มีรายงานจากเว็บไซต์ Business Korea ระบุว่าทาง LG กำลังพัฒนาระบบชาร์จไฟเข้ามือถือแบบไร้สายโดยอาศัยการสั่นพ้องของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance) ซึ่งจะทำให้สมารถชาร์จได้ในระยะที่ห่างกว่าเดิม ไม่จำเป็นต้องมีการแตะสัมผัสกันของเครื่องมือถือกับแท่นชาร์จ รวมถึงกำลังพัฒนาให้มือถือตัวใหม่และ LG Pay Smart Card รองรับการชาร์จแบบนี้อีกด้วย
ข้อมูลจากรายงานระบุว่าในตอนนี้ LG สามารถพัฒนาให้ระบบชาร์จด้วย Magnetic Resonance สามารถชาร์จได้ในระยะถึง 7 เซนติเมตรแล้ว และสามารถส่งพลังงานได้สูงสุดถึง 7 วัตต์ นอกจากนี้แล้วในรายงานยังระบุอีกด้วยว่าผู้ผลิตมือถือในจีนอย่าง Meizu, Oppo และ Huawei ก็กำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบชาร์จนี้ด้วยเช่นกัน
เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังสงสัยว่าไอ้ Magnetic Resonance นี่มันต่างกับการชาร์จไร้สายแบบเก่าที่เป็นการ์ชาร์จไฟแบบเหนี่ยวนำ (Inductive Charging) ยังไงบ้าง (เพราะตอนแรกผมอ่านข่าวก็งง) ก็เลยได้ไปลองค้นมาอธิบายประกอบด้วยเลย จริงๆ แล้วการใช้ Magnetic Resonance ในการส่งไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลยครับ มีการทดลองมานานมากแล้ว และทางซัมซุงเองก็มีบริษัทในเครือที่เคยทดลองทำแล้วเหมือนกันชื่อว่า PowerbyProxi หรือแม้กระทั่งทาง Fujitsu เองก็เคยทดลองทำแล้วเหมือนกัน
ภาพอธิบายความแตกต่าง Induction, Magnetic resonance (จาก Fujitsu)
ข้อได้เปรียบของ Magnetic Resonance ที่เหนือกว่าแบบ Inductive Charging ก็คือเรื่องระยะห่างที่สามารถชาร์จได้ห่างกว่าเดิม ไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสกันของอุปกรณ์กับแหล่งจ่ายไฟ และยังสามารถส่งไฟผ่านวัสดุที่ไม่ใช่แม่เหล็กได้อีกด้วย ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้มือถือที่รองรับการชาร์จไร้สายแบบต้องใส่เคสเสริม น่าจะใช้งานระบบ Magnetic Resonance ได้โดยไม่ต้องพึ่งเคสอีกแล้วครับ
ที่มา: Phone Arena, Business Korea, talkandroid, Fujitsu
real wireless charging สินะ รอชมรอใช้เลยครับ
อ่านช่วงท้ายรู้สึกงง ๆ
"ไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสกันของอุปกรณ์กับแหล่งจ่ายไฟ"
แบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันก็ไม่ต้องสัมผัสกันนี่นา เพียงแต่ระยะทำการมันต่ำมาก ๆๆๆๆ
จนต้องเอาวางไว้กับแท่น
"ยังสามารถส่งไฟผ่านวัสดุที่ไม่ใช่โลหะได้อีกด้วย"
ของเดิมมันก็ส่งผ่านได้นี่นา
พวก magnetic มันควรจะมีปัญหากับโหละด้วยซ้ำ
ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้มือถือที่รองรับการชาร์จไร้สายแบบต้องใส่เคสเสริม
พวกที่ใช้เคสเสริมคือพวกที่ไม่รองรับ
ถึงแม้จะเปลี่ยนมาใช้แบบ Magnetic resonance เครื่องที่ไม่รองรับ
ก็ยังคงไม่รองรับอยู่ดี
อธิบายจากรูป ที่ต่างจากเดิมก็คือมีตัวเขียว ๆ (resonance) เพิ่มเข้ามา
ทำให้ระยะการกระจายคลื่นทำได้กว้างขึ้น ไกลขึ้น
ด้าน เทคนิค เทคโน อาชีวะ หลักการเหมือนเดิม(Electromagnetic) เพิ่มเติมคือ resonance
Qi charge ไม่สามารถทำงานผ่านโลหะได้นะครับ ผมก็เคยเจอปัญหามาแล้ว ยืนยันครับ
เรื่องการสัมผัสกัน ต้นทางน่าจะต้องการสื่อว่าแบบปัจจุบันต้องวางบนแท่นน่ะครับ
ส่วนเรื่องโลหะ ดูเหมือนผมจะแปลผิดไป ไม่เกี่ยวกับโลหะแต่เป็นเรื่องแม่เหล็ก ต้นทาง (talkandroid) ใช้คำว่า work through non-magnetic material ครับ เดี๋ยวผมจะลองปรับคำดูนะครับ
ศัพท์เทคนิค บางทีก็เข้าใจยากอะ
แปลตรง ๆ เลยบางทีก็เข้าป่า ออกทะเลไปเลย
ส่วนเรื่องสัมผัสนี้ ตามนั้นเลยครับ ลงด้านเทคนิคเยอะไปหน่อย 555
กู้ชื่อจากเมนบอร์ดพังยุค G3 G4 ได้หรือยัง