จากที่เราได้เอามาบอกเพื่อนๆไปแล้วว่านาย Hugo Barra อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Google ที่เราเห็นกันประจำในงานเปิดตัวของ Android และ Nexus ได้ลาออกไปร่วมงานกับ Xiaomi ผู้ผลิตมือถือจากประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนยังอาจสงสัยว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ Hugo เลือกทางนี้ ซึ่ง AllThingsD ได้ไปทำการสัมภาษณ์ มาให้พวกเราทราบกันเรียบร้อยแล้วครับ จึงอยากเอามาเขียนให้ได้อ่านกันอีกต่อนึงครับ
ข้างล่างนี้เป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างยาว เล่าเรื่องราวความเป็นมาของการย้ายงาน รวมถึงความน่าสนใจของ Xiaomi ถ้าเกิดว่าไม่มีเวลาอ่าน ผมได้สรุปสั้นๆที่ย่อหน้าสุดท้ายเอาไว้ให้นะ อย่างน้อยจะได้รู้ว่ามันจะมีผลกระทบอะไรกับตัวเราบ้าง ^^ก่อนอื่นผมอยากให้คนที่ยังไม่ได้รู้จัก Xiaomi ให้ไปอ่านเรื่องเก่าที่ผมเคยเขียนถึง มันจะช่วยให้คุณเข้าใจว่า Xiaomi นี่ไม่ใช่ไก่กา แต่เป็นแบรนด์ที่ขายดีกว่า Apple ในจีน ด้วยกลยุทธ์การจำหน่ายมือถือสเปคสูง(มาก) ในราคาถูก(จริงๆ) และยังมีสาวกติดตามอยู่มากมายทั่วโลก เพราะยอมรับใน MIUI หรือ Custom Rom ที่ทำมาดีอันดับต้นๆของวงการ Android รวมถึงการถูกขนานนามว่าเป็น Apple แห่งเมืองจีนอีกด้วย ซึ่งคาดกันว่าต่อไปจะพัฒนาเป็น Google หรือ Amazon ในอนาคต และนั่นคือหน้าที่ของ Hugo Barra ที่จะต้องพา Xiaomi ไปให้ถึงให้ได้
Hugo Barra เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานระดับสูงคนแรกของทาง Xiaomi ซึ่งถูกจ้างมาเพื่อนำพา Xiaomi ไปสู่โลกกว้างนอกกำแพงเมืองจีน ซึ่งการมาของ Barra นั้นจริงๆไม่ใช่แค่ได้คนที่มีความสามารถมา แต่กลับได้เรื่องของข่าว PR ที่สาวก Google ทั่วโลกต้องจับตามองแบรนด์มือถือจากจีนนี้ทันที เพราะ Barra นั้นถ้าเทียบตำแหน่งในการทำสงครามแล้ว เปรียบเหมือนแม่ทัพใหญ่ของ Andy Rubin และ Sundar Pichai เลยทีเดียว
ข่าวการย้ายบริษัทของ Barra อาจจะมาในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะถูกจับไปโยงกับประเด็นที่ SergeyBrin หย่ากับภรรยาของเค้าไปกุ๊กกิ๊กกับพนักงานในที Google Glass คนหนึ่งที่ดันเป็นแฟนเก่าของนาย Barra นั่นเอง ซึ่งเค้าได้ปฏิเสธที่จะพูดถึงประเด็นนี้ และบอกว่าการตัดสินใจของเค้าได้มีมานานเป็นปีแล้ว (ผมไม่ได้เอาข่าวนี้มาเขียนเล่าให้ฟังกันเพราะเห็นว่าไม่ค่อยเกี่ยวกับ Android เท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครอยากเผือก มาลงชื่อเอาไว้ได้ ถ้าถึง 10 คน เดี๋ยวมาเขียนให้อ่าน :P)
นาย Barra ได้เล่าต่อว่าเรื่องมันเกิดตั้งแต่วันแรกๆที่เค้าได้เข้ามาทำงานที่ Google ด้วยซ้ำ (มีนาคม 2008) “เรามีการประชุมกันในหมู่ผู้นำด้านตลาดอุปกรณ์พกพาทุกๆไตรมาส เพื่อมาประเมินถึงโปรเจคที่ได้ทำไปและวางกลยุทธ์ในอนาคต” และในวันที่สองที่เค้าได้ทำงานก็เผอิญเป็นวาระประชุมนี้พอดี ซึ่งทำให้เค้าได้พบกับ Bin Lin ผู้ที่ตอนนั้นเป็นวิศวกรของ Google ที่ประเทศจีน และเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่วันนั้น ปัจจุบันนาย Bin Lin ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท Xiaomi
