หลังจากที่ ARM ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับ Huawei ทั้งหมด จนสร้างความกังวลกับหลายฝ่ายและเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า แบบนี้ Huawei จะทำยังไงต่อไป เพราะเมื่อไม่สามารถทำธุรกิจกับ ARM ได้ก็เท่ากับว่าไม่สามารถผลิตและพัฒนาชิปเซ็ตได้แล้วรึเปล่า ซึ่งตรงนี้ทาง CEO ของ Huawei ได้ออกมาให้ข่าวแล้วว่า “ไร้ผลกระทบ” เพราะทาง Huawei ได้มีสิทธิบัตร ARMv8 ตัวถาวรกับทาง ARM ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยทางคุณ Ren Zhengfei, CEO ของ Huawei ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าวในประเทศ1 เพื่อชี้แจงว่าทางบริษัทได้ทำการซื้อใบสิทธิบัตรสถาปัตยกรรม ARMv8 ไว้อย่างถาวรแล้ว แม้ว่า ARM จะยุติความสัมพันธ์กับ Huawei แต่ทาง Huawei ก็จะยังสามารถผลิตและพัฒนาชิปเซ็ตตัวใหม่ของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้สถาปัตยกรรม ARMv8 ซึ่งเจ้าตัว ARMv8 เองก็ถือว่าเป็นมาตรฐานปัจจุบันในการผลิตและพัฒนาชิปเซ็ตของหลายๆ ค่าย ไม่ว่าจะเป็น Apple A12, Samsung Exynos หรือ Qualcomm Snapdragon นั่นเอง ซึ่งน่าจะพอทำให้ Huawei หายใจได้ทั่วท้องไปอีกสักระยะ
แต่น่าสังเกตว่าข้อมูลเรื่องนี้ ยังไม่มีสำนักข่าวต่างประเทศจากฝั่งตะวันตกรายใดให้ข้อมูลว่า Huawei จะไร้ปัญหาออกมา ยังคงยืนยันว่าการขาด ARM ไปแล้วครั้งนี้ยังไง Huawei ก็ยังได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยในปัจจุบัน ARM ได้มีการขายไลเซนส์อยู่ 3 แบบ คือ
- Kernel Level Authorization
- Architecture / Instruction Level Authorization
- Usage Level Authorization
สำหรับตัว Permanent License ของ ARMv8 ที่ Huawei ได้มานี้ตามที่แหล่งข่าวแจ้งไว้จะทำให้ Huawei สามารถปรับแต่งตัว Processor ของตนเองที่พัฒนาขึ้นมาจาก ARM ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพัฒนาต่อยอดในรูปแบบของตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆได้ด้วย ซึ่งในระยะสั้นน่าจะไม่มีผลกระทบต่อตัวแบรนด์แต่อย่างใด2 Kirin 985 ที่น่าจะถูกเปิดตัวมาให้ใช้บน Huawei Mate 30 Series ก็น่าจะยังใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่สิ่งที่เป็นห่วงกันคือในระยะยาว หากปัญหาระหว่างบริษัทหรือประเทศนี้ยังคงดำเนินต่อ Huawei จะไม่สามารถเข้าถึงตัวแก่นของ ARM รุ่นใหม่ หรือ Instruction Set ของสถาปัตยกรรมใหม่ๆที่จะออกมาโดย ARM ได้เลย ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาชิปของ Huawei ได้นั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลเดิมที่ทาง ARM ได้เคยเปิดเผยออกมา บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดของชิปเซตสำหรับอุปกรณ์พกพามากที่สุดในปี 2017 โดยมีจำนวนสูงถึง 90% และชิปเซตที่ถูกดีไซน์ใช้งานอยู่ในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่า 95% เลยทีเดียว และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Huawei ได้เพิ่งมีการเปิดตัวชิป Kunpeng 920 ซึ่งเป็นชิปเซตที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก ARM เช่นกันด้วย
ยิ่งจีนพึ่งตัวเองได้มากเท่าไร สหรัฐก็ยิ่งช้ำมากนะนี่
จริงครับ แล้วถ้าเขาพัมนาต่อยอดจากตัวนี้จนนำหน้า ARM ละ
ผมคิดว่ายังไงแอพก็น่าจะปรับตัวตามเขาแหละเพราะอย่างน้อยหัวเหว่ยก็ยังขายทำกำไรให้แอพได้
แล้ว GPU ละ
ที่หัวเว่ย แถลง
ที่ชาวเน็ทอวย
ทำไม มันตรงข้ามกับโลกความเป็นจริง
จังเลยครับ
สาวกค่ายนี้เหนียวแน่นครับ มีทั้งทำ chip เอง ทำ os เอง คือถ้ามันทำง่ายขนาดนั้นเขาคงไม่ยอมจ่ายค่า ไลเซนแพงๆ หรอกจริงไหม่ครับ ไม่ว่าจะเป็น wifi 5G arm เองก็ตามแต่ หรือแม้กระทั้ง G app ก็ตั้งเสียค่าไลเซนทั้งนั้น
พี่จีนตั้งตัวได้เมื่อไรละยาวแน่นอน 🙂 🙂
วิกฤตครั้งนี้ อาจจะเป็นตัวเร่งให้จีนพัฒนาแบบก้าวกระโดดเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ เหมือนทุบหม้อข้าวเลย ต้องรอดถ้าไม่รอดก็ร่วง
จีน เค้าคิดค้นและพัฒนาต่อยอดไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันแรกที่คิดจะตั้งบริษัทฯ สังเกตุดี ๆ จะเห็นว่าจีนเค้าซีเรียสเรื่อง R&D (วิจัย) ค่อนข้างมาก
ตอนนี้จะทำมันก็ง่ายกว่า เพราะมีต้นแบบแล้ว แต่มันจะติดเรื่องสิทธิบัตร
คิดใหม่ครั้งแรกของโลกมันไม่ง่ายหรอก
เพื่อนชาวจีนผมบอกว่าในอดีต จีนใช้หลัก วิศวกรรมย้อนกลับ หรือการ copy นั่นเอง แต่ตอนนี้จีนได้เลยจุดนั้นไปแล้ว ตอนนี้เค้าเรียกว่า นวตกรรมหรือการต่อยอดไปแล้ว และดูเหมือนเค้าไม่ค่อยกังวลเท่าไรกับเรื่องนี้
มีLicenseถาวรไม่กระทบกะพวกชิบที่ใช้LicenseของArmบนอุปกรณ์5Gแน่นอน บนมือถือก็ยื้อไปได้อยู่ แล้วก็มารอดูว่าใครจะพังก่อน