ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012 เป็นต้นมา Apple ค่ายคอมพิวเตอร์ที่มาเอาดีทางด้านสมาร์ทโฟนกับทหารเอก iPhone ได้สูญเสียดินแดนในสหรัฐให้กับ Googel และกองทัพหุ่นเขียว Android ไปเป็นครั้งแรก จากนั้น Apple ก็ได้พยายามสู้รบปรบมือกับ Android มาโดยตลอด ส่งทั้ง iPhone 5/5s/5c ออกมา แต่ก็โดนกองทัพหุ่นยนตร์ตีแตกพ่ายกลับไปทุกที
จนในที่สุดเมื่อสิ้นบุญของพระเจ้า สตีฟ จ๊อบส์ ทางมหาอุปราช ทิม คุก เห็นว่าทหารและขุนพลเอกของฝั่ง Android นั้นมีแต่ตัวใหญ่ๆ กำยำล่ำสัน 5-6 นิ้วขึ้นไปทั้งนั้น การจะเอาทหารตัวเล็กๆ ไปสู้คงจะทำอะไรไม่ได้ ก็ได้ถือโอกาสนี้ พลิกบิดธรรมเนียมประเพณี iPhone มือเดียว ที่สืบทอดต่อกันมาช้านานมาเป็น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในทันที และหมากเกมนี้ก็ส่งผลให้ Apple สามารถยึดครองดินแดนที่สูญเสียให้กับ Android มาได้เป็นที่เรียบร้อยในช่วงฤดูเหมันต์ คริสต์ศักราช 2014
เห็นได้ชัดๆ ว่าการมาของ iPhone 6 / 6 Plus นั้นตอบโจทย์แฟนๆ ของ Apple ได้ค่อนข้างมาก หลายๆ คนที่รออยู่ก็ซื้อแบบไม่ลังเล บางคนที่เปลี่ยนไปใช้ Android เพราะหน้าจอใหญ่ก็กลับมาซบอก Apple และ iPhone และส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของ Apple ในสหรัฐอเมริกานั้นพุ่งขึ้นเป็น 47.77% แซงหน้า Android ไปเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งการมาของ iPhone 6 / 6 Plus คร้้งนี้ไม่ได้ส่งผลแค่ในสหรัฐเท่านั้น แม้แต่ในฝั่งยุโรปที่เป็นฐานที่มั่นของ Android ก็โดนผลกระทบด้วย โดยส่วนแบ่งตลาดของ Apple นั้นโตขึันราวๆ 2 เท่าจากปี 2013 ในประเทศใหญ่ๆ อย่าง สเปน อิตาลี ฝรั่งเศสและเยอรมัน
คงไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันแล้ว ว่า iPhone 6 / 6 Plus นั้นประสบความสำเร็จแค่ไหน เพราะผลสำรวจที่ออกมานั้นเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี งานนี้ต้องมารอลุ้นกันต่อในปี 2015 ครับ ว่า Android จะมี Killer device ออกมาฟาดฟันกับทางฝั่ง Apple หรือเปล่า
source : kantaworldpanel via gsmarena
googel> google ทำให้นึกถึงเว็บนึง มันก็น่าซื้อครับแต่พอนึกถึง android มันตอบโจทย์ได้ครบ ก็เลยอยู่ที่ android และอย่างไม่จำเจ
Apple นี่แกร่งจริง
บริษัทเดียว ตบ ทั้งกองทัพ
