iQOO Z9 และ iQOO Z9x มือถือซีรีส์ระดับเริ่มต้น – กลางแบรนด์น้องของ vivo เปิดตัวในจีนมาได้สักพัก แต่ล่าสุดเราได้ไปลอง ๆ ค้นดูในฐานข้อมูลของ กสทช. แล้วพบว่าตัวเครื่องทั้งสองรุ่นได้ผ่าน กสทช. เป็นที่เรียบร้อย ใครที่อยากได้มือถือแรง ๆ ในราคาที่ไม่แรงมาลองดูสเปคกันก่อนได้ว่าจะถูกใจรึเปล่า ก่อนที่จะเปิดตัวในไทย เร็ว ๆ นี้

iQOO Z9 5G ที่จะเข้ามาเปิดตัวในไทยนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะมาพร้อมกับสเปคเดียวกับรุ่นที่วางจำหน่ายในจีน หากอิงจากรุ่นก่อนอย่าง iQOO Z7 Series ที่ใช้โมเดลกัน และตอนนี้หน้าเว็บไซต์ของ iQOO ในประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซียก็ได้ลงข้อมูลคร่าว ๆ เอาไว้แล้ว ซึ่งก็ตรงตามที่สันนิษฐานไว้จริง ๆ ดังนั้นเราจึงจะอ้างอิงสเปคตามเครื่องที่วางจำหน่ายในจีนนะ

ส่องสเปค iQOO Z9 ก่อนเปิดตัวในไทย

iQOO Z9 5G เปิดตัวมากับดีไซน์โมดูลกล้องเหลี่ยมมนแบบ Porthole ที่ล้อมากับรุ่นพี่เรือธงอย่าง iQOO 12 มาแบบตรง ๆ ใช้ฝาหลังแบบโค้งนิดหน่อยให้ดูมิติ ส่วนตัวเฟรมเป็นแบบ Flat ไม่โค้ง รองรับมาตรฐานทนฝุ่น ทนละอองน้ำถึง IP64 แถมยังบางเฉียบเพียง 7.98 มม. เท่านั้น

iQOO Z9 อัปเกรดมาใช้จอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูง 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) แถมยังสว่างสุด ๆ ถึง 4,500 nits เมื่อรับชมคอนเทนต์ในโหมด HDR รีเฟรชเรตก็สูงถึง 144Hz รองรับ Touch Sampling Rate 2000Hz อีกทั้งยังได้มาตรฐานถนอมสายตาจาก SGS ทั้งการกะพริบต่ำด้วยค่า PWM Dimming 3840Hz และปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ จ้องในที่มืดนาน ๆ ไม่ปวดตา รองรับการสัมผัสในขณะที่มือเปียกน้ำด้วย

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็เรียกได้ว่าหายห่วง เพราะได้ใช้ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่แรงขึ้นกว่า Snapdragon 782G ที่ใช้ในรุ่นก่อนถึง 30% และผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4nm ประหยัดแบตเตอรี่กว่าเดิม แถมยังได้ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ครอบคลุมพื้นที่ตัวเครื่องกว่า 6043 ตารางมิลลิเมตร ประกบคู่มากับ RAM LPDDR4x + UFS 2.2 ซึ่งรุ่นที่ขายในมาเลเซียมี 2 รุ่นให้เลือก คือ 8GB + 256GB และ 12GB + 256GB

ทาง iQOO ยังได้มีการปรับ Optimized เกมอย่าง “Glory of King” หรือ ROV ในบ้านเราให้เล่นได้ในโหมดเฟรมเรต 120FPS ในกราฟิกระดับ HD และใส่มอเตอร์การสั่น x-axis linear motor แบบ 4 มิติมาให้ อีกทั้งยังได้ลำโพงคู่เสียงสเตอริโอด้วย

กล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ได้ใช้เซนเซอร์ตัวใหม่จาก Sony อย่าง LYT-600 (อย่างไรก็ตามรุ่นที่ขายในมาเลเซียระบุว่าใช้ IMX882) + กล้อง Depth 2MP ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีกันสั่น OIS มาให้ แต่ก็ยังมี EIS คอยช่วยอยู่ รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K@30FPS ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มาที่ 16MP

ด้านแบตเตอรี่เรียกได้ว่าให้มาแบบสุด ๆ เท่าที่จะให้ได้ เพราะได้ความจุถึง 6,000 mAh รองรับการใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 1.82 วัน อีกทั้งยังรองรับชาร์จไวสูงสุดถึง 80W มีโหมดพิเศษถ้าใช้จนแบตหมดเกลี้ยง เสียบสายชาร์จเพียง 4 วินาทีก็เปิดใช้งานเครื่องได้เลย และรองรับการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น 7.5W

สเปค iQOO Z9 5G (อ้างอิงจากรุ่นที่ขายในจีน และมาเลเซีย)

