หลังจากดูรีวิวสไตล์ลุงหนวด Octopatr กันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูของอินู๋เนยกันบ้างละกัน โดยเป็นรีวิวจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมา 1 อาทิตย์ (ถ้าตัดเวลาที่ได้ เครื่องอุดมไปด้วยปัญหาจนต้องเดินทางไปเปลี่ยนเครื่องทิ้งไป)

แรกจับ วัสดุ อุปกรณ์

ยืนยันคำเดิมว่าความรู้สึกแรกที่จับเครื่องนี้คือ “มันเบามาก” แต่พอใช้งานจริงผ่านไป 1 อาทิตย์ ขอบอกว่า “มันเบาไป” เพราะความเบาของมัน รวมกับความใหญ่ของเครื่อง (จอ 4.7″) ผสานกับวัสดุที่ไม่เกาะมือเท่าไหร่นัก ทำให้โอกาสที่มันจะหล่นมีสูงมากกกกกก ที่ผ่านมาเกือบหล่นไปแล้ว 3 ครั้ง จากคนสามคน โชคดีที่คว้าไว้ทัน จริงอยู่ที่วัสดุอาจจะมีการโฆษณาว่าหล่นแล้วไม่เป็นอะไร แต่เอาเข้าจริง ถ้ากระจกลงยังไงก็แตก ใครจะเสี่ยง จริงป่ะหละ …

วัสดุด้านหลังทำจากโพลีคาบอร์เนต มีคุณสมบัติในการทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน รวมถึงโดนน้ำได้โดยไม่เป็นอะไร ที่น่าประทับใจคือถึงมันไม่ทนรอยเลอะ แต่ถ้าเลอะแล้วสามารถเอาน้ำหรือผ้าเปียกเช็ดออกได้เนียนๆ กลับมาสะอาดเหมือนเดิม เพราะวัสดุมันเรียบ ไม่มีไปติดค้างอะไรให้หงุดหงิดใจแน่นอน ตัวที่ใช้เป็นสีขาว เคยเลอะเครื่องสำอางของณิชกานต์ เช็ดด้วยกระดาษธรรมดาไม่ออก (ตอนนั้นปาดเหงื่อ) แต่พอล้างด้วยน้ำก็ออกปกติดี ทุกวันนี้ยังขาวเนียน สวยสดใส ไร้ร่องรอย เหมือนเพิ่งซื้อใหม่ ทั้งๆที่เก็บแบบไม่ได้ถนุถนอมอะไรเลย ยัดใส่กระเป๋ากางเกงดื้อๆ เคสก็ไม่ได้ใส่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าจอเป็นรอยง่ายมาก โปรดใช้อย่างระมัดระวัง ติดฟิล์มได้ก็ติดไป ไม่งั้นจะเสียใจภายหลังเอา


ไม่ใช่มือถือสำหรับการใช้มือเดียว

ด้วยความใหญ่และความลื่นของวัสดุข้างต้น ทำให้สุดท้ายการใช้งานที่เหมาะสมที่สุดคือ ใช้มือข้างนึงถือไว้อย่างมั่นคง ส่วนมืออีกข้างจิ้มจอ จากที่ลองใช้มือเดียวดู พบว่าปุ่มมันกระจายไปทั่วจอเลย พอจิ้มไปจิ้มมาก็หล่นอย่างเต็มภาคภูมิ … (ทดสอบบนเตียง ไม่ต้องตกใจ หล่นก็หล่น)


ดีไซน์งามงด

งานดีไซน์ตัวนี้ทำมาได้ดีมาก ยอมรับว่าสวยงามทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รู้สึกมีค่าทุกครั้งที่หยิบขึ้นมา เมื่อรวมกับวัสดุแล้ว แฮปปี้กับภายนอกของมันมากครับ


Defect เยอะ ระวังไว้

ถึงดีไซน์จะงาม บอร์ดี้จะเป็นชิ้นเดียว แต่งานประกอบงานผลิตทำมาไม่ดี อย่างที่เคยบ่นใน Blog ก่อนหน้านี้ ผนวกกับรายงานจำนวนมหาศาลทั้งในและนอกประเทศ ยืนยันตรงนี้ได้เลยว่า HTC One X เป็นมือถือที่มี Defect เยอะมาก ส่วนตัวก็เจอสามจุดในเครื่องเดียว บ้าคลั่งมาก ก่อนจะซื้อโปรดตรวจให้ดีก่อน


