รีวิว HUAWEI Pura 80 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง HUAWEI ที่ยังคงชูจุดเด่นด้วยสเปคกล้องแบบจัดเต็ม และดีไซน์ของโมดูลกล้องอันเป็นเอกลักษณ์ประจำซีรีส์ พร้อมกับนวัตกรรมสำหรับการถ่ายรูปใหม่ กล้องเทเลโฟโต้คู่สลับเลนส์ได้ ครั้งแรกของสมาร์ทโฟน นำไปใช้งานเพื่อถ่ายรูปจะสวย คมชัด ซูมไกลได้มากขนาดไหน DroidSans จัดให้ตามคำขอ!

ดีไซน์รอบตัวเครื่องของ HUAWEI Pura 80 Ultra
เร่ิมต้นกันที่ดีไซน์รอบตัวเครื่องกันก่อนเลย HUAWEI Pura 80 Ultra หากมองดูแบบผิวเผินก็จะรู้สึกว่าดีไซน์นั้นมีความคล้ายคลึงกับ Pura 70 Ultra อยู่พอสมควร แต่หากเจาะลึกลงไปดูที่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายอย่างครับ โดยดีไซน์โมดูลกล้องยังคงใช้เป็นทรงสามเหลี่ยม Forward Symbol พร้อมความประณีตด้วยลวดลายของพื้นผิวบริเวณโมดูลกล้องที่คล้ายกับแฉกของพระอาทิตย์

รอบตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบขอบโค้งมนที่รับกับโมดูลกล้อง และหน้าจอแบบ Quad-curve Display โค้งทั้งสี่ด้าน แถมโมดูลกล้องก็ยังมีน้ำหนักและตำแหน่งในการวางที่สมมาตร เวลาจับถือเราจะไม่รู้สึกว่าเครื่องหนักไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษครับ เมื่อรวมเข้ากับความบาง 8.3 มม. และน้ำหนักเพียง 233.5 กรัม ก็ทำให้เวลาถือใช้งาน Pura 80 Ultra จะกระชับมือเป็นอย่างดี



ฝาหลังของตัวเครื่องเปลี่ยนจากฝาหลังวัสดุหนังพิมพ์ลวดลายในรุ่นที่แล้วมาเป็นฝาหลังแบบกระจก โดยสีที่เอาเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยกันจะมีอยู่ทั้งหมดสองสี ได้แก่
- สีทอง Prestige Gold
- สีดำ Golden Black
ถึงแม้จะเห็นหน้าตาสวยงามพรีเมียมแบบนี้ แต่ Pura 80 Ultra ก็ยังออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทาน เริ่มต้นที่วัสดุกระจกหน้าจอซึ่งเลือกใช้เป็น 2nd Gen Crystal Armour Kunlun Glass สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นถึง 16 เท่า และมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิม 25 เท่า พร้อมกันนั้นยังสามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ในระดับ IP68 + IP69 ทนได้ทั้งน้ำลึก 2 เมตร 30 นาที และน้ำแรงดันหรืออุณหภูมิสูง


สเปคกล้องของ HUAWEI Pura 80 Ultra
ฮาร์ดแวร์กล้องของ Pura 80 Ultra ยังคงเป็นกล้องถ่ายภาพระบบ XMAGE อยู่ ซึ่งให้รายละเอียดหรือการประมวลผลของรูปภาพที่ดีและรวดเร็ว โดยกล้องถ่ายภาพหลักนั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 50MP ขนาดเซนเซอร์ 1 นิ้ว และเป็นกล้อง Ultra Lighting Camera ที่สามารถเก็บรายละเอียด HDR แสงเงา และช่วงไดนามิกของรูปภาพได้ดีกว่า Pura 70 Ultra ถึง 15 เท่า พร้อมรูรับแสงแบบปรับได้ตั้งแต่ f/1.6 – f/4.0 มีกันสั่น OIS (กล้องนี้อยู่ตรงมุมซ้ายล่างของโมดูล)

