เทียบ iPad mini 7 และ iPad mini 6 มีอะไรใหม่ ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดี

แอปเปิลเผยโฉม iPad mini 7 แบบเงียบ ๆ โดยไม่จัดงานเปิดตัว สานต่อ iPad mini 6 รุ่นเดิมที่ออกมาตั้งแต่ปี 2021 กลับมาคราวนี้ ดีไซน์ภายนอกยังเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่หน้าตา ขนาด ไปจนถึงน้ำหนัก ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่มิลลิเมตรเดียว แต่ภายในมีการอัปเกรดชิปแบบก้าวกระโดดเป็น A17 Pro พร้อมชู Apple Intelligence เป็นจุดขายสำคัญ นอกจากนี้ยังมีความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกบางส่วน ซึ่ง DroidSans รวบรวมข้อมูลมาสรุปไว้แล้วในบทความนี้

*iPad mini 6 ตอนเปิดตัว ราคาจะเปิดที่ 17,900 บาท ก่อนที่จะปรับราคาขึ้นเป็น 19,900 บาท ในเดือนตุลาคม 2022 แล้วยาวมาจนถึงปัจจุบัน

อะไรบ้างที่เหมือนเดิม

• ดีไซน์โดยรวม
• ขนาดหน้าจอ
• พาเนลแสดงผล ความละเอียด ความสว่าง และอัตรารีเฟรช
• วัสดุ ขนาด และน้ำหนัก
• ความละเอียดกล้องหน้า และกล้องหลัง
• ความจุแบตเตอรี่

ชิปใหม่ เร็ว แรง ทรงพลัง

ด้วยความที่อายุห่างกันถึง 3 ปี iPad mini 7 จึงอัปเกรดชิปรวดเดียวจาก A15 Bionic มาสู่ A17 Pro แม้สุดท้ายจะไม่ใช่ชิป M2 ตามที่หลายคนคาดหวังกัน แต่ความแรงระดับนี้ก็ยังนับว่าหาตัวจับยากในตลาด และคงไม่สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างอะไรมากนักในแง่การใช้งานทั่วไป

ไส้ในชิป A17 Pro ของ iPad mini 7 มากับซีพียู 6 แกน และจีพียู 5 แกน แอปเปิลเคลมว่าทรงพลังกว่าเดิม 30% และ 25% ตามลำดับ รองรับการเล่นเกมกราฟิกอลังการระดับ AAA

มีฟีเจอร์ AI ให้ใช้งาน

การรองรับ Apple Intelligence บน iPad mini 7 อาจนับได้ว่าเป็นจุดแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดจุดหนึ่งเมื่อเทียบกับ iPad mini 6 หากไม่นับประเด็นเรื่องชิปที่เป็นการอัปเกรดตามรอบปี ซึ่ง iPad mini 6 นั้นมาพร้อมแรม 4GB ไม่มากพอจะแบก Apple Intelligence ได้ไหว

ส่วน iPad mini 7 ทางแอปเปิลยังไม่เปิดเผยขนาดแรมออกมา แต่ตัวเลขที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ 8GB เพราะเป็นตัวเลขขั้นต่ำในปัจจุบันที่สามารถรัน Apple Intelligence ได้ เท่ากับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro

จากการอัปเกรดนี้ ผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์ในการใช้งานทั่วไปร่วมไปด้วย เช่นการเปิดหน้าเว็บพร้อมกันหลายแท็บ โดยที่ไม่ต้องรีเฟรชหน้าบ่อย ๆ

รองรับ Apple Pencil Pro ตอบโจทย์นักวาดมือโปร

Apple Pencil Pro เป็นสไตลัสรุ่นล่าสุดของแอปเปิลที่เปิดตัวพร้อม iPad Pro M4 ไปเมื่อช่วงกลางปี พร้อมคุณสมบัติใหม่หลายอย่าง เช่น การหมุนหัวปากกา การตอบสนองด้วยการสั่น การควบคุมโดยการบีบ ซึ่ง iPad mini 7 ก็สามารถใช้งานคู่กับ Apple Pencil Pro ได้แล้วเช่นกัน

ถ่ายโอนข้อมูลและการเชื่อมต่อไวขึ้น

iPad mini 7 อัปเกรดภาคการเชื่อมต่อ 3 จุด คือ เพิ่มการรองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 จากเดิมที่ iPad mini 6 รองรับเฉพาะ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5 ในขณะที่พอร์ต USB-C ได้รับการอัปเกรดความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดเพิ่มขึ้นสองเท่า จาก 5 Gbps เป็น 10 Gbps หากใช้งานร่วมกับสายที่รองรับ