ภาพที่ถ่ายด้วยกันเมื่อตอนครั้งแรกที่เจอ
และปลายปี 2010 Barra ได้ถูกย้ายไปทำในทีม Android กับ Andy Rubin ที่สำนักงานใหญ่ Google’s Mountain View, แคลิฟอร์เนี่ย และในเวลาเดียวกันนั้น Lin ก็ออกจาก Google ไปตั้งบริษัท Xiaomi ร่วมกับวิศวกรและ Product Mangager ตัวหลักๆที่เคยทำงานร่วมกันมาใน Google นั่นเอง
“เพราะเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมแอนดรอยด์ ผมจึงให้ความสนใจในทีมของ Lin เป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่พวกเข้าทำมันก็เรียกได้ว่า เป็นปรากฎการณ์“
ช่วงแรกๆเราจะได้เห็น MIUI นั้นเป็นแค่ขนมอีกรสชาติของ Android ซึ่งก็เหมือนกับที่แบรนด์อื่นๆทำ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันคือการแตกสายการพัฒนาออกไป (fork) แต่มันก็เป็นการ fork ที่ยังทำงานกับตัวหลักได้อย่างสมบูรณ์
Barra ได้ไปเยี่ยมเยียน Lin อยู่เสมอ และเริ่มเห็นพวกเค้าทำโทรศัพท์ ซึ่งเค้าก็ได้นำเอาโทรศัพท์เหล่านั้นกลับมาให้ทีมที่ Google ได้ดูด้วย และสิ่งที่ทำให้ Hugo Barra สนใจใน Xiaomi ขึ้นไปใหญ่ก็คือ เมื่อ Matias Duarte (ดีไซน์เนอร์ผู้ที่เป็นแกนหลักในการพัฒนาประสบการณ์ใช้งานของ Android ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4.0+ ให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด) ได้คอมเม้นท์ถึง Xiaomi ว่า “นี่คือสิ่งที่เจ๋งที่สุดที่ได้มีคนเอา Android Platform ไปต่อยอดมาเลยทีเดียว” และนั่นทำให้ Barra เริ่มมั่นใจในสิ่งที่ทีม Xiaomi ทำอยู่ รวมถึงการลงทุนจาก Robin Chan นักลงทุนที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ที่เข้าร่วมกับ Xiaomi ตั้งแต่ต้นๆ
Xiaomi Mi2 ออกมาตั้งแต่ต้นปี 2013
การพูดคุยเรื่องการย้ายงานเริ่มราวๆฤดูร้อนของปี 2012 เมื่อ Xiaomi เริ่มสร้างชื่อจากโทรศัพท์รุ่นที่สองของพวกเขา นั่นคือ MI2s และ Robin Chan ก็เป็นคนเริ่มประเด็นชักชวนให้ Hugo Barra ย้ายไปร่วมงานกับ Xiaomi และสิ่งที่ทำให้ Barra สนใจก็คือ Lin ต้องการคนที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ เข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้จริงๆ ไปช่วยเค้าในการขยายตลาดไประดับโลก
“ในตอนแรก มันเป็นการเปิดประเด็นเรื่องการขยายตลาดของ Xiaomi ไปต่างประเทศ และผมก็ถูกโยงไปเกี่ยวด้วยจากคำว่า คุณน่าจะมาช่วยเราทำนะ”
“ตอนนั้นสำหรับผมมันคือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ทำงานในฝัน ฝันที่จะสร้างบริษัทระดับโลก บริษัทที่จะเทียบเท่ากับ Google และผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างจากเริ่มต้นเลยทีเดียว…เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ผมไม่คิดมาก่อน การได้ร่วมงานกับคนที่ผมรู้จัก กับบริษัทที่มี DNA เดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้นคือการย้ายมาใช้ชีวิตในเอเชีย”