- กล้องหลัก 50MP (f/1.6 – f/4.0) เซนเซอร์ RYYB ขนาด 1 นิ้ว, กันสั่น OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 40MP (f/2.2)
- กล้องเทเลโฟโต้ชุดเลนส์คู่สลับเลนส์ได้ ขนาดเซนเซอร์ 1/1.28 นิ้ว
- ออปติคัลซูม 3.7 เท่า 50MP
- ออปติคัลซูม 9.4 เท่า 12.5MP
- ซูมดิจิทัล 100 เท่า
- เซนเซอร์อัลตร้าโครมา แบบมัลติสเปกตรัม 1.5 ล้านช่องสัญญาณ
- กล้องหน้า 13MP (f/2.0) ออโต้โฟกัส
กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมากหรืออัลตราไวด์ มีความละเอียดอยู่ที่ 40MP (f/2.2) และพระเอกหลักของ Pura 80 Ultra อย่างกล้องเทเลโฟโต้ปริทรรศน์ ที่ดูจะกินพื้นที่ของโมดูลกล้องมากกว่าเลนส์อื่นๆ เป็นพิเศษ โดยความพิเศษของกล้องเทเลโฟโต้ดังกล่าวก็คือ การมีระยะออปติคัลซูมสองระยะโดยใช้เซนเซอร์เดียวกัน สามารถทำระยะออปติคัลซูมได้ที่ระยะ 3.7 เท่า และออปติคัลซูมระยะ 9.7 เท่า พร้อมกับดิจิทัลซูมได้สูงสุด 100 เท่า มีขนาดเซนเซอร์ 1/1.28 นิ้ว (รองรับการถ่าย Ultra Macro ระยะโฟกัสใกล้สุด 5 ซม.)

เทคนิคที่ HUAWEI เลือกใช้ก็คือ การวางเลนส์ชิ้นทั้งสองระยะ 2 ชิ้นไว้เหนือเซนเซอร์ และใช้ปริซึมขยับเข้าหาเพื่อปรับระยะซูมอีกทีหนึ่ง ทำให้เวลาเราเปลี่ยนระยะของออปติคัลซูมจะได้ยินเสียงและเห็นการสลับเลนส์แบบชัดเจนเลยครับ (อยากเห็นว่าเป็นยังไงสามารถไปดูได้ที่คลิปรีวิวบนช่อง DroidSans นะครับ)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัก 50MP Ultra Lighting Camera
















ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องเทเลโฟโต้
ด้วยการที่หยิบเลนส์ซูมคู่มาใช้บนเซนเซอร์ตัวเดียวกัน ก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องของ Quality รูปภาพที่ได้ออกมานั้น จะมีรายละเอียดของสีสัน แสงเงา และดีเทลอื่นๆ ที่เหมือนกัน ไม่เจออาการกระโดดของชุดเลนส์หรือเซนเซอร์ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้เซนเซอร์เทเลโฟโต้แยกกันต่างหาก
















นอกจากเรื่องของโทนสี และการเก็บรายละเอียดแสงเงาที่ดีขึ้นแล้ว ตัวระบบภาพ XMAGE ยังเข้ามาช่วยปรับจูนในเรื่องของโบเก้หรือการตัดขอบ และละลายฉากหลังให้มีมิติ เนียนตาดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นครับ การถ่ายภาพบุคคลในโหมด Portrait ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากๆ












ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า 13MP
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 13MP ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีโทนสีที่จัดจ้านหรือโดดเด่นเท่ากับการถ่ายด้วยชุดกล้องหลัง แต่ต้องยอมรับเลยครับว่าเป็นกล้องหน้าจากสมาร์ทโฟนเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถทำภาพรวมออกมาได้ดี และน่าพึงพอใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็น สกินโทน แสงเงา ไดนามิค และรายละเอียดในรูปภาพ








