Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook ได้เผยแพร่ข้อมูล 5 เทรนด์โซเชียลมีเดียสำคัญที่ธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญในปี 2025 นี้ เพื่อให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และยังคงความเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่องได้อยู่ โดยพบว่าเรื่องของ AI นั้นยังเป็นส่วนสำคัญ ในขณะที่ครีเอเตอร์มีบทบาทในการเลือกซื้อสินค้าของคนมากขึ้น และฟีเจอร์วิดีโอก็ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน
Generative AI
ปัจจุบัน AI ที่ใช้ในการสร้างสรรค์เนื้อหา (Generative AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทั้งธุรกิจและชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างแนวคิดใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น เครื่องมือสร้างโฆษณาด้วย Generative AI ของ Meta ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลก ใช้เพื่อสร้างโฆษณา ส่งผลให้ในเดือนสิงหาคม 2567 เดือนเดียว มีโฆษณาที่สร้างด้วย AI แล้วกว่า 15 ล้านชิ้นในระดับโลก โดย 30% ของผู้โฆษณารายใหญ่ในประเทศไทยยังใช้ AI เพื่อสร้างพื้นหลังงานโฆษณา ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (Click-through Rate – CTR) และปิดการขาย (Conversion Rate – CVR) ได้ดีอยู่ โดย Meta ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับวิดีโอ เช่น การปรับคุณภาพและการสร้างภาพแอนิเมชัน ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การโฆษณา หากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมมากขึ้นได้ด้วย
การส่งข้อความเชิงธุรกิจ (Business Messaging)
ผู้บริโภคในปัจจุบัน ชื่นชอบการติดต่อธุรกิจผ่านแชทมากขึ้น เป็นเหมือนกับการพูดคุยกับเพื่อน โดย Meta ได้รายงานว่ามีคนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกที่ใช้ Messenger, Instagram และ WhatsApp ในการติดต่อธุรกิจทุกสัปดาห์ โดยประเทศไทยเองก็เป็นไปตามเทรนด์นี้ด้วย เพราะ 9 ใน 10 ของผู้บริโภค ใช้แชทในกระบวนการซื้อสินค้า และการได้คุยกับธุรกิจ มีผลต่อการซื้อด้วย โดยรายงานเทรนด์โซเชียลจาก eMarketer กล่าวว่า ผู้คนมีแนวโน้มที่จะแบ่งปันเนื้อหาบนโซเชียลและคุยกันผ่านการส่งข้อความส่วนตัวมากกว่าการโพสต์แบบสาธารณะ
การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ Meta เปิดตัวแชทบอทและโซลูชัน AI สำหรับการพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง เช่น ตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้า หรือช่วยเหลือด้านการขาย ทำให้ธุรกิจไทยสามารถนำโซลูชันนี้มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการให้บริการ
ครีเอเตอร์
นอกจากนั้น ครีเอเตอร์ในประเทศไทยก็กำลังกลายเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่สำคัญในการช่วยธุรกิจสร้างการเชื่อมโยงกับลูกค้า ด้วยการเล่าเรื่องอย่างจริงใจ โดยงานวิจัยจากบริษัทการธนาคารเพื่อการลงทุน Goldman Sachs ได้คาดการณ์ว่า มูลค่าของเศรษฐกิจครีเอเตอร์ระดับโลกอาจแตะถึง 480,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 และจากการสำรวจทั่วโลกของ Meta พบว่า 53% ของผู้คนมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น หากสินค้านั้นได้รับการโปรโมทโดยครีเอเตอร์ใน Reels นอกจากนี้ งานวิจัยอีกชิ้นจาก Meta ยังพบว่า 70% ของคนไทย พบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียทุกวัน โดย 75% ในกลุ่มนั้นเปิดเผยว่าคำแนะนำสินค้าจากครีเอเตอร์เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการตัดสินใจซื้อสินค้าด้วย
Meta จึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เช่น Creator Testimonials ที่เป็นรูปแบบการโฆษณาแบบใหม่ ให้แบรนด์มีทางเลือกในการลงโฆษณามากขึ้น และ Partnership Ads Hub ที่รวมเครื่องมือโฆษณาพันธมิตรทั้งหมดไว้หน้าเดียวกัน เพื่อให้แบรนด์สามารถทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ได้สะดวกมากขึ้น ธุรกิจไทยควรพิจารณาร่วมมือกับครีเอเตอร์เพื่อเสริมกลยุทธ์การตลาดให้แข็งแรงมากขึ้นในอนาคต
วิดีโอ
และในยุคนี้ ฟีเจอร์วิดีโอยังคงเป็นเนื้อหายอดนิยมที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออยู่ Insider Intelligence คาดการณ์ว่าเวลาที่ใช้ในการรับชมโทรทัศน์และคอนเทนต์วิดีโอในปี 2025 จะมีเพิ่มขึ้น 15% และจากข้อมูลของ Meta เผยว่า 60% ของเวลาที่ผู้ใช้ Instagram และ Facebook ใช้ไปกับการดูวิดีโอ เช่น Reels ซึ่งส่งผลต่อการซื้อสินค้าถึงสองในสามของผู้บริโภคในเอเชียแฟซิฟิก นอกจากนี้ Livestreaming ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยในไทย 79% ของคนดูไลฟ์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และ 70% ของผู้ชมกลับมาซื้อสินค้าเดิมอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แถมยังมีคนที่ตัดสินใจติดตามแบรนด์มากขึ้น หลังจากได้ดู Reels ที่น่าสนใจด้วย
Meta ได้เพิ่มแท็บวิดีโอแบบเต็มหน้าจอใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาวิดีโอที่สนใจได้ง่ายขึ้น ทั้ง Reels, วิดีโอยาว, ไลฟ์สด ธุรกิจไทยควรใช้คอนเทนต์วิดีโอในกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
การค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Shopping)
และสุดท้าย ผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Shopping) มากขึ้น เพื่อเข้าถึงแบรนด์หรือสินค้าที่ไม่มีในประเทศ งานวิจัยเผยว่า 71% ของผู้ซื้อสินค้าข้ามพรมแดนเปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ และ 61% ต้องการตัวเลือกสินค้าที่หลากหลาย Meta จึงพัฒนา AI เพื่อช่วยจับคู่สินค้าเข้ากับผู้คนอย่างเหมาะสมและสนับสนุนการค้าข้ามพรมแดน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและทรัพยากรที่กว้างขึ้น รวมถึงการสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายภาษามากยิ่งขึ้นด้วย
จากงานวิจัยประจำปีในช่วงเทศกาลในเอเชียแปซิฟิก พบว่าอย่างน้อย 50% ของนักช็อปในประเทศไทย เคยซื้อสินค้าข้ามพรมแดนช่วงลดราคาตามเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนี้ 59% ของผู้ซื้อข้ามพรมแดนทั่วโลก ได้พบสินค้าที่ถูกใจผ่านแพลตฟอร์มของ Meta และนักช้อป 41% กล่าวว่าพวกเขามีส่วนร่วมกับแบรนด์ หลังการซื้อสินค้าผ่าน Meta ด้วย ธุรกิจไทยควรพิจารณาพัฒนาประสบการณ์การซื้อสินค้าข้ามพรมแดนให้ไร้รอยต่อ รวมถึงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญเพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
ในปัจจุบัน Generative AI และเครื่องมือดิจิทัล กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย การนำเทคโนโลยีและเครื่องมือมาปรับใช้ในธุรกิจ จะช่วยเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตในยุคดิจิทัลนี้ได้อย่างดีมากขึ้นกว่าเดิม
Comment