Hugo Barra ได้ตัดสินใจบอกทีม Google ในเวลาที่เพิ่งเปลี่ยนหัวจาก Andy Rubin เป็น Sundar Pichai โดยเขาต้องการให้เรื่องทั้งหมดเป็นไปอย่างเปิดเผยและโปร่งใสที่สุด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ผลประโยชน์ทั้งหมด และสำหรับ Xiaomi, Google เป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญที่สุดที่พวกเค้ามีอยู่ ซึ่งการสูญเสีย Hugo Barra ให้กับ Xiaomi อาจจะทำให้ Google ไม่รู้สึกแย่มากเพราะอย่างน้อยมันคือการสูญเสียคนในทีมให้กับ “เพื่อน”
และจริงๆแล้ว Xiaomi ก็อาจจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญต่อ Google ด้วยเช่นกัน เพราะพวกเค้าเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ Android มีตัวตนในตลาดจีน โดยเฉพาะหลังจากที่ HTC ได้ถอนตัวจากตลาด และสงครามแย่งชิงเค้กระบบปฎิบัติการณ์มือถือในจีนที่นับวันจะวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ
Xiaomi เป็นบริษัทที่เริ่มสร้างจากคนเพียงแปดคน ซึ่งคนเหล่านั้นก็ยังทำหน้าที่เป็นตัวหลักของบริษัทอยู่ ในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อสู้ในตลาดที่การแข่งขันสูง ซึ่งทั้งแปดคนนี้ก็รวมถึง Bin Lin และ Lei Jun ผู้ซึ่งเป็นเหมือนดาราในวงการนี้ของจีนด้วย การที่ Barra เข้าร่วมทีมนี้มา เค้าต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกมากรวมถึงการทำธุรกิจแบบจริงๆจังๆ ทำอยู่อย่าง ยืนด้วยขาของตัวเอง
ภาพจากวันงานเปิดตัว Xiaomi Mi3 ที่ Hugo Barra ก็ไปร่วมงานเปิดตัวมา (5 Sep 2013)
Barra บอกว่า Lei Jun โฟกัสเรื่อง Mobile ecosystem อยู่สามสิ่งนั่นคือ hardware software และ services ซึ่งมันเป็นงานที่หนักมาก อารมณ์เหมือนวิ่งไตรกีฬาอะไรอย่างงั้น แต่การที่พวกเค้าทำงานหนักเช่นนี้ มันถึงเป็นส่วนที่ทำให้ Xiaomi ประสบความสำเร็จนั่นเอง
Lei Jun บอกว่า “กังฟู ความเร็วคือทุกสิ่ง ดังนั้นทีม Xiaomi จึงสร้างทุกอย่างที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมา ด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” Barra เล่าให้ฟัง
สิ่งที่ยืนยันความสำเร็จของ Xiaomi ได้ดีที่คือคงจะเป็นการที่พวกเขาได้ขายโทรศัพท์ไปร่วม 7 ล้านเครื่องในปีที่แล้ว และคาดว่าจะขายได้ 20 ล้านเครื่องในปีนี้ คิดเป็นกำไรราวๆ 4 พันล้านเหรียญ (12000 ล้านบาท) และตัวบริษัท Xiaomi เองก็มีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือราวๆ 3 หมื่นล้านบาท 3แสนล้านบาท ไปเรียบร้อย
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Xiaomi นี้ ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทต้องวิ่งเข้าหา Supplier เพื่อติดต่อขอซื้อชิ้นส่วนมาขายให้ได้ทันเท่านั้น แต่ยังต้องคอยค้นหาสิ่งใหม่ๆ อะไรที่แตกต่างให้แก่ผู้บริโภคด้วย โดยตอนนี้ Xiaomi เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งธีมได้ตามต้องการ ส่งทีมดีไซน์เนอร์ และวิศวกรไปที่ต่างๆของประเทศเพื่อค้นหาความต้องการของผู้ใช้ และตอบสนองความต้องการเหล่านั้นให้ได้
