Huawei ได้นำเอา Huawei Mate 8 ที่เปิดตัวไปแล้วในจีนช่วงปลายปีที่ผ่านมา มาเปิดตัวแบบ Grand Openning อีกครั้งในงาน CES พร้อมประกาศวางจำหน่ายทั่วโลก มีประเทศไทยรวมอยู่ในกลุ่มแรกหรือ Tier-1 ด้วย นอกจากนั้นยังมีแท็บเล็ต Media Pad M2 10.0 ที่มาพร้อม M-Pen รองรับแรงกดหลายระดับแบบเดียวกับของ Note และ Huawei Watch รุ่นพิเศษออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ

Huawei Mate 8 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ยังคงคงามละเอียด Full HD เอาไว้ น่าจะเป็นเจ้าเดียวที่ยังไม่ยอมขยับความละเอียดขึ้นไปที่ 2K ซึ่งการคงไว้ที่ความละเอียดระดับ Full HD นั้นช่วยประหยัดได้ทั้งแบตเตอรี่และก็ RAM ส่วนข้อด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องของความละเอียดสำหรับใครที่ชอบจอคมๆ 

มาพร้อมกับ CPU ตัวใหม่ที่ Huawei พร้อมนำเสนอ Kirin 950 มาพร้อมความแรงและเร็วขึ้นผิดหูผิดตาไปจากรุ่นก่อนๆ เรียกว่าแซง Exynos 7420 ไปแล้วในผลการทดสอบก่อนหน้านี้ ด้วยอานิสงค์ของสถาปัตยกรรม FinFET Plus ที่ 16 นาโนเมตร 

ส่วนกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลนั้นยังมาพร้อมระบบกันสั่น 3 แกน และ Hybrid Auto Focus ที่รวมเอา Phase detection Auto Focus + Contrast Auto Focus เข้าด้วยกัน

ตัวเซนเซอร์รับภาพก็มีขนาดใหญ่ขึ้น โดย Huawei Mate 8 เลือกใช้เซนเซอร์ Sony IMX298 ที่มีขนาด 1/2.8″ ใหญ่กว่าทั้ง Mate 7 และ iPhone 6s Plus ช่วยให้ระดับ Dynamic Range ของภาพดีขึ้นไปอีก 20% 

โดยประเทศกลุ่มแรก (First Wave) ที่ Huawei Mate 8 จะเริ่มวางจำหน่ายนั้นมีไทยรวมอยู่ด้วย โดยมีราคาของรุ่น 3GB/32GB อยู่ที่ 599 ยูโร (ราว 23,000 บาท) และรุ่น 4GB/64GB อยู่ที่ 699 ยูโร (ราว 27,000 บาท) แต่คาดว่าราคาเข้าไทยน่าจะถูกกว่านี้เพราะปกติราคามือถือของยุโรปนั้นแพงกว่าบ้านเรา 2-3 พันบาทได้

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Huawei Mate 8 สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความก่อนหน้า เปิดตัว Huawei Mate 8 หน้าจอ 6 นิ้ว พร้อมชิป Kirin 950 กล้อง 16 ล้านพิกเซลพร้อมกันสั่น 3 แกน 

 

มาต่อกันที่ Huawei Media Pad M2 10.0 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 10 นิ้ว ลำโพง 4 ตัว มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และ M-Pen ไว้เขียนหน้าจอ ท้าชนกับ Galaxy Note เต็มๆ

หน้าจอ 10 นิ้วมาพร้อมความละเอียด Full HD 1920×1200 พิกเซล มีโหมดการแสดงผลหลากหลายแบบ ทั้งเร่งสี ถนอมสายตา และโหมดสู้แสงจ้าของพระอาทิตย์

ทั้งยังมาพร้อมพลังเสียงกระหึ่มแบบ Hi-Fi ของ Media Pad M2 10.0 ที่ได้ harman/kardon มาช่วยในเรื่องของระบบเสียงและลำโพง 4 ตัว แยกเป็นลำโพง Bass 1 คู่ และลำโพง Treble อีก 1 คู่ รวมถึงปรับจูนเสียงจากช่องหูฟังให้มีรายละเอียดดีและละเมียดละไมมากขึ้น

เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านหน้า (เห็นแบบนี้แล้วหน้าตาเหมือน Galaxy Tab จัง) ที่นอกจากจะใช้ปลดล็อคได้แล้ว ยังใช้ถูซ้ายปัดขวาควบคุมการทำงานได้แบบเดียวกับ trackpad ของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค 

และตบท้ายด้วย M-Pen ที่ใช้เขียนบนหน้าจอ Media Pad M2 10.0 พร้อมรองรับแรงกดได้ 2048 ระดับ เรียกว่าเปิดตัวมาท้าชนกับทั้ง Galaxy Note และ Tab A แบบเต็มๆ รวมถึง iPad Pro ของ Apple ด้วย

Huawei Media Pad M2 10.0 ก็จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกอีกเช่นกัน 

ในส่วนของราคานั้นมีการแยกออกเป็นรุ่น WiFi / WiFi + M-Pen ราคา 349 เหรียญ และ 419 เหรียญ ส่วนรุ่น LTE / LTE + M-Pen มีราคาอยู่ที่ 399 เหรียญและ 469 เหรียญตามลำดับ (ทำไมเดี๋ยวใช้ยูโร เดี๋ยวใช้เหรียญสหรัฐ งงวุ้ย)

 

ปิดท้ายกันที่ Huawei Watch ที่เคยเปิดตัวในบ้านเราไปแล้ว (แต่ยังไม่ขาย) โดยในงานนี้ก็ได้มีการเปิดตัวเพิ่มอีก 2 รุ่น นั้นก็คือ Huawei Watch Jewel และ Huawei Watch Elegant โดยทั้ง 2 รุ่นได้ผลิตออกมาเจาะตลาดสาวๆ

มีการปรับรูปทรงตัวเรือนของ Huawei Watch ให้เพรียวและโค้งมนมากขึ้น ทั้งยังมีการใช้สีทองกุหลาบ Rose Gold มาเพิ่มมูลค่าให้ดูพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก 

โดยในรุ่น Huawei Watch Jewel นั้นมีการร่วมมือกับ Swarovski นำเอาคริสตัลที่เงางามดุจเพชรขนมาประดับเอาไว้บนตัวเรือนให้มัน บลิง บลิง วิบวับกันไป

นอกจากนั้นก็มีการแนะนำ Watch Face ที่ทาง Huawei ออกแบบเพิ่มให้เลือกใช้งานอีกหลากหลาย 

และฟีเจอร์ใหม่ของ Android Wear ที่สามารถใช้โทรและรับสายได้ซึ่งมีการทดลองใน Huawei Watch บางเครื่องไปแล้ว ผ่านการอัพเดท software ใหม่ ซึ่งในงานนี้ก็เหมือนมาเปิดตัวฟีเจอร์นี้ในชื่อ On-Watch Calling 

สำหรับราคาของ Huawei Watch Elegant นั้นอยู่ที่ 499 เหรียญสหรัฐ และ Huawei Watch Jewel อยู่ที่ 599 เหรียญ

อ้อ มีปิดท้านอีกนิดนึง คือ Nexus 6P สีทอง Matte Gold นั้นพร้อมจำหน่ายแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นและอินเดียครับ