จนถึงตอนนี้ iPhone SE เปิดตัวออกมาแล้ว 3 รุ่น โดยรุ่นแรกที่ออกในปี 2559 นั้นใช้โครงสร้างตัวเครื่องแบบเดียวกับ iPhone 5s ในขณะที่อีก 2 รุ่นถัดมาในปี 2563 และ 2565 ได้ปรับมาใช้ดีไซน์ของ iPhone 8 เป็นสิ่งที่ Apple ถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่า “ใช้ดีไซน์ที่ล้าสมัย” จากขอบจอที่หนาและปุ่มโฮมที่กินพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอาจมาถึงในไม่ช้า เมื่อ Jon Prosser ระบุว่า iPhone SE รุ่นที่ 4 คือ iPhone XR เวอร์ชันอัปเกรดไส้ในใหม่
iPhone SE รุ่นที่ 2 และ 3 มีขนาดจอ 4.7 นิ้ว ถือว่าเล็กที่สุดในบรรดา iPhone ที่ยังมีขายอยู่ ณ ปัจจุบัน
แม้โทรศัพท์ไซซ์ประมาณนี้จะมีข้อได้เปรียบในแง่ความสะดวกในการพกพาและความคล่องตัวในการใช้งาน แต่ตลาดในส่วนนี้ไม่ได้รับความนิยมมาได้หลายปีแล้ว เนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ข่าวเรื่องยอดขาย iPhone 12 mini และ 13 mini ไม่สู้ดีที่มีออกมาเป็นระยะก็เป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้อีกทางหนึ่ง ทั้งยังนำไปสู่ข่าวลืออย่างหนาหูอีกด้วยว่า iPhone 14 ในปีนี้ก็จะไม่มีรุ่น mini แล้วเช่นกัน
ดังนั้นหาก Apple จะปรับดีไซน์ iPhone SE รุ่นที่ 4 ในปีหน้า มาใช้แบบเดียวกับ iPhone XR ที่มีขนาดจอ 6.1 นิ้วพร้อม Face ID ก็อาจเป็นสิ่งช่วยกระตุ้นให้ยอดขาย iPhone SE รุ่นที่ 4 ดีขึ้นตามไปด้วย แต่ในทางกลับกัน นั่นเท่ากับว่าคนชอบมือถือที่ใช้ซีพียูแรง ๆ บนตัวเครื่องขนาดเล็ก จากเดิมที่มีตัวเลือกน้อยอยู่แล้ว ก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก
ที่มา : AppleTrack
ถ้าขยับไปใช้ดีไซน์ของ iPhone XR อย่างที่ลือแล้วละก็ ถือว่าน่าสนใจเลยครับ ผมมองว่าตัว SE ปัจจุบันมันหน้าจอเล็กเกินไปแล้วสำหรับยุคสมัยนี้
จอเล็กไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่แบตน้อยนี่เซงมาก
มันควรจะทำตั้งแต่ รุ่น SE3 แล้ววว
เป็นการ reuse ที่คุ้มค่าจริงๆ
เอาอดีตแม่ทัพที่เกษียณ ส่งไปเรียนอัพเดทความรู้แล้วก็เอามาเป็นที่ทีมงานต่อ
ไม่ถูกใจรอยบากอันใหญ่ๆนั่นอยู่ดี
น่าจะใส่รู 3.5 มาด้วยเลย จะได้แทน ipod ที่เลิกผลิตด้วย
จอเล็กจริง mini12 13 ยังใหญ่กว่าเลย
จากเนื้อหาต่อให้นับ 12mini 13mini ถ้าเทียบขนาดจอแล้ว SE3ก็ยังเล็กกว่าครับ
แต่mini มีขนาดเครื่องเล็กกว่าเฉยๆแต่จอยังใหญ่กว่า