จอสวยไม่ง้อ AMOLED

ในขณะที่โลกพากันเห่อ AMOLED แต่สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อ One X คือจอ Super LCD2 … ตลกดีป่ะ ความจริงมีอยู่ว่าจอ Super AMOLED จริงๆแล้วแสบตากว่ามาก ไม่ถนอมสายตาเท่าไหร่ จอ LCD นวล ดีต่อสายตากว่าเยอะ และที่สำคัญสุดๆคือ เมื่อเฉลี่ยการใช้งานแบตเตอรี่แล้ว พบว่า Super AMOLED เปลืองแบตกว่าจอ LCD อีก ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เลยแฮปปี้กับจอมันมาก

และการที่มันเป็น LCD นี่เอง ทำให้เทคโนโลยีการผลิตจอ 720p ของ One X อยู่ในขั้นสามารถผลิตจอ RGB Array ได้แล้วแบบสบายๆ ไม่ใช่ Pentile แบบที่ Galaxy Nexus เป็น ส่งผลให้จอชัด คมกริ๊บบบบราวกับกระดาษ ใช้แล้วฟินมาก จอ 1280×720 พิกเซลในพื้นที่ 4.7 นิ้ว

วัสดุที่เคลือบจออยู่เป็นกระจก ทนแรงขีดข่วน ใส่ในกระเป๋ามาหลายวัน ไม่พบรอยขีดข่วนเลย ถือว่าผ่าน แต่ถึงจะทนการขีดข่วนแต่มันไม่ทนแรงกระแทกนะ ตกทำมุมดีๆก็แตกแล้ว ค่าเปลี่ยนจอ 6,500 บาทเลยทีเดียว … รู้ยังว่าทำไม Concern เรื่องการตกนัก เอิ๊กๆ

สรุปแฮปปี้กับจอมากฮะ จอคม สบายตา


ทัชสกรีนติดนิ้ว

สั้นๆคือ ตั้งแต่ใช้มาเป็นมือถือที่ทัชสกรีนติดนิ้ว “ที่สุด” ในบรรดาแอนดรอยด์ทั้งหมดที่เคยเล่นมา เกือบจะเทียบเท่า iPhone แล้ว ถ้าให้ไอโฟน 10 คะแนน HTC One X ก็ติดนิ้วระดับ 9 คะแนนแล้วหละ


ลื่น เร็ว แรง

HTC One X ทำงานด้วยซีพียูพลัง Quad Core Tegra 3 ซึ่งนี่เป็นปัจจัยหลักที่เราซื้อมา แต่ไม่ใช่เพราะความแรงหรอก แต่เพราะเค้าโม้ว่ามันประหยัดแบตกว่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 4+1 คอร์ ตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรซึ่งความแรงมากมาย แต่พอใช้จริงปรากฎว่ามันแรงมาก ลื่นมาก เร็วมากกกกกกก ดังนั้นคำถามที่ว่า “มันลื่นเร็วแรงมั้ย?” ตอบได้สั้นๆว่า “มาก” ครับ


3D ทรงพลัง

ด้วยจออันละเอียดยิบ รวมแล้ว 921,600 พิกเซล แต่การ์ดจอกลับสามารถ Handle ได้ด้วย Frame Rate ที่สูงมาก พอทดสอบเกมสามมิติก็พบว่าภาพคมมาก และลื่นมากกกกกกกกกก

สรุปแล้วระบบ 3D ของ HTC One X ทรงพลังมากครับ เล่นเกมแล้วรับรองว่าเคลิ้ม แต่ก็น่าเสียดายที่เกมหลายๆตัวยังไม่รองรับ รอกันต่อปาย


ร้อนดั่งเตารีด

สั้นๆครับประเด็นนี้ ถ้าถามว่า “ร้อนมั้ย” ฉันตอบเลยว่า “มากกกกกก” ร้อนจนถือแล้วหมดกำลังใจเลยทีเดียว ร้อนพอๆกับ iPhone 4S ตอนใช้งานหนักๆเลย


