันไม่เพี้ยนหรอกแค่ซัมซุงเร่งสีให้สด แต่มันก็เปลี่ยนโหมดสีจอได้
สุดยอด มีประโยชน์มากครับ
สุดยอด มีประโยชน์มากครับ
ยาวมากก แต่เยี่ยมครับผม ความละเอียดจอมีผล แน่นอนครับ ดูอย่าง fonepad 7 (FE170)นี่ ราคาถูก พอใช้จริง มึดมากมุมมองไม่ได้เลยแคบมากยิ่งเป็น แท็บเล็ต ควรจะต้องมีมุมมองกว้างกว่านี้อ่ะครับ เพราะคน ใช้จริง ๆ ส่วนใหญ่ ไม่ได้ถือกับมือตลอดเหมือนมือถืออยู่แล้ว ^^
ส่วนตัวเคยใช้ แต่ TFT กับ IPS ผมชอบ IPS นะเพราะใช้ IPAD AIR แต่ super amoled ใน Tab S ตอนนี้ก็ว๊าวจริงๆ
สีจะสดบาดตาไปไหน
หลังจากอ่านทำให้มั่นใจใน ips มากขึ้น
ผมไม่ค่อยชอบ amoled ตรงที่สีมันหลอกตาสดเกินจริงไปหน่อย ยิ่งถ้าชอบถ่ายภาพแล้วสีเพี้ยนมากๆ
amoled ที่สดเกินจริงนั้น ลองไปตั้งในโหมดสีหน้าจอได้ครับ ใช้อยู่เยี่ยมเลย
SUPER AMOLED ไม่ใช่ว่าเพราะ Samsung จงใจทำให้โหมด defualt ของจอภาพสดเกินไปมากกว่ามั้งครับ เพราะเวลาไปเทียบกับ Lumia รุ่นที่ใช้จอ AMOLED ก็ยังไม่ได้สดเท่ากับเครื่องของ Samsung เลยคือดูสดกว่า LCD ไม่มากเท่านั้นแต่ของ Samsung มากจนเกินไปถ้าไม่ปรับโหมด
เออเวลาเลือกก็ดูแค่จอไม่ได้นะครับเช่นความละเอียดจะดูแค่มันสูงหรือไม่ก็ไม่ได้นะครับ อย่าลืมดูปัจจัยอื่นๆด้วยเช่นตอน 1080p ฮิตใหม่ๆมีค่ายนึงทำออกมาเช่นกันแต่โมเดลที่ขายในประเทศไทยเป็นอันที่ลดสเป็คลงแต่จอยังเท่าเดิม ผลคือกระตุกมากครับเพราะประสิทธิภาพเครื่องมันไปไม่ค่อยไหวกับความละเอียดจอระดับนั้น
ใช้เซตะ 5 อยู่ จอตัวใหม่เป็น PureLED IGZO เทพครับ ประหยัดแบตฯมาก สีสด sony นี่ชิดซ้ายเลยทีเดียว
ผมก็ใช้zeta5ครับ
SH-04F
จอเป็นTFTครับ แต่มีPureLED (Red) IGZO
เคยมีบทความว่าน่าจะทำIGZOบนจอบนตระกูล OLED
แต่ผมว่าบนTFTประหยัดแบตดีมากละครับ
และมีPureLED สีแดงสดสวยมาก
แต่ชอบมากเวลาแสดงผลสีน้ำเงินแบบFacebook มาใช้ทีแรก
งง นึกว่าFacebookเปลี่ยนสี
คืิอสีเป็นสีฟ้าสดๆแทนน้ำเงิน
สีเขียวบนไลน์
จะออกสดๆอมมินท์
ประทับใจ
จนตอนนี้แทบไม่หยิบnote3หรือ5sมาอีกแล้วครับ
ปล.ตอนนี้
ซื้อLumia930มา
Clear Black Amoled
ยังดูดีกว่า
บนBlackberry z30ที่มีอีกตัวครับ
ชอบ AMOLED ครับ