การใช้งาน EMUI 15 บน Pura 80 Ultra
HUAWEI Pura 80 Ultra ทำงานอยู่บนระบบปฎิบัติการ EMUI 15 ที่นอกเหนือจาก AI ช่วยปรับแต่งภาพให้คมชัดแล้วนั้น ก็ยังคงมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น
- AI Retouch : ฟีเจอร์ให้คำแนะนำและช่วยปรับแต่งรูปโดยอัตโนมัติ เพียงแค่กดหัวข้อที่ต้องการปรับแต่ง
- AI Best Expression : ฟีเจอร์ที่จะใช้ AI สแกนใบหน้าของคนในภาพถ่ายที่เผลอหลับตา แล้วทำการปรับดวงตาให้โดยไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปใหม่ ช่วยแก้ปัญหาสำหรับการถ่ายรูปแบบ Group Shot หลายคน
- AI Gestures Control : เราสามารถควบคุม Pura 80 Ultra ได้ผ่านการขยับฝ่ามือ โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอ



และเมื่อพูดถึงการใช้งานสมาร์ทโฟน HUAWEI สิ่งที่หลายๆ คนจะกังวลกันนั่นก็คือการใช้งานแอปพลิเคชันของทาง Google หรือ GMS (Google Mobile Services) ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติอยู่หรือเปล่า โดยเราสามารถโหลดแอปพลิเคชันต่างๆ มาใช้งานได้ผ่าน App Gallery ของทาง HUAWEI ที่มีติดตั้งมาให้พร้อมตั้งแต่แกะกล่องได้เลยครับ แอปพลิเคชันพื้นฐาน เช่น แอปธนาคาร แอปโซเชียลมีเดียยอดฮิต Facebook, TikTok ก็เปิดใช้งานได้ตามปกติเลยครับ




ส่วนแอปพลิเคชันจากทางฝั่ง Google บน App Gallery เขาก็มีปลั๊กอินเสริมอย่าง GBox ให้เราใช้งานได้แบบไร้กังวล สามารถโหลดมาแล้ว Login ด้วย Google Account เพื่อเข้าใช้งาน Play Store, YouTube, Gmail, Drive, Docs, Sheets และแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้แบบไม่มีปัญหาครับ ถึงแม้ GBox อาจจะยังไม่ได้รองรับแอปของทาง Google ทั้งหมด แต่โดยประมาณ 90% ก็เป็นแอปพลิเคชันที่เราใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว

และด้วยข้อจำกัดในเรื่องของคลื่นความถี่ที่รองรับ ทำให้ Pura 80 Ultra รองรับการใช้สัญญาณ 4G แบบ Dual-Slot พร้อมรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.2
ประสิทธิภาพการเล่นเกมของ HUAWEI Pura 80 Ultra
ชิปเซ็ตที่ HUAWEI Pura 80 Ultra เลือกใช้นั่นก็คือ Kirin 9020 (ตัวเดียวกับที่ใช้บน Mate 70) จับคู่กับหน่วยความจำขนาด 16GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 512GB จากการที่ได้ลองนำไปทดสอบ Benchmark มา ได้ผลลัพธ์ออกมาอยู่ที่ประมาณ 960,000 คะแนน ถ้าเทียบกับชิปจากทางฝั่ง Qualcomm ก็จะมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับ Snapdragon 8s Gen 1

ส่วนของการเล่นเกมก็สามารถใช้งานได้แบบสบายๆ ครับ เช่น RoV หรือ PUBG Mobile แต่ด้วยตัวเครื่องที่เรานำมาทดสอบนั้นอาจจะยังไม่ใช่ซอฟต์แวร์เวอร์ชันสมบูรณ์สำหรับวางขายจริง เฟรมเรตที่ทำได้ดูเหมือนว่าจะยังวิ่งไม่สุดเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น RoV ที่ถึงแม้จะปรับค่าเฟรมเรตเป็นสูงสุดแล้วก็ตาม แต่เฟรมเรตกลับวิ่งสุดอยู่ที่ 45FPS เท่านั้น

