เอาละครับ หลังจากได้ preview ยั่วน้ำลายกันมาแล้วบน Droidsans Channel คราวนี้ก็ถึงเวลา
นำเครื่องมาชำแหละข้อดีข้อเสียให้ดูกันเป็นจุดๆไปเลย สำหรับ android tablet จากแดนมังกร
เจ้า iRobot นี้ ทางเจ้าของเครื่องท่าน anaadi ได้มาในสนนราคา 6-7 พันบาท

กล่องหน้าตาแบบนี้

เครื่อง โอ้ว จอสวยดีนะนี่

Milestone ลูกพ่อ ทำไมมันเล็กได้อีก

ตัวเครื่องไม่หนักอะไรครับ สามารถถือมือเดียวในแนวตั้งได้เลย แต่ใช้งานไม่สะดวก
เนื่องจากว่าตัวเครื่องกันไม่รองรับ Home screen ในแนวตั้ง (แต่ใน app ทั่วไปสามารถ
ใช้งานในแนวตั้งได้ครับ) เดี๋ยวมาลองดู spec คร่าวๆก่อนดีกว่า
Android MID SDK 1.5 (Cupcake)
TFT 800×480 resistive touchscreen
Chrome-Lite Browser
128MB of RAM
sdCard support upto 32GB
Accelerometer
WiFi
ในส่วนของ CPU นั้นยังไม่แน่ใจนัก คาดว่าน่าจะถึง 800Mhz
ส่วนของ Internal Flash นั้นเหลือเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลเกือบ 1GB
แต่พื้นที่ลงโปรแกรมมีเพิ่มน้อยมากจริงๆ ประมาณ 30MB เท่านั้นเอง

หน้า Home เล่นได้แค่แนวนอน

เล่นแบบจอแนวตั้งได้ใน app ทั่วไป

Android 1.5 จ้า

พื้นที่ในตัวเครื่อง

ส่วนที่เพิ่มเติมมาบน Android MID ตัวนี้คือ USB Host ครับ คือเจ้าเครื่องนี้สามารถเสียบ
flash drive หรือแม้แต่ aircard แล้วก็ใช้งานได้ทันที โอ้ว เจ๋งๆ สามารถต่อ net ได้เลย
ไม่ต้องใช้ wifi นะนี่

หน้าจอ USB Host ใน setting

มาดูในส่วนของตัวเครื่องบ้างดีกว่า วัสดุที่ใช้ก็เป็นพลาสติกทั้งตัวเลยครับ มันๆลื่นๆ
นิดนึง ดูแล้วก็หนามากท่าทางจะแข็งแรงดี แต่พวกปุ่มกดอะไรนี่ ออกจะดู หลวมๆ
กิ๊กก๊อกไปหน่อย งานประกอบก็จีนไปนิดนึงครับ กาวลอก หน้าจอแง้มออกมาเลยง่า

ลำโพงด้านหลัง เสียงดังพอใช้ครับ

ด้านล่างมีช่องต่อเพียบเลย สามารถเสียบ Aircard หรือ Flash drive ได้นะครับ

มีปุ่ม Home กับ Back ด้านข้างตัวเครื่อง

แว้ก กาวไม่ดี หน้าจอแง้มออกมาจากฝาหลัง

เงยออกมาเห็นๆ ฝุ่นเข้าแน่เลย

เห็นหน้าค่าตากันไปจนครบทุกมุมแล้ว คราวนี้ก็มาพูดถึงในเรื่องของประสบการณ์
ที่ได้รับจากเจ้า android MID ตัวนี้กันบ้าง
1. การใช้งานในส่วนของหน้าจอ resistive ก่อนเลย ก็ถือว่าทำงานได้ดีกับเล็บหรือพวก
stylus ส่วนการใช้นิ้วนั้นไม่ไหว หนืดเกินไป แถมยังเพี้ยนๆ น่าจะแถม stylus มาให้ด้วยจะดีมาก
2. หน้าจอใหญ่สะใจดีครับ สีสัน OK ความสว่างก็ใช้ได้ แต่แพ้แสงพอสมควรครับ เจอแดด
เข้าไปก็ดับเหมือนกัน แต่คงไม่มีใครเอาไปใช้กลางแดดเนอะ ดูหนังได้สบายๆ เพลินดีครับ
3. มี Market มาให้ในตัว พร้อม download app ได้ทันทีผ่าน WiFi
4. มีช่อง MicroSD พร้อม USB Hosting ทำให้มันกลายเป็น media center ย่อมๆเลย

ส่วนที่เป็นข้อเสียเต็มๆ ในตอนนี้เลยก็คือ
1.ไม่มีภาษาไทย ถึงเราจะได้ root access แต่เนื่องจาก cramfs partition ถูกใช้เป็น system
และมันเป็น read-only เลยไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย
2. งานประกอบยังไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่ก็สมกับราคาและความสามารถ

โดยรวมแล้ว ผมถือว่า android tablet นั้นน่่าสนใจ เพราะดูแล้วน่าจะรองรับอะไรหลายๆอย่าง
มากกว่า iPad ในตอนนี้ (ย้ำว่า ในตอนนี้) ส่วนท่านสมาชิกที่สนใจอยากจะซื้อมาทดลองใช้งาน
ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่อง font นี่แหละครับ เพราะมันมี partiton type ต่างจากพวก android phone
การเลือกซื้อเครื่องที่ไม่รองรับภาษาไทยแล้วมา hack ลงไทยจะลำบากมากเลยเชียว

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณท่าน anaadi อีกครั้งหนึ่ง ที่อุตส่าห์นำเจ้า iRobot มาออกรายการ
และยอมให้ทีมงาน droidsans ปู้ยี้ปู้ยำซะเละเทะขนาดนี้

จบแล้วคร้าบ ^ ^

ปล. ต้องกราบขออภัยกันตรงนี้ เนื่องจากเกิดความผิดพลาดตอน Resize ภาพ
ทำให้ภาพใน review ชุดนี้ออกจะเล็กกระจิ๋วหลิวจนเกินไปนัก เพราะดันไป save ทับ
ต้นฉบับซะเรียบร้อย T_T