ปรับปรุงการถ่ายภาพเล็กน้อย

ผลพวงจากคุณสมบัติ Smart HDR 4 ที่ติดมากับชิป A17 Pro ส่งผลให้ iPad mini 7 ถ่ายภาพ HDR ได้ดีขึ้นเล็กน้อย (ด้วยกล้องหลัก) จากช่วงไดนามิกเรนจ์ที่กว้างขึ้น ทำให้ขอบเขตการเก็บแสงสีในส่วนมืด – ส่วนสว่าง นั้นกว้างกว่าเดิม และในขณะเดียวกัน แอปเปิลยังได้ปรับปรุงให้ iPad mini 7 สแกนเอกสารได้คมชัดขึ้น จากการนำ AI มาช่วยประมวลผล

ลาก่อนช่องใส่ซิม

ล่าสุด iPad mini 7 ไม่มีช่องใส่ซิมแล้ว เป็นไปตามแนวทางการผลักดัน eSIM ของแอปเปิลในช่วงหลัง เช่นเดียวกับ iPad Pro M4 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ก็รองรับเฉพาะ eSIM เหมือนกัน

จอยังย้วยอยู่ไหม

หนึ่งในจุดด่างพร้อยที่เกิดกับ iPad mini 6 เมื่อปีที่แล้ว คือ ปัญหา ‘จอย้วย’ เป็นอาการที่หน้าจอซีกซ้ายและขวารีเฟรชการแสดงผลไม่พร้อมกันหากเลื่อนหน้าจอในแนวตั้ง ทำให้ภาพมีลักษณะเหมือนคลื่น ยืด ๆ ย้วย ๆ ชวนขัดตา ต้นเหตุมาจากคุณภาพของหน้าจอ ประกอบกับอัตรารีเฟรชที่ไม่สูงเป็นทุนเดิม แอปเปิลจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์

ส่วน iPad mini 7 ในปีนี้ ตามข้อมูลเบื้องต้นที่เปิดเผยออกมา หน้าจอยังเหมือนเดิมกับรุ่นก่อนทุกอย่าง แต่ยังไม่อาจสรุปได้ว่าปัญหาจอย้วยได้รับการแก้ไขหรือยัง เพราะข้อมูลบนหน้ากระดาษไม่ได้สะท้อนถึงประสบการณ์การใช้งานจริง

ดังนั้นคำตอบของคำถามนี้ คงยังไม่อาจทราบได้จนกว่าจะมีรีวิว – พรีวิว ออกมาจากผู้ใช้งานจริงในสัปดาห์หน้า (ต่างประเทศเริ่มขาย 23 ตุลาคม)

เปลี่ยนดี – ไม่เปลี่ยนดี

iPad mini 7 ยังมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย ของใหม่ที่เพิ่มมาก็ดูจะไม่ค่อยจำเป็นกับผู้ใช้งานทั่วไปเท่าไหร่ เช่น Apple Pencil Pro ที่เจาะกลุ่มมืออาชีพ หรืออีกตัวอย่างคือ การถ่ายโอนข้อมูล 10 Gbps ที่คงไม่ได้มีใครใช้งานกันบ่อยขนาดนั้น

จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ทำไมไม่อั้นไว้ก่อน’ แล้วไปเปิดตัวปีหน้าทีเดียว แต่หากพิจารณาจากแนวทางของแอปเปิลที่พยายามผลักดัน Apple Intelligence อย่างหนัก แล้ว iPad mini 6 รุ่นเดิมดันไม่รองรับ จึงต้องรีบเข็นรุ่นใหม่ออกมาขาย จึงเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้

ตามความเห็นของผู้เขียน หากในมือถือ iPad mini 6 อยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่ดีพอให้ขยับมา iPad mini 7 แต่ถ้าเตรียมย้ายมาจาก iPad mini 5 หรือต่ำกว่า หรือข้ามฟากมาจากค่ายอื่น แน่นอนว่า iPad mini 7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหาแท็บเล็ตจอเล็ก ที่มีตัวเลือกไม่มากนักในตลาด เพราะในรุ่นนี้จะได้ทั้งชิป A17 Pro ฟีเจอร์ Apple Intelligence แรมและความจุเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้น

iPad mini 7 เปิดราคาเริ่มต้น 17,900 บาท เบื้องต้นยังไม่ประกาศกำหนดการวางจำหน่ายในไทย