แบตหมดไวดั่งสายน้ำ

ใช้มา 1 อาทิตย์ แบบใช้งานเรื่อยๆ เปิด 3G เพื่อใช้เป็นครั้งคราว นับเป็นชั่วโมงก็เฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง ที่เหลือเล่นเกมบ้าง ถ่ายรูปเล่นบ้าง พบว่าอายุแบตแต่ละวันเฉลี่ยอยู่ที่ 6-12 ชั่วโมงเท่านั้น

แบตเตอรี่ตอนนี้ถือว่าไม่พอใจครับ โชคดีที่พก Mobile Booster ไว้ ก็เลยคอยชาร์จให้อยู่พ้นวันได้เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่พกก็หมดก่อนถึงบ้านทุกครั้งไป เห็นว่าประเด็นเรื่องแบตเกิดจากการที่ HTC จับยัดโปรแกรม NVIDIA Power Control ไว้ผิด Folder ทำให้แอพฯตัวนี้ไม่ทำงาน ก็เลยไม่สามารถควบคุมการใช้งานแบตเตอรี่ได้ … ผ่าง! รอเฟิร์มแวร์ใหม่อย่างเดียว – –


แรมไม่ค่อยจะพอ

ถึงแรมจะให้มา 1 GB แต่เอาเข้าจริง OS ซัดไปหมดแล้ว เหลือว่างแค่ 280-300 MB เท่านั้น (วัดจากตอนเปิดเครื่อง) ถือว่าผิดหวังเล็กน้อย ตอนแรกหวังว่าจะเปิดเกมสลับไปสลับมาอย่างไม่มีปัญหา แต่เอาเข้าจริงเปิดได้แค่ 1-2 เกมอย่างมาก พอสลับไปแอพฯอื่น เกมก็ทำลายตัวเองไปละ

แต่สำหรับการใช้งานทั่วไป ก็ถือว่าแรมเหลือๆอ่ะนะ ไม่มีปัญหาว่ารันแอพฯไหนไม่ได้เพราะแรมไม่พอ


Firmware ไม่เสถียร

One X ถือเป็นโปรดักส์ตัวแรกของ HTC ที่ใช้ ICS ปรากฎว่า Firmware ที่มากับเครื่อง Base บน Android 4.0.4 ทำมาได้ไม่เสถียรเลย แอพฯทั้งหลายชอบ Crash เป็นครั้งคราวโดยไม่มีสาเหตุ ราวกับแอพฯโดน Kill ไปดื้อๆระหว่างใช้งานอยู่ ที่เจอบ่อยโคดๆก็คือ Facebook ชอบเปิดแล้ว Crash จนใช้งานไม่ได้ในหลายๆครั้ง หรือเกมบางตัวก็ปิดตัวไปดื้อๆ บางแอพฯเปิดแล้วค้างก็มี ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ความผิดแอพฯ สรุปแล้ว Firmware ไม่เสถียรเอามากๆ คงต้องรอเฟิร์มแวร์ใหม่เอาหละ


เมนูเปลืองที่จอ

คงมีคำถามว่าเครื่องไม่มีปุ่มเมนูแล้ว เมนูจะไปอยู่ที่ไหน นี่คือคำตอบครับ

ปรากฎว่ามันเปลืองที่จอมากกกก แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่เรื่องของการเปลืองที่จอหรอก แต่ตอนเล่นเกมเนี่ย มือชอบไปโดนบ่อยมาก มากจนรำคาญ

กลายเป็นว่าไม่ชอบแอนดรอยด์ที่ไม่มีปุ่มเมนูไปเลย


กล้องไม่ได้ชัดอย่างที่คิด

HTC โฆษณาว่า One X มีดีที่ “กล้อง” แต่เอาเข้าจริงเหมือนเค้าเน้นการถ่ายเร็ว จนลืมเน้นเรื่องคุณภาพกล้องไป