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว
    • ความละเอียด 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล)
    • สว่างสูงสุด 4,500 นิต
    • อัตรารีเฟรช 144Hz
    • รองรับ HDR
  • ชิปเซต : Snapdragon 7 Gen 3
  • RAM LPDDR4x: 8GB / 12GB
  • ROM UFS 2.2: 256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว :
  • กล้องหลัก LYT-600 50MP (f/1.79), EIS (หรือ IMX882 ในบางประเทศ)
    • กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.45)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
  • แบตเตอรี่ : 6,000 mAh
    • รองรับชาร์จไว 80W
    • รองรับ Reverse Charge 7.5W
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 6
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต : USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ใต้หน้าจอ) / accelerometer / gyro / proximity / compass / IR Blaster
  • ความทนทาน : ทนละอองน้ำและฝุ่น IP64
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด : 163.72 x 75.88 x 7.98 มม.
  • น้ำหนัก: 194.6 กรัม

ส่องสเปค iQOO Z9x ก่อนเปิดตัวในไทย

iQOO Z9x 5G มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์คล้าย ๆ กัน ทนน้ำ IP64 เหมือนกัน พร้อมหั่นสเปคบางส่วนให้เหลือเท่าที่จำเป็น โดยมากับจอพาเนล IPS-LCD ขนาดจอ 6.72 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2408 x 1260 พิกเซล) สว่างสูงสุด 1,000nits การันตีมาตรฐานถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland ในระดับซอฟต์แวร์

ด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้เลือกใช้เป็นชิป Snapdragon 6 Gen 1 มากับสตอเรจแบบ RAM LPDDR4x + UFS 2.2 ซึ่งรุ่นที่ขายในมาเลเซียมีทั้ง 8GB + 128GB และ 8GB + 256GB รองรับการเพิ่มความจุผ่าน microSD Card สูงสุด 1TB มีระบบระบายความร้อน 3 ชั้นช่วยลดอุณหภูมิที่ชิปประมวลผล รองรับการเล่น “Glory of King” หรือ ROV ได้ในโหมดเฟรมเรต 90FPS

กล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ให้เซนเซอร์หลักมาที่ 50MP + กล้อง Depth 2MP มีโหมดช่วยกันสั่น EIS และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดที่ 4K เช่นกัน ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 8MP เท่านั้น

ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้ก็ให้มาแบบจุใจที่ 6,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ส่วนสเปคการชาร์จนั้นให้มาที่ 44W เท่านั้น ด้านระบบเสียงให้ลำโพงคู่ที่สามารถเร่งเสียงได้สูงสุดถึง 300% และมีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม. ให้ด้วย

สเปค iQOO Z9x 5G (อ้างอิงจากรุ่นที่ขายในจีน และมาเลเซีย)

  • จอภาพ : IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว
    • ความละเอียด FHD+ (2408 x 1260 พิกเซล)
    • สว่างสูงสุด 1,000 นิต
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
  • ชิปเซต : Snapdragon 6 Gen 1
  • RAM LPDDR4x: 8GB
  • ROM UFS 2.2: 128GB / 256GB
    • รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง 2 ตัว :
    • กล้องหลัก 50MP (f/1.8), EIS
    • กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.05)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
    • พอร์ตหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 6,000 mAh
    • รองรับชาร์จไว 44W
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5.1
  • พอร์ต : USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง) / accelerometer / gyro / proximity / compass
  • ความทนทาน : ทนละอองน้ำและฝุ่น IP64
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด : 165.70 x 76 x 7.99 มม.
  • น้ำหนัก: 199 กรัม

ราคา และการวางจำหน่าย

เบื้องต้น iQOO Z9 Series ในฝั่งมาเลเซียยังไม่ได้ประกาศราคาแบบเต็ม ๆ ให้ทราบแบบแน่ชัด แต่ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลของรุ่นที่วางจำหน่ายในจีนแล้ว ทั้งสองรุ่นเปิดราคามาดังนี้

ราคา iQOO Z9 5G รุ่นที่วางจำหน่ายในจีน

  • 8GB + 256GB ราคา 1,599 หยวน หรือราว ๆ 8,320 บาท
  • 12GB + 256GB ราคา 1,799 หยวน หรือราว ๆ 9,400 บาท
    • สีที่วางจำหน่าย: สีดำ Phantom Black และสีฟ้า-เขียว Breeze Green (สีขาวขายเฉพาะในตลาดจีน)

ราคา iQOO Z9x 5G รุ่นที่วางจำหน่ายในจีน

  • 8GB + 128GB ราคา 1,199 หยวน หรือราว ๆ 5,800 บาท
  • 8GB + 256GB ราคา 1,299 หยวน หรือราว ๆ 6,760 บาท
    • สีที่วางจำหน่าย: สีดำ Mystic Black และสีเขียว Northern Green (สีขาวขายเฉพาะในตลาดจีน)

ส่วนในไทยตอนนี้ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดการเปิดตัว และวันวางจำหน่ายที่แน่ชัดออกมา แต่ถ้าใครสนใจรอติดตามข้อมูลหน้าเพจ Facebook ของ iQOO ประเทศไทยให้ดี ๆ

ที่มา: iQOO China