ดูท่าจะหันมาเอาดีทางด้าน VR ซะแล้ว สำหรับแบรนด์ HTC…เพราะนับตั้งแต่ตอนเปิดตัวอุปกรณ์ VR อย่าง HTC Vive ในช่วง 7 เดือนแรก สามารถขายได้ถึง 140,000 ชุด และในปี 2016 HTC สามารถขาย HTC Vive ได้กว่า 450,000 ชุด (HTC Vive ราคาชุดละ 800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 28,000 บาท)

โดยธุรกิจ VR ดังกล่าวทำกำไรให้ HTC เป็นจำนวนเงินกว่า 360 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 12,600 ล้านดอลลาร์) และในขณะที่ธุรกิจมือถือของ HTC ยังคงเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัท แต่ CEO ของ HTC กลับมองว่าธุรกิจ VR นั้น มีความสำคัญกับบริษัทมากกว่าธุรกิจมือถือที่ค่อยๆ ตกต่ำลง

จากที่ช่วงหลังๆหลายปีมานี่ มือถือของ HTC ไม่มีรุ่นไหนที่เปรี้ยงปร้างขายดิบขายดีจนเป็นกระแส และถึงแม้ว่า HTC 10 ที่ออกมาเมื่อกลางปี 2016 จะได้รับคำชมในด้านบวกจากหลายๆ สำนัก แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ยอดขายดีขึ้นสักเท่าไหร่ ไหนจะ HTC U Ultra ที่พึ่งวางจำหน่ายได้ไม่นานก็มีมือถือระดับเดียวกันเป็นคู่แข่งอีกเพียบ แต่ในธุรกิจ VR นั้น ยังไม่ค่อยมีคู่แข่งทางการค้ามากนัก (ในตอนนี้) ดูแล้วยังมีแค่ Oculus Rift เจ้าเดียวเท่านั้นที่ทำตลาด VR ได้สูสีคู่คี่กับ HTC Vive

Vive and Rift

HTC ก็เลยตัดสินใจขายโรงงานผลิตมือถือของตัวเองแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ขนาด 114,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 28 เอเคอร์ เป็นเงินกว่า 91 ล้านดอลลาร์ (3,185 ล้านบาท) เพื่อนำมาลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจ VR ที่กำลังไปได้สวย และ HTC ก็บอกว่าการขายโรงงานแห่งนี้ทิ้ง จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อธุรกิจมือถือแน่นอน

 

ที่มา : Phonearena