เวลาเดินผ่านไปไวเหมือนโกหก เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2023 Apple ก็ได้เตรียมจัดงาน Apple Event 2023 เพื่อเปิดตัวมือถือที่ทุกคนรอคอยอย่าง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ซึ่งในรอบนี้มีไฮไลต์เด็ดอยู่ที่การปิดตำนานพอร์ต Lightning และเปลี่ยนมาใช้ USB-C แล้ว ส่วนจะมีอะไรอัปเกรดอีกบ้าง เราได้รวบรวมข่าวหลุดทั้งหมดเอาไว้แล้ว และหากมีอะไรเพิ่มเติมเราจะมาอัปเดตให้ทราบกันในนี้ตลอด ๆ นะ
สรุปข้อมูล iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ก่อนเปิดตัว ได้อะไรใหม่บ้าง?
ปรับดีไซน์กระจกหลัง ได้จอ Dynamic Island ทุกรุ่น
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus โดยรวมแล้วจะมีดีไซน์คล้ายกับรุ่นก่อนเกือบ 90% แต่จะเปลี่ยนกระจกหลังเป็นกระจกแบบด้านเหมือนในรุ่น Pro ส่วนจอแสดงผลยังคาดว่าจะในสเปคเดิม แต่ก็มีบางแหล่งข่าวระบุว่า iPhone 15 อาจมาในขนาดใหญ่ขึ้นนิดหน่อยจาก 6.1 นิ้ว เป็น 6.2 นิ้ว
ทีเด็ดของรุ่นเริ่มต้นอยู่รอยบากของหน้าจอ ที่ในรอบนี้เปลี่ยนเป็นจอแบบเจาะรู Dynamic Island เหมือนกันหมดทุกรุ่นแล้ว และจะมาพร้อมกับชิปไดรเวอร์จอ OLED ที่ขนาดเล็กลง และประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่ยังคงรองรับรีเฟรชเรทที่ระดับมาตรฐาน 60Hz เหมือนเดิม
ยกเครื่องกล้องใหม่ ใช้เซนเซอร์ 48MP ตัวเดียวกับ iPhone 14 Pro
หลังจากที่ติดอยู่กับกล้องหลัง 12MP มานานหลายรุ่นติดต่อกัน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เตรียมอัปเกรดกล้องหลักครั้งใหญ่ ใช้เซนเซอร์ความละเอียด 48MP เทียบเท่ากับ iPhone 14 Pro Series แต่จะมาในขนาดเซนเซอร์ที่เล็กกว่ากันนิดหน่อย และถึงแม้ว่าจะได้กล้องความละเอียดเท่ากัน แต่ฟีเจอร์อย่าง ProRES และ ProRAW ยังคงสงวนไว้ให้เฉพาะรุ่น Pro Series เท่านั้น
ได้ชิป Apple A16 เหมือน iPhone 14 Pro
ด้านประสิทธิภาพนั้น iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะมาพร้อมกับชิปเก่าที่เปิดตัวมาพร้อมกับ iPhone 14 Pro เมื่อปีก่อนอย่าง Apple A16 Bionic ซึ่ง ณ ปี 2023 ประสิทธิภาพก็ยังคงทรงพลังเป็นอันดับต้น ๆ ของชิปเซ็ตมือถือ ส่วน RAM ยังคงให้มาที่ 6GB และรุ่นความจุก็อาจจะเริ่มต้นที่ 128GB เท่าเดิม
คาดการณ์รุ่นความจุ iPhone 15 / iPhone 15 Plus
- 128GB
- 256GB
- 512GB
เปลี่ยนพอร์ตชาร์จเป็น USB-C 2.0
ในรอบนี้เตรียมบอกลาพอร์ต Lightning อย่างเป็นทางการ เพราะ iPhone 15 ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในปีนี้เตรียมเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ ซีรีส์มาตรฐานทั้งสองรุ่นจะรองรับเพียง USB-C 2.0 ซึ่งมีข้อจำกัดด้านการโอนถ่ายข้อมูลที่ 480Mb/วินาที เทียบเท่าพอร์ต Lightning เป๊ะ ๆ
แต่ทั้งนี้ถึงได้ USB-C ไปก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะ Apple คาดจะมีลูกตุกติก เพราะมีข่าวว่าสาย USB-C ของ iPhone 15 ทุกรุ่นจะฝังชิป MFi (Made For iPhone) ลงไปในสายชาร์จ หากใช้สายชาร์จอื่น ๆ ที่ไม่มีชิป MFi อาจโดนจำกัดความเร็วในการชาร์จ หรืออาจจำกัดความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลก็เป็นได้
อัปเกรดแบตเตอรี่ใหม่ เยอะจุใจเกือบ 5,000 mAh
หากใครที่รู้สึกว่าแบตเตอรี่รุ่นก่อน ๆ ยังไม่พอใช้งาน Apple ได้เตรียมเพิ่มความจุแบตเตอรี่ให้เยอะขึ้นกว่าเดิมทุกรุ่น รองรับการใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม โดย iPhone 15 จะได้อัปเกรดเยอะที่สุด 18% (จาก 3,279mAh เป็น 3,877mAh) ส่วน iPhone 15 Plus จะได้อัปเกรดความจุสูงถึง 4,912 mAh เลยทีเดียว
สีที่คาดว่าจะมีใน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus
ณ ตอนนี้สีของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ยังไม่มีข้อมูลที่นิ่งพอที่จะสรุปได้ แต่ข้อมูลชุดล่าสุดเผยว่าตัวเครื่องจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ Black, สีเขียว Green, สีฟ้า Blue, สีเหลือง Yellow และสีชมพู Pink และมี 1 สีที่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีหรือไม่ คือสีส้ม Coral ที่มาในโทนคล้าย ๆ กับตอน iPhone XR โดยทุก ๆ สีจะมาพร้อมสายชาร์จแบบถักความยาว 1.6 เมตร และได้สีตามตัวเครื่องแถมมาให้ในกล่องด้วย
สรุปสเปค iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก่อนเปิดตัว ได้อะไรใหม่บ้าง?