จากที่ใช้ moto x ภาพดูมีมิติความลึกและเงา ซึ่งเป็นส่วนสีดำจริงๆมากขึ้น ทำให้เกิดความต่างระหว่างสีเข้มกับสว่างมากขึ้น ทั้งๆที่จริงความสว่างหรือสดของสีอาจเท่ากับจอประเภทอื่น(มั้ง) แต่ด้วยสีดำที่ดำจริงๆจึงทำให้สีที่อยู้ใกล้มีความสดใสและสว่างขึ้น(อันนี้คิดไปเอง) แต่โดยรวมจากการใช้ตัวนี้คนรอบข้างส่วนใหญ่จะชะเง้อมาดูและบอกว่า "จอสีสวย สีสดดี" (อันนี้ไม่อวย AMOLED นะ) ใน moto x นั้นสีไม่สดเกินไป เพราะจากการสังเกตุงานศิลปะหรือเรื่องอื่นๆที่มีสีมาเกี่ยวข้องของคนฝรั่งจะไม่เน้นสีที่สดเกินจริงเกินธรรมชาติ (อันนี้ลองสังเกตุดูนะครับ)
ได้รับสาระน่ารู้ดีๆ อีกแล้ว ขอบคุณที่นำมาฝากกัน
โดยส่วนตัวแล้ว แทบดูไม่ออก ว่า อันไหนดีกว่ากัน อาศัยว่าไปลองเล่นก่อนจะซื้อ
ดูว่าจอมันสวยสด ขนาดไหน ชอบไม่ชอบ รูปถ่ายออกมา เพี้ยนไม่เพี้ยน ทั้งแสงทั้งสี
สรุปคือ เอาตัวเราเองเป็นที่ตั้ง อิอิ
ปล. เอาที่เราชอบสบายใจที่สุดแล้ว ละ
ผมว่า AMOLED ไม่ใช่ว่าสีเกินจริงหรอก ดูอย่าง tabS รุ่นใหม่ พอทำsoftwareมาดีๆ สีก็accurateมาก จากรีวิวทุกสำนัก
ส่วนรุ่นเก่าๆ ผมว่า ซัมซุงจงใจให้สีสดๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้จอโดยรวมดูสวยขึ้น ถามว่าผิดมั๊ย ผมว่าก็แล้วแต่คนชอบมากกว่า
โดยส่วนตัว ผมชอบให้หน้าจอมันสดๆ เพราะว่าเดิมมือถือ มันคือสิ่งที่เรามองแป๊บๆ ไม่ได้เพ่งมองสีนานๆ ดังนั้นสีมันน่าจะสดกระแทกออกมา เรียกร้องความสนใจในทันทีมากกว่า จะมาแคร์เรื่องสีตรงมั๊ยเวลาไปลงคอม
เวลาอ่านตัวหนังสือที่ต้องใช้เวลานาน ตัวหนังสือต้องคมก็ต้องใช้contrastมากๆ ซึ่งจอ amoled ก็ตอบสนองตรงจุดนี้ได้ดีกว่า
โดยส่วนตัวชอบ sAMOLED นะ รุ่นใหม่ๆนี่ผมก็ว่าสีตรงกว่า IPS อีก ยิ่งสีดำนี่กินขาดครับเพราะมันดับไปเลย ที่สีไม่ตรงเพราะแรกๆซัมซุงไปเร่งสีเอามาเป็นจุดขายมากกว่าครับ แต่ข้อด้อยมากๆน่าจะอยู่ที่เรื่องเสื่อมสภาพนี่แหละครับ สีสดหมดแต่พอสีเทาเท่านั้นละ เงิบเลย เห็นเป็นปื้นๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนกลางคืน ด้วยเหตุนี้ถึงยังไม่เอาไปทำเป็นจอคอม หรือถ้ามีก็ไม่เป็นที่นิยม
ประเด็นคือมันแพงครับ ทำขนาดใหญ่ๆ
LCD , IPS ใช้ colour filter เพื่อแสดงสี
ตระกูล OLED และใกล้เคียงอีกชนิดนึงนั้น (xxx)
เปล่งแสงได้เองระดับสเปกตรัม แล้วแต่การกระตุ้น ไม่ต้องพึ่ง colour filter ก็น่าจะรู้นะ
(ใครอยากรู้มันยังไง ก็หาอ่าน quantum physics ดูนะครับ สมองผมไม่ถึง)
แต่ปัญหาของ OLED น่ะมันมี LCD(TN),IPS มีหมด เพียงแต่ OLED มันพึ่งจะเริ่มต้น อย่างหลังพัฒนากันมานานแล้ว
super amoled เท่านั้นครับ
อีกไม่นานจอ tv จะหันมาใช้จอ amoled กันมากขึ้น เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและถูกลง
จะเป็นจอชนิดเดียวที่จะก้าวผ่านการแสดงผลของจอพลาสม่าได้ ซึ่งตรงนี้ lcd ยังทำไม่ได้
อ่านจบแล้วก็ไป google ว่าเจ้า padfone infinity a86 (แบบไม่ได้เสียบเข้ากับ tablet นะครับ เพราะจำไม่ได้ว่าตัว pad มันเป็นจอแบบไหน) ที่ใช้อ่านบทความเป็นจอแบบไหน เพราะไม่ค่อยแน่ใจ ซึ่งตกลงเป็นแบบ super ips plus ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่า ips อ่านบทความสบายตากว่า เพราะสมัยก่อนใช้ note2 อ่านแล้วแสบตาหรือยังไงไม่ทราบ แต่ไม่สบายตาเท่าเครื่องนี้
ปล. ตอนซื้อเครื่องผมไม่ได้สนใจว่าเป็น amoled หรือ ips หรืออย่างอื่น ผมสนแค่ว่าถ้า ppi เกินประมาณ 300 ผมโอเคแล้ว จำได้ตอนใช้ htc one x ภาพก็คมเกินพอสำหรับผมแล้วครับ (ไม่เคยสนใจทฤษฎีของทาง apple เพราะไม่ชอบปรัชญาเป็นการส่วนตัว)
ผมสนเรื่อง zero shutter lag, วัดแสงในจุดที่แตะ, text wrap (fit to screen) ใน default browser ไม่ใช่ 3rd party แบบ opera browser … ย่อหน้านี้ไม่เกี่ยวกับบทความด้านบนแต่ประการใด อิอิ
เรื่องระยะเวลาการใช้งาน ความทนทานแบบไหนดีที่สุดครับ
ขอบคุณครับบทความดีมีสาระ อ่านจบแล้วครับ
ขอบคุณข้อมูลมากครับ
แต่ผมเสพ AMOLED มาโดยตลอด
เล่นเกมดูหนังสีสดดี
เมื่อก่อนใช้ IPS nova display
ตอนนี้ใช้ Super Amoled
บทความดีเลยครับ 😀
ผมใช้ โทรศัพท์จอ IPS ตัวท็อปๆมาตลอด
แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เล่น S4 ของเพื่อน เพราะเวลาดูวีดีโอ แสงและเงาแพรวพราวเนียนตามาก
ปัจจุบันผมเลือก Spec ด้านอื่นๆ เช่น CPU, Rom, Ram มากกว่าหน้าจอครับ
ผมใช้จอ AMOLED มาตั้งแต่ S1 S2 S3 และก็ใช้ iPad mini Iphone 5C
ชอบสีของ AMOLED มากกว่าครับ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าสู้แสงมันไม่ไหว แรงเกินไป ปวดตามากเวลาเล่นนานๆ ตอนนี้ผมใช้จอ IPS LCD บ่อยกว่า โดยเฉพาะเวลาเล่นกลางคืนปิดไฟ แสงเบาตามาก ไม่แสบเท่า AMOLED
ได้ข้อมูลและความรู้ดี
บทความเนื้อหาดีมากครับ เข้าใจง่ายดี
ขอเอาไปแชร์ต่อนะครับ
ซ้ำ
AMOLED จอสวยสุด คอนทราสดีสุด มุมุมองกว้างสุด สีดำดำสุด แต่ไม่สบายตาเมืองมองนานๆ แล้วความละเอียดหน้าจอ 2K กับ FHD ก็ไม่เห็นความแตกต่างกันเลย สายคนแยกความละอียดขนาดนั้นไม่ได้ ต้องมองใกล้ๆ ชนิดจับผิดกันทีเดียว ซึ่งในความเป็นจริง ใครจะมานั่งจ้องจอในลักษณะนั้นเหมือนกลิ่นที่คนเรารับรู้ได่ไม่กี่ชนิด ทั้งที่โลกในนี้มีกลิ่นอยู่มากมาย