ถึงฤกษ์งามยามดีของงาน CES 2023 ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ของฝั่งคอมพิวเตอร์พีซีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกช่วงต้นศักราชใหม่แบบนี้ ก็ได้เวลาค่ายคอมยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ขนทัพฮาร์ดแวร์ใหม่ของตัวเองตามมาเปิดตัวกันเพียบ เริ่มกันที่เจ้าแห่งซีพียูอย่าง Intel หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวซีพียู Intel 13th Gen (Raptor Lake) รุ่นเดสก์ท็อปตัวแรง (รหัส K, KF) ไปเมื่อช่วงปลาย ก.ย. ที่ผ่านมา ตามสเต็ปก็คือจะคลอดรุ่นเมนสตรีมตามออกมาอีกรอบ เปิดตัว Intel 13th Gen รหัส Non-K พร้อมกับไฮไลต์เด็ดในงานเดียวกัน เปิดตัวซีพียู 13th Gen รุ่น Mobile สำหรับโน้ตบุ๊คด้วย มีครบเลยตั้งแต่ Intel Processor (เดิมคือ Pentium), Core i3 จนถึง Core i9

 

Intel 13th Gen (Raptor Lake) รุ่น Mobile สำหรับโน้ตบุ๊ค

ขอเริ่มที่ซีพียู 13th Gen ฝั่งโน้ตบุ๊คก่อน เปิดมาทั้งหมด 32 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น 4 รหัสท้ายเช่นเดียวกับ 12th Gen ปีที่แล้ว ได้แก่ HX 9 รุ่น, H 11 รุ่น, P 4 รุ่น และ U 7 รุ่น โดยรหัส HX เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสุด เจาะตลาดโน้ตบุ๊คเกมมิ่งไฮเอนด์และ mobile workstation ใช้ไฟ 55W เคลมใช้ซิลิคอนขนาดเดียวกับซีพียูเดสก์ท็อป จำนวนคอร์เธรดก็เท่ากับเดสก์ท็อป ทำให้ความแรงออกมาใกล้เคียงกัน

ซีรีส์ HX มีเฉพาะ i9, i7 และ i5 ตัวเรือธงสุดในปีนี้คือ Core i9-13980HX (ลงท้ายด้วยเลข 80 ครั้งแรก) ทาง Intel เคลมว่าเป็นซีพียูโน้ตบุ๊คที่แรงที่สุดในตลาด ณ เวลานี้ อัดสเปคมาให้ถึง 24 Core (8P+16E) / 32 Thread (จากเดิม 16C (8P + 8E) /24T บน Gen 12) ดันค่า Clock Speed ได้สูงสุด 5.6 GHz (เดิม 5.0 GHz) ส่วน Core i9-13950HX และ i9-13900HX มีคอร์เธรดเท่ากัน แต่ค่า Clock ลดลงมาที่ 5.5 และ 5.4 GHz ตามลำดับ

Intel โชว์ประสิทธิภาพของตัวรองท็อป Core i9-13950HX เทียบกับ i9-12900HK เรือธงเก่าประจำต้นปีที่แล้ว ว่ามี Single-Thread และ Multi-Thread เพิ่มขึ้นถึง 11% และ 49% ตามลำดับ ในกราฟบอกว่าแรงกว่า i9-12900HX ที่เปิดตัวกลางปีด้วยแต่ไม่บอกตัวเลข พร้อมระบุว่ามีโน้ตบุ๊ครุ่นที่จะเปิดตัวพร้อมกับซีพียูรหัส HX นี้รออยู่แล้วกว่า 60 รุ่นภายในปี 2023

ส่วนซีรีส์โน้ตบุ๊ครองลงมาอื่น ๆ ได้แก่รหัส H ความแรงลดหลั่นจาก HX สเปคยังคงเน้นเล่นเกม มีคอร์เธรดสูงสุด 14C/20T ใช้ไฟ 45W (ตัวท็อปคือ i9-13900HK) ถัดมารหัส P ใช้บนโน้ตบุ๊คทำงานที่ยังเน้นความแรง คอร์เธรดพอ ๆ กับรุ่น H ใช้ไฟ 28W (ตัวท็อป i7-1270P) ตามด้วยรหัส U สำหรับโน้ตบุ๊ครุ่นบางเบาเน้นประหยัดพลังงานสูงสุด ใช้ไฟเพียง 15W (ตัวท็อป i7-1365U) ปิดท้ายด้วยรุ่นพิเศษคือ Intel Processor เปลี่ยนชื่อมาจากน้องเล็ก Pentium / Celeron มีเพียงรุ่นเดียวคือ U300 สเปคเป็น 5C (1P+4E) / 6T

 

ฟีเจอร์ใหม่ของ Intel Gen 13 บนโน้ตบุ๊คคือ คือรองรับ Bluetooth LE Audio แล้ว ช่วยให้เชื่อมต่อหูฟังไร้สายเร็วขึ้น เสถียรขึ้น และกินไฟน้อยลง นอกนั้นถือว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจาก Gen 12 มาก เป็นการอัดสเปคคอร์เธรดและอัปเกรดความแรงเพิ่มอย่างเดียว

 

Intel 13th Gen (Raptor Lake) รุ่น Non-K สำหรับเดสก์ท็อป (Desktop PC)

ถัดมาเป็นซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปกันบ้าง อย่างที่ทราบกันว่าซีพียู Intel Gen 13 รุ่น Non-K จะเป็นซีรีส์ที่ไม่มีรหัส K ห้อยท้ายตามชื่อ เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการความแรงมากเป็นพิเศษ แต่ก็ยังแรงเหลือ ๆ ใช้งานได้ทั้งเล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ เน้นประหยัดพลังงานลงกว่ารุ่น K, KF (125W) เกือบครึ่ง ๆ

ซีพียู Intel กลุ่มเมนสตรีมนี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่นรหัสท้าย ได้แก่ รุ่นไม่มีรหัสท้าย, รหัสท้าย F ที่เหมือนกันทุกประการแต่ไม่มีจีพียูในตัว ทั้งคู่ใช้ไฟ 65W และรหัสท้าย T ซึ่งเป็นรุ่นประหยัดพลังงานสูงสุด ใช้ไฟเพียง 35W

รุ่นท็อปสุดของซีพียูกลุ่มนี้คือ Core i9-13900 / 13900F สเปคคอร์เธรดคือ 24 Core (8P+16E) / 32 Thread เท่ากับรหัส K โดยเพิ่มขึ้นจาก 16C/24T บนเจนก่อน ดันค่า Clock ได้สูงสุด 5.6 GHz ทาง Intel เคลมประสิทธิภาพโดยรวมว่ามี Single-Thread และ Multi-Thread เพิ่มขึ้นจาก 12th Gen อยู่ที่ 11% และ 32% ตามลำดับ พร้อมระบุว่าใช้กับบอร์ดเดิม Socket LGA 1700 ได้

 

Intel ยังไม่ระบุวันวางจำหน่าย แต่ประกาศราคาไว้แล้ว โดยเริ่มต้นที่ตัว Core i3-12100F ราคา 109 เหรียญ หรือประมาณ 3,730 บาท ไปจนถึง Core i9-13900 ราคา 549 เหรียญ หรือประมาณ 18,790 บาท ซึ่งไม่หนีจากปีที่แล้วมาก มารอดูราคาเข้าไทยกันว่าจะเป็นเท่าไหร่

Play video

 

 

ที่มา : Intel