ใช้เวลา 2 ปี เพิ่งแซง ยังไม่ถึง 1% แบบนี้เค้าวัดกับตัวเค้าเองมากกว่า หากจะเทียบกับ android ภาพรวมยังห่างไกลความจริงยิ่งนัก เพราะต้นปีจากนี้ไป ฝั่ง android ก็จะกลับมาชนะอีกตามเคย เพราะว่า apple จะคิดอะไรได้ต่อไป ฝั่ง android ก็ไปไกลมากแล้ว มันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
แต่จริงๆ แล้ว บริษัทเดียวตบทั้งกองทัพก็ไม่ถูก เพราะฝั่ง android เป็น open บริษัทเล็กๆ ก็ขายได้ มันเป็นการรวมจากตัวย่อยๆ นับจาก OS หากคิดเป็นความสำเร็จ บริษัทเล็กชนะแน่นอน เพราะแบรนด์เล็ก คนก็ใช้ แต่แบรนด์ใหญ่คนเอื้อมไม่ถึง ที่วัดกันดูจาก USA นี่ แต่ยุโรปยังอีกไกล แล้วที่ตลาด USA พวก android device ใหม่ก็จะออกมาเรื่อยๆ มันก็วนไปมาล่ะ ต้องนับที่ช่วงเวลานะ 2 ปี แซงหน้า 1%
คิดตื้นมาก android มีตั้งแต่เครื่องล่ะ 99US. (3,000) และ หลายค่าย หาซื้อได้ง่าย มีกันหลายเครื่อง
ios เครื่องล่ะ 800US. (24,000) บริษัทเดียว ถึงจะชนะเพียง 1 % ก็คือความชนะอันยิ่งใหญ่แล้ว
เช่น เมื่อต้นปี app ใน play store เราเยอะแซง app store ได้แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าที้แซงได้เพราะ app ขยะใน play store เยอะมากๆ ทั้งปลอม ทั้งไมมีคุณภาพ app หลักๆอย่าง facebook ที่วีดีโอแบบ HD ไม่ได้ อย่าง ios
เกิดอะไรขึ้นกับ blackberry
ยังไงผมก็ไม่ใช้ iOS เพราะผมชอบเล่น CUSTOM ROM
แอบเห็น Market sharing ของ BB แล้ว ถอนใจเฮือกใหญ่เลย จะยืนอยู่ได้นานเท่าไหร่หน่อ…
kswiss ผมยอมคุณล่ะ
ถ้า iphone 6 ราคาเท่ากับรุ่นเรือธงของ Android ที่ 19,900 บ. ผมก็เลือก iphone นะ แต่ราคา iphone ตอนนี้มันแพงยิ่งกว่าทองอีก
ถ้าวัดกันตัวต่อตัว apple ชนะขาดครับ ที่androdมีส่วนแบ่งในตลาดเยอะก็เพราะว่า Android OS นั้นที่ทาง Google ได้เปิดให้นักพัฒนาทุกคน หรือบริษัทต่างๆ นำไปพัฒนาแอพพลิเคชั่นหรือตัว OS ได้แบบฟรีๆ ภายใต้ของตกลงของ Google เราจึงเห็นหลากหลายบริษัทผลิตอุปกรณ์ android ขึ้นมาหลากหลายจนแทบจะครองโลก แต่ ระบบ ios ของ apple มีเพียงแค่บริษัท apple เท่านั้นที่รันบนระบบปฎิบัตการนี้ ลองคิดดูว่าท่า apple ปล่อยให้นักพัฒนานำระบบ ios นี้ไปพัฒนาแบบอิสระเหมือน android คุณคิดว่ามันจะเป็นยังไง นี่แค่บริษัทเดียวสู้กับหุ่นเขียวใด้ทั้งกองทัพก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วครับ ส่วน android โดยส่วนตัวผมก็ชอบนะครับเพราะสามารถตอบโจทย์และเข้าถึงผู้ใช้ใด้หลากหลายกว่า ios ซึ่งมีราคาที่แพงมากแต่ของ android มีทุกระดับเลยไล่มาตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับเทพเลยและที่ผมชอบ android ก็เพราะ ผมคงจะไม่บอกนะครับสาวกแอนดรอยคงพอจะเดาออก
