ปกติแทบเล็ตอย่าง iPad ในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีความสามารถในการใช้งานที่ทิ้งห่างแทบเล็ต Android ไปมากแล้ว แต่หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง iPadOS เพื่อใช้งานกับแทบเล็ต iPad โดยเฉพาะ ทำให้ความสามารถต่างๆ ของมันถูกปลดล็อคให้กลายเป็นแทบเล็ตที่สมบูรณ์แบบมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าเลยล่ะ

iPadOS จะมีการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของ Home screen ใหม่ ด้วยการลดช่องว่างระหว่างไอคอนแอปลง ทำให้ใน 1 หน้าจอสามารถยัดไอคอนแอปได้มากกว่าเดิม ไม่เปลืองเนื้อที่เหมือนแต่ก่อน แถมยังปัก Today View เอาไว้ที่หน้า Home Screen ให้ดูได้ง่ายๆ อีกต่างหาก

iPadOS เพิ่มความสามารถในการแบ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอปเดียวกันออกเป็น 2 หน้าต่าง อย่างเช่นเราสามารถเปิดไฟล์ Microsoft Word อันนึงเอาไว้ทางซ้าย และทางขวาก็สามารถเปิดไฟล์ Microsoft Word ได้อีก 1 ไฟล์

iPadOS ยังทำให้ iPad รองรับการใช้งาน USB Drive หรือ SD Card (ผ่าน Card Reader) เพื่อรับ-ส่งข้อมูลได้แล้วด้วย! โดยการใช้งานก็ง่ายๆ ผ่านแอป Files เท่านั้นเอง ยังไม่หมดเท่านั้น iPadOS ยังรองรับการใช้งานเมาส์ (แบบมีสาย) เพื่อความสะดวกในการใช้งานควบคู่ไปกับคีย์บอร์ด ให้เหมือนกับการใช้งานคอมพิวเตอร์จริงๆ เข้าไปอีกขั้น (ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ารองรับเมาส์บลูทูธด้วยรึเปล่า)

การแสดงผลต่างๆ เวลาท่องเว็บใน Safari ก็จะได้รับการปรับปรุงให้เหมือนกับการใช้งานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Google Docs หรือ Squarespace แถมยังมี Download Manger ใส่มาให้อีกด้วย

และที่น่าจะถูกใจหลายๆ คน ก็คือคราวนี้ iPadOS จะรองรับการใช้งาน Font ต่างๆ ที่เราดาวน์โหลดมาใส่เองด้วย

การใช้งานควบคู่กับ Apple Pencil ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอีก โดยคราวนี้จะลดความหน่วงลงจากเดิมที่ 20 มิลลิวินาที เหลือแค่ 9 มิลลิวินาที เท่านั้น ทำให้การตอบสนองและความแม่นยำในการใช้งานเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลยล่ะ

ส่วน iPad รุ่นที่จะได้ใช้ iPadOS ก็มีตามนี้เลย

  • iPad Pro 12.9-inch
  • iPad Pro 11-inch
  • iPad Pro 10.5-inch
  • iPad Pro 9.7-inch
  • iPad (6th generation)
  • iPad (5th generation)
  • iPad mini (5th generation)
  • iPad mini 4
  • iPad Air (3rd generation)
  • iPad Air 2

และทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์หลักๆ ที่น่าสนใจของ iPadOS ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีความสามารถยิบย่อยอีกหลายอย่างที่ใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานให้กับ iPad ได้ดีกว่าเดิมและทำให้ iPad เป็นแทบเล็ตที่น่าใช้มากกว่าเดิมอีกด้วย

 

ที่มา : 9to5mac, Apple iPad