Infinix นำร่องส่งมือถือ 2 รุ่นอย่าง Infinix Note 40 Pro+ 5G มาบุกไทยเป็นรุ่นแรก พร้อมปรับโฉมครั้งใหญ่ นำจอโค้งมาใส่ใน NOTE Series เป็นครั้งแรก แถมยังจัดเต็มเรื่องระบบชาร์จไวผ่านสายมาสูงสุดถึง 100W แถมยังรองรับการชาร์จไร้สายถึง 20W โดยเปิดราคาไทยมาเริ่มต้นที่ 8,999 บาทเท่านั้น

เปิดตัว Infinix NOTE 40 Pro 4G และ NOTE 40 Pro+ 5G

Infinix NOTE 40 Pro 4G และ NOTE 40 Pro+ 5G มากับสเปคและดีไซน์ที่โขกกันมาเหมือนกันเกือบ 100% โดยตัวเครื่องของรุ่น 4G ที่มากับไซส์ที่เหลือบ ๆ กันนิดหน่อย (รุ่น Pro 4G: 164.4 x 74.6 x 7.8 มม. / รุ่น Pro+ 5G: 164.3 x 74.5 x 8.1 มม.) รองรับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP54

และไฮไลต์ที่จะได้ทุกรุ่นในรอบนี้ คือไฟแฟลช AI LED ที่มีชื่อว่า Halo Light ที่นอกจากจะทำหน้าที่เป็นไฟแฟลชแบบวงแหวนสำหรับถ่ายรูปแล้ว ยังมีระบบ Active Halo ที่เปลี่ยนสีไฟไปตามการใช้งานต่าง ๆ ได้ เช่น เปลี่ยนสีเมื่อมีการแจ้งเตือน หรือโทรเข้าโทรออก หรือแม้กระทั่งในขณะเล่นเกม หรือฟังเพลง

จอแสดงผลของรุ่นนี้ก็แชร์พาเนลตัวเดียวกัน ได้จอกระจกโค้ง 3D กระจก Gorilla Glass ใช้พาเนล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2436 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz พร้อมการันตีปล่อยแสงสีฟ้าต่ำจาก TUV Rheinland รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และยังมากับลำโพงคู่ที่ปรับจูนเสียงโดย JBL ทุกรุ่นด้วย

ด้านพลังการประมวลผล รุ่น NOTE 40 Pro+ 5G จะได้ใช้ชิปเซต Dimensity 7020 รองรับ 5G ส่วนรุ่น NOTE Pro 4G จะได้เป็นชิป Helio G99 Ultimate สำหรับระบบการชาร์จนั้น Infinix NOTE 40 Pro 4G ให้ระบบชาร์จไวผ่านสายมาที่ 70W ส่วนรุ่นท็อปสุด NOTE 40 Pro+ 5G จะรองรับชาร์จไวผ่านสาย 100W ชาร์จจาก 1 – 50% ใช้เวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้น

Infinix NOTE 40 Series ทุกรุ่นยังรองรับการชาร์จไร้สายผ่านอุปกรณ์แม่เหล็ก Mag Charge สูงสุดถึง 20W และยังรองรับระบบ ByPass Charge 2.0 ต่อไฟตรงเข้าเครื่องในขณะเล่นเกม ไม่ต้องกลัวเครื่องร้อนแล้วทำแบตเตอรี่เสื่อม แถมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ ถึงแม้จะเจออุณหภูมิที่ต่ำสุด ๆ -20 องศาเซลเซียส

ตัวซอฟต์แวร์ติดตั้งมากับ XOS 14 บนพื้นฐาน Android 14 พร้อมการันตีอัปเดต OS ให้ 2 ปี + แพตช์รักษาความปลอดภัย 3 ปี ตัวเครื่องทุกรุ่นมี IR-Blaster และ NFC มาให้ทุกรุ่น

ตารางเทียบสเปคInfinix Note 40 Pro 4GInfinix Note 40 Pro+ 5G
จอภาพประเภทจอโค้ง 3D AMOLED
ความสว่างสูงสุด 1300 นิต
ขนาด6.78 นิ้ว
ความละเอียดFHD+ (2436 × 1080 พิกเซล)
อัตรารีเฟรช120Hz
ประสิทธิภาพชิปเซตHelio G99 UltimateDimensity 7020
หน่วยความจำ
8GB
12GB
สตอเรจUFS 2.2
256GB
ระบบปฏิบัติการXOS 14
บนพื้นฐาน Android 14
กล้องกล้องหลัก108MP (f/1.75)
กล้อง Depth2MP (f/2.4)
กล้องมาโคร
กล้องหน้า32MP (f/2.2)
เสียงลำโพงสเตอรีโอ
จูนเสียงโดย JBL
เครือข่ายเทคโนโลยี4G5G
การเชื่อมต่อWi-FiWi-Fi 5Wi-Fi 5
Bluetoothไม่ระบุ
การเชื่อมต่ออื่น ๆNFC
Infrared remote control
USB Type-C 2.0
NFC
Infrared remote control
USB Type-C 2.0
แบตเตอรี่ความจุ5000 mAh4600 mAh
การชาร์จชาร์จไว 70W
ไร้สาย 20W
รองรับ Bypass Charge
ชาร์จไว 100W
ไร้สาย 20W
รองรับ Bypass Charge
ตัวเครื่องวัสดุกระจกGorilla Glass
มาตรฐานทนน้ำIP54
ขนาด164.4 x 74.6 x 7.8 มม.164.4 x 74.6 x 7.8 มม.
น้ำหนัก190 กรัม190 – 196 กรัม
เทียบสเปค Infinix NOTE 40 Pro 4G และ NOTE 40 Pro+ 5G

ราคา และโปรโมชั่น

Infinix NOTE 40 Pro 4G และ Infinix NOTE 40 Pro+ 5G จะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2024 เป็นต้นไป โดยราคา รุ่นความจุ และสีที่มีวางจำหน่ายมีดังนี้

  • Infinix NOTE 40 Pro 4G (8GB + 256GB) ราคา 8,999 บาท *เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
    • สีเขียวหนังวีแกน Vintage Green
    • สีทอง – ฟ้า Titan Gold
  • Infinix NOTE 40 Pro+ 5G (12GB + 256GB) ราคา 11,999 บาท
    • สีเขียวหนังวีแกน Vintage Green
    • สีดำ Obsidian Black

โปรโมชั่น

  • Infinix NOTE 40 Pro 4G
    • เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 30 เมษายน 2024 ใช้คูปองจากแพลตฟอร์มลดค่าเครื่องเหลือเพียง 6,999 บาท
    • รับเคส MagCase ตามสีตัวเครื่อง + ที่ชาร์จไร้สายทุกคำสั่งซื้อ
  • Infinix NOTE 40 Pro+ 5G
    • เมื่อซื้อในช่วงวันที่ 30 เมษายน 2024 ใช้คูปองจากแพลตฟอร์มลดค่าเครื่องเหลือเพียง 10,999 บาท
    • รับเคส Premium Gift Box ลำโพงบลูทูธ + แก้วน้ำ + MagCase ตามสีตัวเครื่อง + ที่ชาร์จไร้สาย เฉพาะ 450 คำสั่งซื้อแรก