เราได้ทราบถึงสเปคของ Samsung Galaxy Note 5 กับไปแล้ว แต่สิ่งที่หลายๆคนอยากจะรู้ไม่แพ้กันก็คงจะเป็นเรื่องของราคาและวันวางจำหน่าย ซึ่งราคาในงานยังไม่ได้พูดถึง และวันวางจำหน่ายก็จะเป็นวันที่ 21 ทั่วโลก แต่ดูทว่าในเมืองไทยจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเราจะเปิดตัวปุ๊บเตรียมขายปั๊บแบบไม่ต้องให้แฟนๆรอนาน เตรียมกำเงินไปซื้อที่ร้าน Samsung Brand Shop และร้านขายมือถือชั้นนำทั่วไปในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ที่ 15 สิงหาคม) ได้เลยทันที ในราคาที่เท่ากับ Galaxy Note 4 ณ วันเปิดตัว 25,900 บาท สำหรับรุ่น 32GB และ 29,900 บาท สำหรับรุ่น 64GB ส่วนโปรโมชั่นจะมีอะไรบ้างนั้น ไปลุ้นกันได้ตามหน้าร้าน

ถ้าใครยังไม่ทราบสเปคของ Galaxy Note 5 สามารถไปดูรายละเอียดๆได้ที่ สเปคและรายละเอียด Galaxy Note 5 อย่างเป็นทางการ (เวอร์ชั่นขายในไทย)

ส่วนฟีเจอร์เด่นๆของ Galaxy Note 5 เรียกได้ว่าแทบจะไม่มี ดูเหมือนจะไปเน้นที่เรื่องของการปรับปรุงของเดิมให้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการใช้งานให้ครบครันมากกว่า และสเปครวมๆก็ไม่ได้แตกต่างจาก Galaxy S6 มากมายนัก เรื่องวัสดุและการดีไซน์โดนแย่งซีนความเด่นไปหมดตั้งแต่ Galaxy S6 ออกมา แถมโดยส่วนตัวมองว่า S6 Edge สวยกว่า Galaxy Note เยอะเลย ส่วนที่เป็น Highlight ของงานเปิดตัว Galaxy Note 5 เมื่อคืน หลักๆคงจะมีประมาณนี้นะครับ

  1. Keyboard Cover : เคสที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ด สำหรับทั้ง Galaxy S6 Edge+ และ Galaxy Note 5 ซึ่งความพิเศษของมันอยู่ที่ตัวคีย์บอร์ดจะไม่ได้ติดตายตัวอยู่อย่างในภาพ แต่เมื่อไม่ได้ใช้สามารถถอดเอาไปติดเอาไว้ที่เคสด้านหลังได้ แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อเราใช้งานอัตราส่วนของหน้าจอจะเปลี่ยนให้กลายเป็น 4:3 อัตโนมัติ หมดปัญหาคีย์บอร์ดบังหน้าจอไปในทันทีเลย แต่ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่าย หรือราคาของเจ้า Keyboard Cover นี้เปิดเผยออกมานะครับ
  2. RAM 4GB DDR4 : สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า Galaxy Note 5 จะมาพร้อมกับแรมระดับนี้ก็น่าจะมีตกใจเล็กน้อยที่เห็น Samsung บ้าจี้ยัดใส่เข้ามาให้ขนาดนี้ เพราะมันเยอะกว่าเครื่องคอมที่ใช้อยู่ของหลายๆคนซะอีก และหลังจากเปิดเครื่องมาแล้วและลองเคลียร์แรมดู จะมีเหลือให้เราใช้จริงอยู่ราวๆ 1.6-1.9GB ซึ่งก็ถึงว่ายังเป็นจำนวนที่มากพอดูสำหรับเอาไปใช้รันแอปสลับไปมาได้อย่างลื่นไหล ส่วนว่าจะได้มากขนาดไหนนั้น รอรับชมการทดสอบจากพวกเราเร็วๆนี้ได้เลยครับ
  3. Scroll Capture & Annotation : ถ้าใครเคยใช้ Galaxy Note และหยิบปากกาออกมาใช้บ่อยๆ เชื่อว่าเมื่อเห็นฟีเจอร์เล็กๆนี้เข้าต้องชอบแน่นอน เพราะมันตอบโจทย์คนที่ใช้ปากกา S Pen ทำงานเป็นอย่างดี แทนที่จะต้องมา capture screen เก็บหน้าเพจที่ต้องการรัวๆ แล้วค่อยเขียน คราวนี้เราก็สามารถกดจับภาพหน้าจอยาวๆทั้งหมดได้ในคราวเดียว และภาพก็จะต่อกันเป็นแนวยาวให้เรานำเอามาเขียนหรือจดโน๊ตต่อได้ทันที รองรับการทำงานได้หลากหลายแอป แต่ถ้าเกิดว่าคุณไม่เคยหยิบ S Pen มันออกมาใช้งาน ก็ข้ามไปได้เลย เพราะมันจะจะกลายเป็นฟีเจอร์ที่คุณลืมไปในทันที 😛
      
    ซ้าย: capture screen ยาวยาวววววได้สบายๆ ขวา : แคปมาแล้วก็เอามาเขียนต่อได้ทันที / แรมเหลือใช้จริงๆหลังลงแอปต่างๆเรียบร้อยมีมากกว่า 1GB เล็กน้อย
  4. ระบบกันสั่น VDIS OIS : ในงานเปิดตัวมีการเดโมความสามารถกันสั่นแบบใหม่ที่เคลมว่าจะช่วยให้เราถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้นำเอาสองคลิปที่เป็นคนเดินมาเปรียบเทียบกันให้ดู แต่ว่ามันจะเจ๋งขนาดไหน ยังไงก็ต้องรอการทดสอบกันต่อไปนะครับ

สำหรับฟีเจอร์เต็มๆของ Galaxy Note 5 จะมีอะไรบ้างนั้น และทำได้ดีขนาดไหน อดใจรอกันสักแปร๊บ ยังมีของที่ซ่อนอยู่อีกพอสมควร กำลังลองเล่นให้อยู่ครับ ระหว่างนี้ก็ไปดูคลิปรวมฟีเจอร์ต่างๆ(แบบคร่าวๆสุดๆ)รอกันไปก่อนเน่อ

Play video

ส่วนปาฎิหารย์ที่หวังกันว่า Samsung จะใส่ microSD และความสามารถเปลี่ยนแบตให้ Galaxy Note 5 เหมือนเดิม ไม่ถอดทิ้งเหมือน Galaxy S6 นั้น ก็ไม่บังเกิดผล เพราะถูกถอดทิ้งตามคาด และหนำซ้ำบางอย่างที่เคยมีบน Galaxy Note 4 ก็หายไปด้วย เช่น ไมค์ตัดเสียง 3 ตัว หรือ Infrared Port สำหรับกดรีโมท ซึ่งเดี๋ยวเราจะจับมาเปรียบเทียบให้ได้ทราบกันต่อไป

ทั้งหมดนี้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นกับราคา 25,900 บาท สำหรับหน่วยความจำ32GB และ 29,900 บาท สำหรับหน่วยความจำ 64GB ในการไปสู่ขอ Galaxy Note 5 มาใช้ โดยในช่วงแรกจะมีสองสีให้เลือกก่อนคือ เงินและทอง เท่านั้น สามารถไปหาซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยและขายจริงพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ครับ

เอ้าคิดเห็นกันอย่างไร มาเม้นบอกกันได้เลยจ้า