ในที่สุด LG ก็ได้ทำการเปิดตัว LG V30 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นปลายปีของ LG ที่รอบนี้มาพร้อมกับการอัพเกรดในหลายๆ จุดจากเดิมที่เราเห็นเมื่อตอน LG G6 โดยหน้าจอของ LG V30 นั้นมาทรงเดียวกับของ LG G6 นั่นก็คือ ดีไซน์หน้าจอแบบไร้ขอบ พร้อมกับการอัพเกรดชิปเป็น Snapdragon 835 กล้องหลังคู่รูรับแสงกว้าง f/1.6 และระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC รุ่นใหม่ 

สเปคของ LG V30

  • หน้าจอ: 6 นิ้ว FullVision P-OLED ความละเอียด QHD+ 1440 x 2880 พิกเซล
  • CPU: Qualcomm Snapdragon 835 Octa-core 2.45GHz
  • GPU: Adreno 540
  • RAM: 4GB
  • หน่วยความจำภายใน: 64GB / 128GB รองรับ microSD การ์ด สูงสุด 256GB
  • กล้องหลังคู่: 16 ล้านพิกเซล f/1.6, OIS + 13 ล้านพิกเซล f/1.9 LED Flash
  • กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
  • การเชื่อมต่อ:
    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA
    • Bluetooth 5.0
    • มี NFC,
    • มี Infrared
    • USB 3.1 Type-C
    • รองรับ 4G LTE
  • รองรับมาตรฐาน IP68
  • แบตเตอรี่: 3,300 mAh รองรับ Quick Charge 3.0

หน้าจอ FullVision อัตราส่วน 18:9 (2:1)

ฟีเจอร์แรกที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดใน LG V30 ก็คือ หน้าจอ FullVision อัตราส่วน 18:9 (2:1) ที่ความละเอียด QHD+ 1440 x 2880 พิกเซล โดยทาง LG ได้ทำการตัดหน้าจอที่สองแบบที่เราเห็นเมื่อตอน LG V10 และ V20 ออกไป และก็ได้ทำการขยายใหญ่ขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็น 6 นิ้ว สำหรับอัตราส่วนของหน้าจอต่อตัวเครื่องนั้นอยู่ที่ 81.21%

ครั้งนี้ LG ไม่ได้แค่ทำการขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นและเต็มจอเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการเปลี่ยนเทคโนโลยีหน้าจอจาก IPS LCD มาเป็น P-OLED แทน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหน้าจอทีวีของ LG เอง ซึ่งแน่นอนว่าสีสันที่แสดงออกมานั้นมีสีสันสวยงาม พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Always on Display และ Floating bar อีกด้วย

 

ตัวเครื่องวัสดุโลหะ รองรับมาตรฐาน IP68

ตระกูล V ของ LG นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของวัสดุที่มีความทนทาน ซึ่งรอบนี้ LG V30 ก็ยังคงมาพร้อมกับวัสดุที่มีควาทนทานเหมือนเดิม โดยขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุโลหะที่ทนทานการตกกระแทก ผ่านตามมาตรฐาน MIL-STD ส่วนกระจกหน้าจอนั้นเป็น Gorilla Glass 5 ที่ก็มีความทนทานเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังรองรับการกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ทำให้เราสามารถน้ำลงไปในน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที

 

กล้องหลังคู่รูรับแสงกว้าง f/1.6

รอบนี้ LG ได้ทำการพัฒนากล้องหลังคู่ของตัวเองมาอีกขั้น โดยได้ทำการเปิดตัว LG V30 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ 16 ล้านพิกเซล + 13 ล้านพิกเซล แต่ว่ากล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล นั้นมีรูรับแสงกว้าง f/1.6 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีรูรับแสงกว้างขนาดนี้ก็ว่าได้

ส่วนกล้องหลังตัวที่สองที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยยังคงใช้เป็นเลนส์ Wide แถมยังมาพร้อมกับรูรับแสงกว้าง f/1.9 ซึ่งกว้างกว่าตอน LG G6 (f/2.4) อยู่เยอะพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ในส่วนของซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Graphy ที่ช่วยให้การถ่ายภาพสนุกมากขึ้น โดยเหมือนเป็นการตั้งค่า preset ของโหมดโปร ทำให้สามารถเลือกใช้งานค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ในเรื่องของการถ่ายวิดีโอก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ Cine Video ที่ทำให้เราสามารถใส่เอฟเฟ็กต์ต่างๆ เข้าไปในวิดีโอได้ พร้อมกันนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ Point Zoom ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Cine Video โดยเราสามารถที่จะซูมไปในส่วนไหนของวิดีโอก็ได้ และสุดท้ายคือ Cine Log ที่ระหว่างถ่ายวิดีโอจะมีการเก็บค่าสีต่างๆ เพื่อที่จะนำมาปรับในโปรแกรมตัดต่อทีหลังได้

 

ระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC

เช่นเดียวกับตอน LG V20 และ V10 ทาง LG V30 นั้นมาพร้อมกับระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC  ซึ่งรอบนี้ LG ก็ยังคงจับมือกับทาง B&O Play ร่วมกันพัฒนาระบบเสียงที่นำมาใช้กับ LG V30 เช่นเคย โดย LG ยังคงเก็บรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เอาไว้ แถมยังมีการแถมหูฟัง B&O Play มาให้ในกล่องตั้งแต่ตต้นอีกด้วยนะ

สำหรับสีของ LG V30 นั้นมีด้วยกัน 4 สี คือ สีดำ Aurora Black, สีเงิน Cloud Silver, สีน้ำเงิน Moroccan Blue และ สีม่วง Lavendar Violet ส่วนวันวางจำหน่ายนั้นเริ่มวันที่ 21 กันยายน ที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศแรก แต่ว่ายังไม่มีการระบุราคานะครับว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่