เป้าหมายของ Xiaomi คือการสร้างอะไรที่มัน “ว้าว” ให้กับผู้บริโภค แต่เสนอขายในราคาที่ต่ำ และทำให้พวกเค้าใช้ Xiaomi เป็นเหมือนส่วนนึงของชีวิตด้านดิจิตอลให้ได้ กำไรที่ Xiaomi ได้จากขายมือถือนั้นอาจจะไม่มากนัก แต่ว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ได้วางไว้ เพราะบริษัทคาดหวังว่าจะไปสร้างกำไรจากบริการเสริมที่จะทำให้การใช้งานโทรศัพท์ดีขึ้นมากกว่า
Barra วางแผนที่จะบุกตลาดที่กำลังมีอัตราการเติบโตสูง เช่น อินโดนีเซีย รัสเซีย อินเดีย ลาตินอเมริกา รวมถึง“ไทย” โดยเค้าได้ให้เหตุผลว่าตลาดเหล่านี้เป็นตลาดที่มีการให้น้ำหนักของคุณภาพต่อราคาค่อนข้างมาก ทำให้สามารถใช้แผนธุรกิจเดียวกับที่ทำอยู่ในจีนได้ แต่ว่าประเทศที่เป็นผู้นำตลาดอย่าง อเมริกาและยุโรปก็ยังคงเป็นโจทย์ที่ Barra ต้องตีให้แตกให้ได้ว่าจะเข้าถึงได้อย่างไร เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่ Xiaomi ตั้งเอาไว้ว่า พวกเขาจะถูกพูดถึงในระดับเดียวกับ Google และ Apple ในวันนี้
Barra กำลังจะเริ่มงานกับ Xiaomi ในเดือนตุลาคมนี้ โดยล่าสุดได้ไปขึ้นเวทีร่วมกับ Lei Jun ในงานเปิดตัว Xiaomi Mi3 เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา และเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร นอกจากนี้เค้ายังต้องเรียนภาษาจีนเพิ่มเติม และปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมเอเชียอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวให้เราได้รอติดตามต่อว่าการเข้าร่วมงานของ Hugo Barra ในทีม Xiaomi จะสามารถเขย่าโลกได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า และพวกเราคนไทยก็น่าจะได้เห็นมือถือ Xiaomi บุกตลาดมาบ้านเราเร็วกว่าที่คิด โดยเหล่า House Brand หรือมือถือจีนราคาถูกทั่วไปอาจจะมีหนาวๆร้อนๆได้ เพราะกลยุทธ์เรื่องของดีราคาถูกที่ Xiaomi มีนั้น มันเป็นของที่เรียกว่าดีกว่ามาตรฐานมือถือในตลาดเรานัก และราคาก็ถูกจริงๆอีกด้วย ดูจากโทรศัพท์รุ่นที่ขายดีเทน้ำเทท่า Xiaomi Hongmi : หน้าจอ 4.7” HD, CPU quad-core 1.5GHz(MT6589T), กล้อง 8ล้านพิกเซล ขายที่ราคาเพียง 3 พันกว่าบาทเท่านั้น!!
เป็นยังไงบ้างครับกับเรื่องราวของ Xiaomi และ Hugo Barra คิดว่าพวกเค้าจะสร้างแรงกระทบอะไรกับตลาด Android และสมาร์ทโฟน ที่ทุกวันนี้มันแสนจะอีรุงตุงนังได้หรือเปล่าครับ 🙂
ขออัญเชิญทุกท่านที่อ่านจบมาเม้นท์ด้านล่างหน่อยนะ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าบทความยาวๆอย่างงี้ Droidsans ก็อ่านกันนะ 555
source: AllThingsD
ผมจะรอนะอะไรที่มัน ว๊าว ส่วนตัวผมชอบรอมของ MIUI ที่สุดและ บุกตลาดไทยเมื่อไหร่ มีอุตหนุนแน่นอน
3000 ห๊ะ 3000 จริงอ่ะ ไม่เคยตามเลยแบรนนี้ ตกใจราคาอย่างมาก *0*