ขอประกาศกร้าวตรงนี้ว่ากล้อง One X อยู่แค่ระดับ “ปานกลาง” เท่านั้น ถ้าให้คะแนนสเกลเต็ม 10 ตัว One X คงได้แค่ราวๆ 6 คะแนนเท่านั้น ภาพออกมาไม่เคยคมเลยแม้แต่ภาพเดียว หนำซ้ำไม่ว่าจะถ่ายในสภาพแสงดีแค่ไหน Noise ก็กระจายทุกภาพ

ยิ่งถ้าสภาพแสงไม่ค่อยดีนะ

ตอนแรกคิดว่าแค่เอามาเป็นกล้องมือถือก็คงโอเคมั้ง แต่หลังจากได้ใช้จริง รู้สึกแชร์ภาพขึ้นทั้ง MOLOME และ Instagram แล้วภาพห่วยทุกรูปเลยหละ ขนาดบีบภาพให้เล็กแล้วนะ ไม่ประทับใจจริงๆ

ระบบ Flash หลายระดับทำมาได้ดี แต่ยังไงหลอดแฟลช LED ก็ยังมีข้อจำกัด ผลที่ได้ก็ยังคงไม่มีมิติ

สรุปแล้ว ข้อดีของกล้อง One X คือเร็ว ถ่ายเร็วจริงๆ Burst Mode นี่สะใจมาก เหมาะกับการถ่ายตัวเอง เพราะเลือก Act ที่เหมาะที่สุดได้ ชอบมากระบบ Burst Mode เนี่ย แต่ถ้าจะเอาคุณภาพภาพ คงต้องคิดหนักหน่อยแล้วหละ

กระจกครอบเลนส์เป็นรอยง่ายมาก

ด้วยการที่กล้อง One X มีค่า Aperture f/2.0 ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการวางกล้องพอสมควร ผลคือตรงโมดูลกล้องเลยนูนออกมา ผลที่ตามมาคือ … กระจกครอบเลนส์เป็นรอยง่ายมากครับ จนถึงตอนนี้เป็นรอยไปแล้วสองรอย เซ็งเป็ด


เสียงดีจริงอะไรจริง

ลำโพง Beats Audio ที่มากับตัวเครื่องเสียงดีจริงอะไรจริง ปกติเป็นคนชอบฟังเพลงแต่ไม่ได้หูเทพอะไร ฟังไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นมือถือรุ่นไหนสามารถเล่นออกลำโพงเครื่องแล้วเสียงดีได้ แต่ One X ทำได้ครับ เคยลองเนียนเปิดเพลงในออฟฟิศด้วย One X ปรากฎว่าทุกคนนึกว่าเปิดจากคอมพ์


ต่อ Mass Storage ได้

ตั้งแต่ Android 4.0 ออกมา ปรากฎว่ากูเกิ้ลบันดาลให้ Galaxy Nexus ต่อ Mass Storage ไม่ได้โดยไม่มีสาเหตุอันสมควร ให้ต่อผ่าน MTP เอา แต่ปรากฎว่า HTC One X ที่รัน ICS เหมือนกัน กลับต่อได้ อันนี้ขอ Mark ไว้ว่าเป็น Feature ครับ  


Sense 4.0

จุดเด่นของมือถือ HTC ตั้งแต่ครั้งเก่าก่อนคือทำ Launcher อย่าง HTC Sense มาได้ดีและครบถ้วน ตัวนี้เป็นตัวแรกที่มาพร้อม Sense 4.0 และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง User Experience ดีมาก แต่ไอคอนโบราณไปหน่อยนึง และก็เหมือนจะกินแรมมากไปเยอะเลยทีเดียว …


สรุป

แฮปปี้กับ HTC One X มาก เป็นมือถือแอนดรอยด์เครื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำให้เราไม่อยากได้ iPhone ได้ เสียดายอย่าเดียวคือกล้องไม่ดี ไม่งั้นมันคงจะเป็น Perfect Phone แล้วหละ

ส่วนตัวถามว่าคุ้มมั้ยกับมือถือค่าตัวราคา 21900 บาท ? … สำหรับเนย เนยยอมจ่ายนะ แต่ถ้าฟันราคามาราวๆ 20,000 บาท จะซื้อโดยไม่คิดเลย (ตัวนี้คิดนานเหมือนกันกว่าจะซื้อ)