ดูจากสำนวนแล้ว คนเขียนข่าวกำลังติดบางระจันทร์งอมแงมเลยสินะ
ผมเข้าใจว่า ที่แห่กันกลับไปส่วนใหญ่ เป็นคนที่เคยใช้ iOS แล้วหนีไปซบ Android เพราะอยากได้จอใหญ่ๆ ครับ
ซึ่งคนพวกนั้นก็ไม่น้อยเท่าไร
ถูกต่องแล้วคร๊าบบบบบ
ผมมองว่าคราวนี้ Apple งัดแทบทุกอย่างที่เขามานะครับ ถึงกับยอมผิดหลักการตัวเองที่จะไม่ทำจอใหญ่ถึงจะออกมาโต้ได้นี่… สำหรับผมมองว่ามันก็ไม่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น
ปล. แน่นอนว่า IP6/6+ ไม่ได้มีดีแค่จอใหญ่ขึ้น แต่ผมว่ามันมีไม่น้อยเลยนะที่ตัดสินใจเลือก IP6/6+ เพราะจอใหญ่ขึ้น
พอได้ส่วนแบ่งตลาดแบบนี้ เลยกำไรมากขึ้นไปด้วย
รอดูยาว ๆ ครับงานนี้
สะท้อนความไม่ไว้วางใจจีนของ US
ผมเองใช้ Android ตั้งแต่ Galaxy S ก็มีแววจะได้ไปลอง iPhone ในยุคสมัยจอใหญ่ 4.7 – 5.5 นิ้วนี่แหละ
ส่วนตัวก็ยังไม่เห็นว่า apple จะชนะ android ได้อีกต่อไป ถ้าให้ ios ปล่อยฟรีให้นักพัฒนา ก็คงเดี้ยง เพราะ QC ไม่ได้อยู่แล้ว ปัจจุบัน ios 8.1.3 ก็ยังหาความเสถียรใน device เก่าๆของตัวเองไม่ได้เลย ทั้งหน่วง ทั้งช้า ทุกวันนี้ยังฝันถึง ios 6อยู่เลย
การที่ apple มียอดขายที่ดีขึ้นเกิดจาก การเปลี่ยนรูปร่างใหม่ ให้ดูใหญ่ขึ้น สิ่งที่ดึงดูดคนซื้อได้มากขึ้นคือจุดนี้ ส่วน ios 8 ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ถ้าเทียบกับ ios 7 ก็พื้นๆ ผมก็ใช้ทั้ง 2 os นั่นล่ะ
ถ้าอยากเล่น android แบบเสถียร ก็คงต้องไปที่ xiaomi หรือ rom mi อันนี้แน่นอนและนับวันเริ่มจะพัฒนาขึ้นมาแย่งตลาด ios ไปได้เยอะมาก ต้องเรียกว่ามาก การที่ ios จะขึ้นมาเป็น os ที่คนใช้มากทั่วโลกคงเป็นแค่ความฝัน ทุกวันนี้ก็เริ่มเห็น i6, i6 plus วางขายมือสองกันเยอะขึ้น ก็เป็นผลมาจาก emotional ของคนเพราะหากไม่นับรูปร่าง i5, i5s มันก็ไม่ค่อยต่างกันเลย
ส่วน Android แต่ละแบรนด์ จะมี software ของตัวเองซึ่งมันหลากหลาย คนชอบเอา android ตัวละไม่กี่บาทมาเทียบกับ i6, i6 plus ลองเอาตัวท๊อปๆของแต่งค่ายมาเทียบ ยังงัย ก็ล้ำกว่าแล้วทำไมคนใช้ android มากขึ้นเพราะ เทคโนโลยีมันเปลี่ยนทุกวัน
อย่าง nexus 6 กับ note4 ถึงว่าแข็งแกร่งมาก เท่าที่ลองจับดูแล้วเทียบกับ i6 plus ส่วนตัวให้ nexus6 win กล้องให้ note4 win
คอมเม้นท์อาจจะดูเหมือนเอียงเข้าข้าง แต่ส่วนตัวก็ใช้ทั้งสอง os นั่นล่ะ
สรุป apple กำลังล่มสลาย ใช้มั้ยครับ 55