ขอให้เข้าไทยเยอะๆ __/\__
พอเข้าไทยคง 4 พันกว่าๆละมั้งครับ
ผมให้ 5 พันยังถูกมากมากเลยนะครับ
ประเด็นปัญหาของ Xiaomi ที่เคยอ่านเจอมา คือ ราคาเปิดตัวในเว็บ ถูกเหลือเชื่อ แต่เอาเข้าจริงไม่มีใครซื้อได้ในราคานั้น แม้แต่คนจีนเอง โดยมีการอ้างว่าเป็นการซื้อล็อตใหญ่โดยดีลเลอร์ ราคาขายปลีกจริงก็จะแพงกว่าที่ประกาศอีกหลายพัน เพราะของไม่พอกับความต้องการ
แต่นั่นก็เหมือนเป็นประเด็นให้มีข้อกล่าวหาว่า Xiaomi เองตั้งใจตั้งราคาให้ถูกจนทุกคนต้องว้าว แต่ซื้อจริงได้ราคาไหนก็อีกเรื่องนึง
ปล. ที่ผมอ่านเจอมาเป็นลักษณะ เล่าให้ฟัง + คหสต. ไม่ได้มีแหล่งข่าวเป็นทางการอะไร อาจจริงบางส่วนหรือไม่จริงเลยก็ได้ครับ
อืม แต่เท่าที่มีคนหิ้วกันมา ช่วงแรกๆMI2Sราคาไม่ถึงหมื่นห้าเลยอ่ะ แต่สเป็กนี่ไปไกลแตะระดับรุ่นสองหมื่นแล้ว
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า อยู่ที่จีนมันคงถูกกว่านี้อีกเยอะ
อ่านยาวๆครับ
MI3 สวยจริง
อ่านจนจบ มาไทยเร็วๆ เน้อ
mi 5c ป่ะครับ รูปข้างบนอ่ะ
รอ มาเมืองไทย อย่านานเกินไปนะ
ขอราคา ว้าวุ่น จริง ๆ ละกัน จะไปทุบกระปุกเลย อิอิ
ไหนบอกจะสรุปสั้นๆ ย่อหน้าสุดท้ายไง 😛
มีศูนย์ไทยเมื่อไหร่เจอกัน
มาลงชื่อครับ อย่างน้อยผมก็อ่านมันจบจนได้
แต่แบรนด์นี้ต้องติดตามจริงๆ ครับ มีโอกาสก็อยากลองใช้บ้างเหมือนกัน
เขียนได้ดีมากครับ รออ่านภาคต่อ
ผมรู้ว่า คนระดับนี้เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง
แต่อยากรู้เหมือนกันว่า Xiaomi ให้เงินเดือน Hugo เท่าไหร่ 😀
ของดี + สุดยอดจริงๆ อยากได้
อ่านจบครับ
แต่ไม่รู้จะเม้มอะไร
น่าจะมีให้กดไลท์ นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่มีอะไรจะแสดงความคิดเห็น
ปล.
คนที่ 11 แล้ว จะเล่าต่อเลยหรือเปล่า (^_^)
เพิ่มเติม
ไวมาก ตอนพิมพ์ยังเป็นคนที่ 11 อยู่เลย พิมพ์เสร็จ 19 แล้ว
ถ้าเขาเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้บริษัทนี้เป็นยักษ์ใหญ่ขึ้นมา หรือใกล้เคียงพวกซัมซุง โนเกีย โซนี มันดูแล้วมีความท้าทายมากกว่าอยู่กูเกิ้ลนะ และดูจากกำลังความพร้อมในเวลานี้ มันมีโอกาสเป็นไปได้
ที่ยังไม่มีไว้ในครอบครองทุกวันนี้ก็เพราะมันยังไม่มีศูนย์บ้านเรานี่แหละ บอกตรงๆ ^^
รอดู ครับถ้าถูกอย่างนี้ ก็อยากได้ quad-core ซักเครื่อง
ตอนนี้มีแค่มือถือ core เดียว
แทปเล็ต 2 คอร์ แต่ไหงช้ากว่ามือถือ คอร์เดียวก็ไม่รู้!
ผมอ่านจนจบ มีความรู้สึกว่า…."ว้าว"
ช่วยเข้ามาสร้างความสั้นคอนให้ตลาดมือถือเมืองไทยเร็วๆเถอะ…
แล้วนี่พี่เขารออะไรอีกนะ ปล่อยให้คนไทยใช้มือถือแพงโลกแตกอยู่ได้นิ
มาเร็วเร้ว 3000 3000 3000 โหตัวเลขถูกใจอย่างยิ่ง
รอดูว่าเข้าบ้านเราแล้วจะราคาเป็นไงและบริการหลังการขายเป็นไงบ้าง
ข้อมูลทีมงานอัดมาเยอะละเอียดดี ชอบครับ ขอบคุณมากๆที่หาข้อมูลดีๆให้อ่านกัน
ผมคนนึงละไม่ยึกติดกับแบรน เปลี่ยนไปเรื่อย แต่เจ้านี้ไม่เคยแตะ ได้แต่ตามข่าว สงสัยได้มีลองเสียตัง 😀
ถ้าหมื่นล้านเหรียญ US ก็คงเป็น สามแสนล้านบาทไทย??
