จากสถิติคนไทยเป็นชนชาติที่ดู YouTube ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก1 ใน 1 วันคนไทยจะใช้เวลาบน YouTube รวมกันมากกว่า 1 ล้านนาที2 เนื้อหาหลักที่ดูก็จะเป็นการฟังเพลงดู MV และกว่า 50% ดูจากอุปกรณ์พกพา3 ซึ่งหลายๆคนก็คร่ำครวญอยากดูแบบปลอดโฆษณา เซฟเก็บลงเครื่องได้แบบไม่ต้องเปลือง 3G และสลับไปเล่นแอปอื่นหรือปิดหน้าจอก็ยังฟังเพลงต่อได้ ทำให้ล่าสุดทาง YouTube ก็ได้ออกบริการ YouTube Red เพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ แต่จะมีค่าใช้จ่าย $9.99 ต่อเดือน
มาดูความสามารถของ YouTube Red กันสักหน่อยว่ามันทำอะไรได้บ้าง และคุ้มที่จะจ่ายเงินเดือนละเกือบ 400 บาทหรือเปล่า
- ไร้โฆษณากวนใจ – หลังจากที่เหล่าแบรนด์ต่างๆเริ่มเห็นว่า YouTube คนดูเยอะขนาดไหน ก็กระหน่ำทุ่มเงินมาลงโฆษณากับ YouTube เยอะมาก จนเรียกว่าแทบจะต้องดูโฆษณากับคลิปเว้นคลิปกันเลย แต่ถ้าจ่ายก็จบ ไม่มีโฆษณาขึ้นมาอีกต่อไป
- สมัครทีเดียว ใช้ได้กับทุกเครื่อง – ทุกวันนี้เราไม่ได้ดู YouTube ผ่านทางมือถือเพียงอย่างเดียว แต่ยังดูผ่าน PC, Tablet หรือแม้แต่บนทีวีก็ตาม ซึ่งเมื่อสมัคร YouTube Red แล้ว ไม่ว่าเราจะมีกี่อุปกรณ์ ขอเพียงแค่เรา sign-in ด้วย account ที่สมัคร YouTube Red เอาไว้ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน
- โหลดดู Offline – แม้ว่าบางคลิปเราจะสามารถกดเซฟลงเครื่องดูได้อยู่แล้ว แต่ว่าอีกหลายๆคลิปก็จะมีการจำกัดเอาไว้จากเหล่า Creators ซึ่งเข้าใจว่าเมื่อเราสมัคร YouTube Red แล้ว เราจะสามารถโหลดลงเครื่องได้หมดทุกคลิปแบบไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป
- เล่นได้โดยไม่ต้องเปิดแอปค้าง – ฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยแบบสุดๆ พยายามหาทางทำแล้วทำอีกเพื่อให้ได้มา กับการเปิดฟังเพลงค้างเอาไว้แล้วสลับไปแชท เฟซ บราวซ์หรือปิดหน้าจอไปทำอย่างอื่นเลย ซึ่งเช่นเดิมว่าถ้าจ่ายก็จบ ได้ความสามารถนี้ไปแบบง่ายๆจากทาง YouTube เอง
จ่ายค่าบริการให้ YouTube แล้วเงินไปไหน? คุ้มค่ารึเปล่า?
$9.99 บาท คิดเป็นเงินไทยก็จะอยู่ที่ราวๆ 3-400 บาท ซึ่งถ้ามาลองคิดว่าแทนที่จะสมัครบริการฟังเพลงอื่นๆ หรือเช่าหนังต่างๆมาดู เปลี่ยนมาเป็นจ่ายให้กับ YouTube แทนทั้งหมด ดูกันแบบเหมาๆไปเลย ก็อาจจะเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย เพราะแค่เพลงอย่างเดียวที่ขายๆกันก็ตกอยู่เดือนละเป็น 100 บาทอยู่แล้ว รายการทีวีต่างๆก็อัพลง YouTube กันเป็นส่วนใหญ่ ให้ดูย้อนหลังกันได้แบบไม่มีโฆษณา และเงินค่าบริการที่จ่ายให้ YouTube นี้ไม่ใช่ว่าบริษัทจะเก็บเอาไว้เองทั้งหมด แต่ว่าเค้าจะเอาไปจ่ายให้กับเจ้าของรายการต่างๆ นักร้อง ค่ายเพลงที่เราๆเข้าไปดูกันด้วย หรือเรียกว่าแบ่งกำไร (Revenue Sharing) ให้กับเหล่าคนสร้างเนื้อหาดีๆให้เราได้ดูกันนั่นเอง
เริ่มให้บริการเมื่อไหร่?
