มีรายงานออกมาว่าชิป Intel รุ่นเก่าอย่าง Raptor Lake (Core i Gen13,14) ได้มีการปรับราคาขึ้นสูงกว่ารุ่นใหม่อย่าง Lunar Lake (Core Ultra 200) ไปแล้ว โดยสาเหตุมาจากความต้องการในตลาดที่ยังคงสูง ขณะที่ยอดขาย AI PC ที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่กลับไม่เป็นไปตามที่ Intel คาดไว้

แม้ Lunar Lake จะมาพร้อมเทคโนโลยีด้าน AI และประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่กลับยังไม่เห็นความจำเป็นต้องอัปเกรด เพราะ Raptor Lake ยังให้แรงประมวลผลเพียงพอสำหรับงานทั่วไป ในขณะที่ราคาถูกกว่าหลายเยอะ ทำให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ อย่าง Lenovo, HP และ Acer ยังคงเลือกใช้ชิปรุ่นเก่าในการผลิตเครื่องราคาคุ้มค่าออกขายต่อเนื่อง

แหล่งข่าวจาก DigiTimes เผยว่า Intel เตรียมปรับขึ้นราคาชิป Raptor Lake ประมาณ 10% ภายในไตรมาส 4 ปี 2025 และบางรุ่นอาจขึ้นมากถึง 20% เลยทีเดียว สาเหตุหลักคืออุปทานของชิปรุ่นเก่าที่เริ่มขาดตลาด ขณะที่ความต้องการกลับเพิ่มขึ้นสวนทาง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดพีซีกำลังเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาหน่วยความจำและ SSD ที่พุ่งขึ้นอีก 15-25% ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องหาทางควบคุมต้นทุนด้วยการใช้ชิปที่คุ้มค่ากว่า

แม้ซีพียูรุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI ที่ล้ำหน้า แต่ในความเป็นจริงผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากพอจะยอมจ่ายแพงกว่า เมื่อบวกกับความนิยมของ Raptor Lake ที่ยังคงแรงและหาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ “รุ่นเก่าแพงกว่ารุ่นใหม่” ไปโดยปริยาย และดูเหมือนแนวโน้มนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่า AI PC จะได้รับความนิยมในวงกว้างกว่านี้

ที่มา : wccftech