ถูกคับ…ขออภัย >__<
ขอบคุณสำหรับบทความครับ อ่านเพลินดี จะว่าประหลาดใจสำหรับเรื่องการย้ายครั้งนี้ก็ใช่ แต่ในแง่คนทำงานโดยเฉพาะ คนที่จับงานระดับใหญ่ๆ บางทีก็ต้องการความท้าทายก้าวใหม่ในการทำงานอยู่บ่อยๆครับ ในใจอยากให้Xiaomi เค้าออกมาลุยตลาดโลกดู เราน่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆและแปลกใหม่เพิ่มขึ้นครับ อะไรที่มันดีมีคุณภาพและไม่แพง มันก็ดีสำหรับผู้บริโภคอยู่แล้วหละ ดูกันยาวๆครับ
ป.ล. ลงชื่อร่วมเผือกทางไหนครับ อิอิ
ชอบตีม กับราคาต่อสเปคที่ถูก ติดที่ไม่มีศูนย์ไทย
เข้าไทยเต็มตัวเมื่อไหร่ต้องมีโดนบ้างล่ะ
มาลงตลาดในไทยให้มาก เปิด 0 บริการดีๆ คนไทยพร้อมเสียตังครับ เบื่อ ss htc sony บ่องตง 0 ไม่ประทับใจ
ขอให้เข้ามาไทยเร็วๆเหอะ ผมจะซื้อเครื่องหิ้วตั้งแต่ MI2s แต่ทำใจเรื่องหาอะไหล่ตอนเสียไม่ได้หนิแหละ
MI3 อยากได้ๆๆๆๆ
ลอง search ดูใน ebay ไม่เห็น3-4 พันเลย เจอแต่ใกล้ๆ หมื่น up ทั้งน้านนนนน
เพราะคนที่ขายในอีเบย์คือขายให้คนที่อยากซื้อจริงๆ ราคาแพงกว่าปกติอยู่แล้วครับ ไม่มีใครขายเท่าราคาทุนแน่ๆ
รอมานานแล้ว ขอบคุณสำหรับบทความยาวเหยียดครับ
น่าจะบอกด้วยว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ถึงมาทำงานด้วย เหมือนสุภาษิตจีน มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้
น่าสนใจมากครับ ถ้าเข้าไทยจริงรอดูfeedbackก่อนละกัน
ของเค้าดีจริงๆครับ เล่นรอมของเค้าอยู่พักใหญ่ๆ ดีมากๆ ui สวยมากครับ ใครสนใจก็ตามนี้เลยครับ ตัวแทนในไทย
**ลบลิงก์ทิ้ง**
ลบทิ้งนะครับเพราะเค้าไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเแ็นทางการครับ
สุดยอดราคาแสนถูก สเปกสูง จะรอนะครับ
ถ้าจอ 5นิ้วก็อยากลองใช้
อ่านจบครับขอบคุณมาก
จะรอจนกว่าจะมา
คนไทยคงใด้ใช้ของถูกยาก
ขอบคุณสำหรับบทความนะครับ อ่านเพลินดี ได้ความรู้มากมาย
ป.ล.สเปคแบบนี้ ราคาแค่นี้ มาไทยจริงๆผมก็ซื้อครับ
🙂
สิ่งหนึ่งที่น่าคิด…
มือถือที่ราคาถูกยังได้กำไรขนาดนี้
แล้วมือถือที่ราคาแพงๆ จะฟันกำไรได้มหาศาลแค่ไหน…
Xiaomi มีค่า 3แสนล้าน
NOKIA มีค่า 7 พันล้าน
อิอิ ไม่มีไร พอเห็นตัวเลขแล้วมันคิดไปเอง
7พันล้านนี่เหรียญนะครับ เท่ากับ 2แสน1หมื่นล้านเหรียญครับ
มันต้องเป็นแผ่นการของ google บุกจีนเต็มรูปแบบเหมือนที่ ทิมคุก ไปทำตลาดในจีน เดียวจะโดนไอโพนตัดหน้าอีก 5555+
ล่าสุดเพื่อนร่วมงานไปจีน สั่งซื้อ Xiaomi ตัวล่าสุด 1 เครื่อง คนจีนตกใจว่าทำไมคนไทยรู้จักยี่ห้อนี้ แต่ที่สำคัญ…ซื้อไม่ได้เพราะจองกันเต็มจนต้องรอรับเครื่องอีก 2 เดือน แหะๆ อดลองเลย
ลงชื่อครับ อยากรู้ อิอิ
อยากให้มาไทยเหมือนกัน กอดคอ Meizu มาด้วยเถิด
+1 คนอยากรู้ด้วยคน
รอการมาไทยแบบเป็นทางการ ถ้ามีศูนย์เมื่อไหร่ก็ซื้ออ่ะ
ios 7 ก็ไปลอก icon miui
ip5c ก็ไปลอก Xiaomi Mi2 ออกมาตั้งแต่ต้นปี 2013
นี่คือกลยุทธ apple ล่าสุด ลอกไป กรูลอกกลับ ตั้งแต่ notification ลากลงจาก ด้านบนละ
ราคา 3000 นี่หาซื้อไม่ได้แน่นอน ….