ปรับดีไซน์นิดหน่อย แต่ใช้วัสดุไทเทเนียม หรูหรา ทนทานกว่าเดิม
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max คาดว่าจะมีการปรับดีไซน์ฝาหลังให้มีความโค้งมนมากขึ้น จากที่ในรุ่นเดิมเป็นกระจกที่เรียบเสมอไปกับขอบเฟรมตัวเครื่องแทบทั้งหมด ส่วนเฟรมขอบตัวเครื่องในรุ่นนี้ คาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้วัสดุไทเทเนียม ที่มีน้ำหนักเบากว่า แข็งแรงกว่า และแพงกว่า และจะมีการขัดเป็นพื้นผิวด้าน ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่มีพื้นผิวแบบเงางาม ทำให้ติดลายนิ้วมือยากกว่าในรุ่นก่อน
อัปเกรดจอใหม่ขอบจอน้อยที่สุดในวงการ
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่มีความโค้งตามมุมเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นการกลับไปใช้ดีไซน์จอแบบ iPhone 11 Pro Series อีกครั้ง แต่ที่พิเศษมากในรอบนี้คือ ในรุ่นนี้จะดีไซน์ขอบจอแสดงผลออกมาได้บางที่สุดในวงการ มีขนาดเพียงแค่ 1.55 มม. เท่านั้น
ส่วนพาเนลจอคาดว่าจะใช้ LTPO Super Retina XDR OLED 1 – 120Hz เหมือนเดิม แต่จะมาพร้อมกับชิปไดรเวอร์ที่ขนาดเล็กลง และกินไฟน้อยลงกว่าเดิมจาก 40nm HV เหลือเพียง 28nm HV ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมดกลางทาง
ตัดปุ่ม Mute เพิ่มปุ่ม Action Button
ปุ่ม Action ที่จะเข้ามาแทนที่ปุ่ม Mute ที่ใช้เป็นสวิตช์ปิดเสียง โดยปุ่มที่ว่านี้จะสามารถตั้งค่าคำสั่งได้ตามที่เราต้องการ จะใช้เพื่อเปิดโหมดสั่น, เปิดไฟฉาย หรือเปิดโหมดห้ามรบกวน ทำได้เหมือนใน Apple Watch Ultra ส่วนเพิ่ม / ลดเสียงยังคงใช้การกดแบบ Mechanical เหมือนเดิม ยังไม่เปลี่ยนไปใช้ปุ่ม Haptic Touch ใช้การสั่นเพื่อจำลองแรงกด เพราะเจอปัญหาทางด้านเทคนิคจนต้องตัดสินใจล้มแผนไป
ใช้ชิปใหม่ล่าสุด Apple A17 Bionic แรงกว่าเดิม
กลายเป็นธรรมเนียมของ Apple ไปแล้วที่ให้ iPhone Pro Series ได้ใช้ชิปเทคโนโลยีใหม่กว่าซีรีส์ธรรมดา และในรอบนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็จะมาพร้อมกับชิป Apple A17 Bionic ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 3 นาโนเมตรของ TSMC
ภายในชิปจะประกอบไปด้วย CPU 6 คอร์ + GPU 6 คอร์ เยอะกว่า A16 Bionic ที่ให้ GPU มาเพียง 5 ตัวเท่านั้น และคาดว่าจะทำความเร็วได้ดีกว่ารุ่นเดิมถึง 10 – 15% และด้วยอานิสงส์ของสถาปัตยกรรมขนาด 3nm ทำให้จัดการพลังงานได้ดีกว่าเดิมถึง 30% ด้วย
อาจมาพร้อมรุ่นความจุขนาดยักษ์ 2TB
ด้านรุ่นความจุนั้น หากใครที่คิดว่า 128GB ไม่พอใช้ อาจได้ฟังข่าวดี เพราะ Apple เตรียมตัดรุ่นความจุ 128GB ออกจาก iPhone 15 ทุกรุ่นในซีรีส์ โดยจะเปลี่ยนรุ่นเริ่มต้นให้เริ่มที่ความจุ 256GB แทน ซึ่งใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับรุ่นความจุสูงสุดถึง 2TB ให้เลือกกันเพิ่มเติมด้วย โดยรุ่นความจุที่น่าจะมีให้เลือกคือ
- 256GB
- 512GB
- 1TB
- 2TB
