iPad mini 6 เปิดตัวมาแบบเซอร์ไพรส์พร้อมกับกระแสตอบรับที่ล้นหลามอย่างทันควัน เนื่องจากการแปลงโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ให้สอดคล้องกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple โดยการปรับบอดีให้เหลี่ยมและตัดปุ่มโฮมออก และที่สำคัญคือ เปลี่ยนพอร์ตจาก Lightning มาเป็น USB Type-C ตามสมัยนิยมแล้ว เหมือนจับเอา iPad Air 4 มาย่อส่วนก็ไม่ปาน แต่ด้วยราคาที่กระโดดมาจาก iPad mini 5 อยู่ 4,000 – 5,000 บาท อาจทำให้บางคนลังเลได้เหมือนกัน (?)

iPad mini 6 (Wi-Fi / Cellular)iPad mini 5 (Wi-Fi / Cellular)
จอภาพIPS LCD ขนาด 8.3 นิ้ว
ความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล
ขอบเขตสีกว้าง DCI-P3
ความสว่าง 500 นิต
รองรับเทคโนโลยี True Tone
รองรับปากกา Apple Pencil 2
IPS LCD ขนาด 7.9 นิ้ว
ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล
ขอบเขตสีกว้าง DCI-P3
ความสว่าง 500 นิต
รองรับเทคโนโลยี True Tone
รองรับปากกา Apple Pencil 1
ชิปApple A15 BionicApple A12 Bionic
ความจุ64GB
256GB
กล้องหลัง12MP, f/1.8
แฟลช 4 ดวง
ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
8MP, f/2.4
ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
กล้องหน้า12MP, f/2.4
มุมกว้าง 122 องศา
ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
7MP, f/2.2
ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
ลำโพงสเตอรีโอคู่สเตอรีโอเดี่ยว
เครือข่าย*5G
รองรับ Nano-SIM, eSIM
LTE
รองรับ Nano-SIM, eSIM
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11ax
Bluetooth 5
Wi-Fi 802.11ac
Bluetooth 5
พอร์ตUSB Type-CLightning
แบตเตอรี่19.3 Wh19.1 Wh
ขนาด195.4 x 134.8 x 6.3 มม.203.2 x 134.8 x 6.1 มม.
น้ำหนัก293 กรัม ; 297 กรัม300.5 กรัม ; 308.2 กรัม
สีเทา, ชมพู, ม่วง, ทองเทา, เงิน, ทอง

*เฉพาะโมเดล Wi-Fi + Cellular

ขนาดโดยรวมของ iPad mini 6 ไม่ได้แตกต่างกับ iPad mini 5 มากนัก แต่ด้วยขอบหน้าจอที่บางลงจึงขยายพื้นที่แสดงผลได้เต็มสัดส่วนมากขึ้น จาก 7.9 นิ้ว กลายเป็น 8.3 นิ้ว พร้อมทั้งอัปเกรดคุณสมบัติการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ขึ้นเป็นเจเนอเรชันที่ 2 แล้ว แถมมีแถบแม่เหล็กบริเวณด้านข้างเครื่องเอาไว้ดูดเพื่อชาร์จแบตและเก็บปากกาในตัวด้วยนะ สะดวกมากขึ้นแน่นอน

สำหรับไส้ใน iPad mini 6 ขยับจากชิป A12 Bionic ขึ้นมาเป็น A15 Bionic เลย อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะอายุห่างกันตั้ง 2 ปี โดยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่พ่วงเข้ามาด้วยคือ คุณสมบัติการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ 5G นั่นเอง (อย่างหลังนี่เฉพาะโมเดลเซลลูลาร์นะ) ซึ่งจะมีประโยชน์กับยุคปัจจุบันที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนช่องสัญญาณเบียดเสียดกันเสียจนแออัดไปหมด เหมือนย้ายจากเลนที่รถติด มาเป็นเลนใหม่ที่รถโล่ง อะไรทำนองนั้น

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว กล้องถ่ายภาพเป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดย Apple ได้เพิ่มความละเอียดขึ้นมาเป็น 12MP ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย อีกทั้งยังใส่แฟลช LED มาให้ถึง 4 ดวง ซึ่งใน iPad mini 5 นี่ ไม่มีแฟลชสักดวงเดียว… รวมถึงลำโพงที่อัปเกรดจากลำโพงเดี่ยวมาเป็นลำโพงคู่ เอาไปดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้เต็มอรรถรสยิ่งขึ้น เสียงบาลานซ์ทั้งซ้ายและขวา (แนวนอน) ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือเป็นความเปลี่ยนแปลงในระดับจุ๋มจิ๋มที่อาจไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานจริงเท่าไหร่นัก เช่น น้ำหนักที่เบาลง กับแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น อย่างละนิดหน่อย

ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของ iPad mini 5 มาก่อน หรือใช้รุ่นที่เก่ากว่านี้ iPad mini 6 จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าใช้งาน iPad mini 5 อยู่แล้ว และเครื่องยังไม่เสียอะไร คงไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบเร่งซื้อใหม่ขนาดนั้น เนื่องจากประสิทธิภาพรุ่นเดิมยังแรงเหลือเฟือ ใช้งานได้แทบทุกอย่าง รวมถึงประเด็นเรื่องพอร์ต USB Type-C ที่ควรจะเป็นข้อดี บางแง่มุมอาจกลายเป็นข้อเสียไปสำหรับใครที่ยังผูกติดอยู่กับ Lightning ในอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างของ Apple ครับ ส่วนราคาเปรียบเทียบ ดูได้ที่ด้านล่างนะ

ราคา iPad mini 6

  • Wi-Fi ความจุ 64GB – ราคา 17,900 บาท
  • WiFi + Cellular ความจุ 64GB – ราคา 23,400 บาท
  • Wi-Fi ความจุ 256GB – ราคา 23,400 บาท
  • WiFi + Cellular ความจุ 256GB – ราคา 28,900 บาท

ราคา iPad mini 5

  • Wi-Fi ความจุ 64GB – ราคา 13,900 บาท
  • WiFi + Cellular ความจุ 64GB – ราคา 18,400 บาท
  • Wi-Fi ความจุ 256GB – ราคา 18,900 บาท
  • WiFi + Cellular ความจุ 256GB – ราคา 23,400 บาท