และถ้าเป็นเกมระดับสูงหรือเกม AAA เช่น Genshsin Impact สามารถปรับค่าเฟรมเรทระดับสูง 60FPS เล่นได้ครับ อาจจะไม่ได้มีเฟรมไทม์นิ่งหรือสเถียรตลอดเวลาขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้กระตุกหรือหน่วงจนถึงขั้นที่ส่งผลกระทบกับการเล่น เพราะเรื่องของ GPU อาจจะไม่ได้แรงพอที่จะใช้เล่นเกมหนักๆ แบบจริงจังเกมเมอร์

สเปคพื้นฐานของ HUAWEDI Pura 80 Ultra
หน้าจอของ HUAWEI Pura 80 Ultra มีขนาดอยู่ที่ 6.8 นิ้ว พาแนลหน้าจอแบบ LTPO OLED โค้งสี่ด้าน Quad-curve Display รองรับอัตรารีเฟรชเรต 1 – 120Hz ความสว่างสูงสุด 3,000 นิต ความละเอียด 2848 × 1276 พิกเซล ครอบทับด้วยกระจก 2nd Gen Crystal Armour Kunlun Glass


แบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 5,170mAh ให้ระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge ที่ความเร็ว 100W และการชาร์จไร้สาย Wireless HUAWEI SuperCharge ความเร็ว 80W จับคู่กับชิปเซ็ต Kirin 9020 หน่วยความจำขนาด 16GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 512GB และมาตรฐานการมนน้ำทนฝุ่น IP68 + IP69

สรุปการใช้งาน และราคาของ HUAWEI Pura 80 Ultra
สรุปแล้ว HUAWEI Pura 80 Ultra ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงเน้นกล้องที่น่าจับตามองพอสมควรเลยในปี 2025 ด้วยดีไซน์สุดพรีเมียมที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกล้องถ่ายภาพระบบ XMAGE โดยเฉพาะกล้องเทเลโฟโต้คู่ที่สามารถสลับเลนส์ได้ ไปจนถึงความสามารถด้าน AI ที่ช่วยเสริมประสบการณ์ใช้งานให้สะดวกขึ้น

ถึงแม้ชิปเซ็ต Kirin 9020 อาจจะยังไม่ใช่ตัวเลือกที่แรงที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ แต่จากที่ได้ทดลองใช้งานมาก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้โอเคเลยครับ อีกทั้งตัวของหน้าจอ OLED และความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,170mAh กับระบบชาร์จไวจัดเต็ม 100W ก็ทำให้ HUAWEI Pura 80 Ultra นับเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของดีไซน์ กล้อง และประสบการณ์ใช้งานโดยรวมได้แบบลงตัว
ราคาและการวางจำหน่าย
HUAWEI Pura 80 Ultra วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว กับรุ่นความจุ 16GB + 512GB ราคา 49,990 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมดสองสี สองดีไซน์สุดพรีเมียม ได้แก่ สีทอง (Prestige Gold) และสีดำ (Golden Black)
สำหรับใครที่สนใจเป็นเจ้าของ HUAWEI Pura 80 Ultra สามารถสั่งซื้อก่อนใครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ร้านค้า HUAWEI Experience Stores และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ พร้อมรับฟรีของสมนาคุณสุดพิเศษรวมมูลค่าสูงสุด 19,460 บาท
- ประกันอุบัติเหตุ และเปลี่ยนแบตเตอรี่ มูลค่า 3,990.-
- HUAWEI WATCH FIT 3 มูลค่า 3,990.- (คละสี)
- HUAWEI SuperCharge 100 วัตต์ มูลค่า 2,490.-
- เคสมือถือ Pura 80 Ultra มูลค่า 990.- (แถมในกล่อง สีเคสตามเครื่อง)
- เก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่ม 8,000.-

Comment