คนเก่ง ใครๆก็อยากให้มาทำงานด้วยครับ
Xiaomi HongMi ราคา 800Y = ประมาณ 4000 บาทครับ
ถามว่าราคานี้ไปจีนซื้อได้มั้ย
ได้ครับ แต่เงื่อนไขค่อนข้างเยอะ
1.ต้องซื้อผ่านหน้าเว็บของ Xiami เท่านั้นคล้ายๆกับ Apple store online ของ apple แต่ส่งสินค้าในจีนเท่านั้น
2.ระบบจ่ายเงินต้องใช้ระบบของจีนเท่านั้น หมายความว่าคุณต้องมี บัญชีธนาคาร บัตร และระบบจ่ายเงินออนไลน์ของจีนเท่านั้น
3.ถ้าจะซื้อให้ง่ายต้องซื้อในช่วงที่ product ออกมาทำตลาดได้สักพักเพราะจะ stock สินค้าออกมาเยอะเนื่องจากระบบ supply chain ของ xiaomi ยังไม่สามารถรองรับต่อความต้องการของลูกค้าที่มีมาก
4.จากประสบการณ์ของผมที่เคยซื้อ Xiaomi M2 ในช่วงที่ Xiaomi M2S จะเปิดตัวเพียง 3 เดือน สามารถสั่งซื้อผ่าน http://www.xiaomi.com ใช้เวลาเพียง 4-5 วันก็ได้ของแล้ว โดยให้เพื่อนคนไทยที่อยู่จีนมานานช่วยสั่งซื้อให้ เพราะเว็บของ xiaomi แทบไม่มีภาษาอังกฤษเลย
ผมซื้อมือถือ xiaomi m2 รุ่น 32GB ในราคา 2299Y= ประมาณ 11,145 บาทเท่านั้น
5.ผมเคยลองไปถามหาจากร้านมือถือในจีน พนักงานขออกมีขายครับ ราคา 3000Y ที่สำคัญเป็นรุ่นที่เก่ากว่า M2 ครับคือรุ่น M1S T_T
ปอ ลิง ทุกวันนี้มีความสุขกับการใช้มือถือ Xiaomi M2 ดีครับ ^_^
ติดตามกันต่อไป **
ตัวล่าสุด Xiaomi MI-3
– GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
– HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100
– CPU Quad-core 2.3 GHz Krait 400 Snapdragon 800 หรือ NVIDIA Tegra 4 (ขึ้นอยู่กับตลาด)
– GPU Adreno 330
– จอภาพ IPS จาก LG ขนาด 5 นิ้ว 1080p (441 ppi pixel density)
– แรม LPDDR3 2GB
– กล้องหลัง 13MP Sony Exymor R CMOS
– กล้องหน้า 2MP
– ตัวเครื่องอลูมิเนียม หนา 8.1 มม. มี NFC
– แบตเตอรี่ 3050 mAh
(16GB 327$ ประมาณ 10500 , 64GB 408$ ประมาณ 13000)
บ้าไปแล้ว!!!! เห็นสเป็กกับราคาแล้วอยากจะบินไปจีนวันนี้พรุ่งนี้เลยจริงๆ…
รีบๆมาไทยนะ TT
น่าสนสุดๆ เมือเห็น spec ,UI และที่สำคัญ ราคา!
ลงชื่ออ่าน เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจตั้งแต่ตอนก่อตั้งเลย
อ่านจบแล้วครับ จะขอติดตามเรื่องร่วของ Xiaomi ต่อไปเรือยๆนะ เป็นบริษัทที่น่าสนใจมากๆ