ส่วนด้าน RAM นั้น ตอนนี้ข้อมูลยังแตกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งนักวิเคราะห์อย่าง TrendForce ได้ออกมาบอกว่าทั้งสองรุ่นท็อปจะอัปเกรด RAM เป็น 8GB แต่อย่างไรก็ตาม แต่มีบางแหล่งข่าวบอกว่าจะมากับ RAM 6GB เหมือนเดิม
ได้พอร์ต USB-C Thunderbolt 4 ถ่ายโอนข้อมูลเร็วสุดในวงการ
ในเมื่อซีรีส์ธรรมดาได้พอร์ต USB-C 2.0 ธรรมดา ๆ ไป iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ต้องยกระดับไปอีกขั้น โดยคาดว่าทั้งสองรุ่นท็อปจะได้ใช้พอร์ต Thunderbolt 4 เพราะมีภาพหลุดอะไหล่แผงวงจรพอร์ตชาร์จของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่มีชิป Re-Timer สำหรับเพิ่มความเสถียรในการส่งข้อมูล Bandwidth สูง ๆ ซึ่งหากเปิดตัวมาตามนี้จริงเรียกได้ว่า จะมากับพอร์ตที่รองรับการรับส่งข้อมูลได้เร็วที่สุดในวงการ สูงสุดถึง 40 Gbps
แบตเตอรี่อึดขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น
แบตเตอรี่ใน iPhone 15 Pro คาดว่าจะมากับความจุที่เยอะว่าเดิมถึง 14% (จากเดิม 3,200mAh เพิ่มเป็น 3,650mAh) ส่วนในรุ่นท็อปสุดอย่าง iPhone 15 Pro Max จะได้เพิ่มขึ้นมาที่ราว ๆ 12% (จากเดิม 4,323mAh เพิ่มเป็น 4,852mAh) และเมื่อรวมพลังกับชิปใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นแล้ว น่าจะทำให้ใช้งานได้เต็มวันแบบสบาย ๆ
และถ้าใครที่ต้องการใช้งานหนัก ๆ แล้วรู้สึกว่าชาร์จไวที่ Apple ให้มาในรุ่นก่อนราว ๆ 27W มันช้าไป ในรุ่นนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาให้เป็น 35W สำหรับการชาร์จผ่านสาย ทำให้แวะชาร์จระหว่างวันได้เร็วขึ้นนิดหน่อย นอกจากนี้ยังได้อัปเกรดเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายมาเป็น Qi2 รองรับกำลังไฟสูงสุดที่ 15W ไม่ต้องใช้ที่ชาร์จ MagSafe ก็ชาร์จได้เต็มสปีดแล้ว
iPhone 15 Pro Max ยกเครื่องกล้องใหม่ ซูมไกล 6 เท่า
รอบนี้ Apple ได้เตรียมสร้างความแตกต่างระหว่าง iPhone 15 Pro Series ทั้งสองรุ่น ด้วยการเพิ่มกล้อง Periscope ซูมไกลถึง 6 เท่าให้เฉพาะ iPhone 15 Pro Max เท่านั้น นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้เปลี่ยนเซนเซอร์กล้องหลักใหม่เป็น Sony IMX903 ที่มีขนาดใหญ่เกือบ 1 นิ้ว ส่วน iPhone 15 Pro คาดว่าจะได้กล้องชุดเดิมเพราะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ซึ่งข้อแตกต่างตรงนี้อาจทำให้ iPhone 15 Pro Max เปลี่ยนชื่อเป็น iPhone 15 Ultra เพื่อแตกไลน์สินค้าใหม่ก็ได้
สีที่คาดว่าจะมีใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
iPhone 15 Pro Series ทั้งสองรุ่นคาดว่าจะมาพร้อมกับตัวเลือกสีทั้งหมด 4 สี และมาพร้อมสาย USB-C แบบถักตามสีตัวเครื่องแถมมาให้เลยในกล่อง โดยจะมีทั้ง สีดำ Space Black, สีเงิน Silver, สีเทา Titan Gray และสีน้ำเงินเข้ม Dark Blue ที่คล้าย ๆ กับตอน iPhone 12 Pro Series ด้วย แต่ก็มีบางข่าวลือว่าอาจมาพร้อมกับสีแดง Burgundy ด้วย
คาดการณ์ราคา และรุ่นความจุ iPhone 15 ทุกรุ่น