เตรียมเปิดให้บริการในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ที่อเมริกาก่อน ยังไม่มีประกาศออกมาว่าจะเริ่มขยายได้เมื่อไหร่ และไปประเทศไหนบ้าง สามารถกดเข้าไปลองกันได้ที่ http://www.youtube.com/red
ในไทยจะได้หรือไม่?
เช่นกันว่ายังไม่มีข่าวใดๆออกมา แต่ด้วยว่าไทยเป็นประเทศที่ดู YouTube มากติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกแล้ว ทางบริษัทก็น่าที่จะพิจารณานำเอาระบบนี้มาใช้ในประเทศเราเร็วเป็นพิเศษก็เป็นได้ ส่วนราคาก็ต้องดูว่าจะมีการปรับขึ้นหรือลงหรือไม่ ซึ่งก็หวังว่าจะทำราคาออกมาพิเศษกว่าประเทศอื่นหน่อยเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนไทยนะ
ที่มา YouTube Official Blog, Forbes Thailand1, Google Analytics Thailand2, Blognone3
เยี่ยมยุทธ!!
Xposed YouTube adaway + xposed YouTube backgroundplyback
ดีครับ
คนไทยชอบของฟรีครับ 555
FireTube…
แล้วคนที่ได้รายได้จากการทำคลิปลงยูทูปนี่จะเป็นยังไง บ้างครับ ถ้าใช้ Youtube Red รายได้จะน้อยลงรึเปล่า ?
รัฐบาลต้องรีบผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีกับสินค้าแบบนี้ให้เร็วที่สุด ตอนนี้รายได้เราวิ่งออกจากประเทศปีๆหนึ่งเยอะมาก โดยที่บริษัทเหล่านั้นไม่ต้องจ่ายภาษีเลย
จะได้นำเงินมาพัฒนาประเทศต่อไป
เอ้า….แสดงว่าผมเข้าใจผิดมาโดยตลอดเลยซิครับ
"ว่าเงินภาษี จะถูกนำมาพัฒนาประเทศ"
*หลบTeen แปปครับ ^^
**แซวเล่นขำๆนะครับ
จะว่าดีก็ดีนะ ถ้ามองตรงที่ดู/ฟังจาก youtube ศิลปินหลายคนก็ทำ youtube channel ของตัวเอง ในหลายเพลงเค้าก็ไม่ทำ digital download นะ(ผมล่ะงง) ศิลปินจะได้รายได้จากทางนี้อีกทางครับ แต่ขอให้จัดเป็น library ได้หลายๆอันได้ไหม เผื่อแบ่งกันๆใช้กับสมาชิกในครอบครัว แต่ไม่อยากใช้ library ร่วมกันอ่ะ ดู/ฟังไม่เหมือนกันครับ
อ้อ อีกตัวที่รอจนเซ็ง Apple Music for Android เมื่อไหร่จะมาครับพี่ แต่ว่าคนใช้ IOS บ่นตามๆกันว่าแอฟยังไม่สมบูรณ์นักนะครับตอนนี้
ก็ดีครับ
เล่นออฟไลน์และได้ยอดวิวเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าทำได้คงดี เจอปัญหายอดวิวหายคงตลกไม่ออก
$0.99 ต่อเดือนยังพอคุยกันได้ นี่ 9.99 ใครจะจ่ายเนี่ย
ราคานี้ก็เท่าพวก spotify ครับ
มีทั้งหนังโรง, หนังซี่รี่, เพลงทั่วโลก สำหรับผมคุ้มมาก
จริงๆผมชอบนะ นึกมานานแล้วว่า กูเกิ้ลมาทำ streaming กับ Youtube ไปตั้งแต่แรก น่าจะเหนื่อยน้อยกว่ามาปั้น Google music เพราะลูกค้า youtube นี่มีเยอะอยู่แล้ว
content ส่วนมากบนยูทูปก็มีอยู่แล้ว
แอบไม่ค่อยชอบชื่อ ทำเป็น youtube เวอร์ชัน non-subscibe กับ subscribe ไปเลยน่าจะเวิร์คกว่า ให้คนสมัครก็ฟังเวอร์ชั่นไม่มีโฆษณากับฟัง offline ได้
ถ้าทำจริงอยากเป็นลูกค้านะครับ แต่อยากให้มีราคานักเรียนครึ่งราคาเหมือน spotify ด้วยจะดีมาก
ยังแพงไปสำหรับคนไทย