มีข่าวมาอยู่เรื่อยเรื่อง iPhone 15 ทุกรุ่นจะปรับขึ้นราคา เพราะในปีนี้ เงินสกุลดอลลาร์ค่อนข้างอ่อนค่า อีกทั้งยังเจอปัญหาอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเกินค่าเฉลี่ย ทำให้ Apple อาจต้องตัดสินในขึ้นราคา iPhone รุ่นใหม่ในบ้านเกิด ประมาณ 3,500 – 7000 บาท หลังพยุงราคาเปิดตัวรุ่นท็อป Pro Series ไว้ที่ 999 เหรียญฯ (ประมาณ 35,000 บาท) มาตั้งแต่ปี 2017
ส่วนในไทยเองคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะหากยังจำกันได้ iPhone 14 รวมถึงสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือจากมือถือก็เพิ่งปรับราคาขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว หลังเจอภาวะเงินเฟ้อและเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่สำหรับราคารุ่น Pro Series อาจจะสูงกว่าเดิม 4,000 บาท เพราะได้ทำการตัดรุ่นความจุเริ่มต้น 128GB ออกไป ส่วนรุ่นท็อปสุดอย่าง 2TB ราคาก็อาจทะยานแตะ 70,000 บาทก็เป็นได้
คาดการณ์ราคาเปิดตัว และรุ่นความจุ iPhone 15 ทุกรุ่นในไทย | |||
iPhone 15 | iPhone 15 Plus | iPhone 15 Pro | iPhone 15 Pro Max |
128GB ราคา 32,900 บาท | 128GB ราคา 37,900 บาท | 256GB ราคา 45,900 บาท | 256GB ราคา 48,900 บาท |
256GB ราคา 36,900 บาท | 256GB ราคา 41,900 บาท | 256GB ราคา 54,900 บาท | 512GB ราคา 57,900 บาท |
512GB ราคา 45,900 บาท | 512GB ราคา 50,900 บาท | 1 TB ราคา 63,900 บาท | 1 TB ราคา 66,900 บาท |
– | – | 2 TB ราคา 72,900 บาท | 2 TB ราคา 75,900 บาท |
ตารางเทียบความจุแบตเตอรี่ iPhone 13, 14 และ 15 ทุกรุ่น
iPhone 13 Series | iPhone 14 Series | iPhone 15 Series (ยังไม่คอนเฟิร์ม) |
iPhone 13: 3,227mAh | iPhone 14: 3,279mAh | iPhone 15: 3,877mAh |
iPhone 13 mini: 2,406mAh | iPhone 14 Plus: 4,325mAh | iPhone 15 Plus: 4,912mAh |
iPhone 13 Pro: 3,095mAh | iPhone 14 Pro: 3,200mAh | iPhone 15 Pro: 3,650mAh |
iPhone 13 Pro Max: 4,352mAh | iPhone 14 Pro Max: 4,323mAh | iPhone 15 Pro Max: 4,852mAh |
iPhone 15 เปิดตัววันไหน
Apple Event 2023 ที่จะเป็นงานเปิดตัว iPhone 15 นั้นจะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กันยายน 2023 เวลา 10 โมงเช้า (ตามเวลา Pacific) ซึ่งในไทยจะตรงกับคืนวันที่ 12 ย่างเข้าวันที่ 13 กันยายน เวลาเที่ยงคืน
ส่วนวันวางจำหน่าย iPhone 15 8 คาดว่าจะเปิดให้ประเทศที่จัดอยู่ใน Tier แรกซึ่งเป็นกลุ่มที่ประเทศไทยอยู่ในรอบที่แล้ว ได้สั่งจองตัวเครื่องกันภายในวันที่ 15 กันยายน หลังจากนั้นจะเริ่มวางขายจริงภายในวันที่ 22 กันยายน
แต่ iPhone 15 Pro Max คาดว่าจะจัดส่ง และวางจำหน่ายช้ากว่าเดิม 3 – 4 สัปดาห์ เป็นในช่วงวันที่ 6 – 13 ตุลาคมแทน เพราะ Sony และ LG Display ติดปัญหาด้านการผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนต่าง ๆ นั่นเอง
อ้างอิง : MacRumors (1) (2), Apple Hub (Twitter)
Comment