Microsoft ออกมาบอกว่า Windows 11 กำลังจะเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพราะเตรียมพัฒนาระบบให้ก้าวสู่ยุค Agentic OS ที่เน้นการทำงานด้วย AI แบบเต็มตัว แนวคิดคือ Windows จะฉลาดขึ้น เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น มองหน้าจอได้ด้วย Copilot Vision และสั่งงานแอปต่างๆ ผ่านเทคโนโลยี MCP ที่เปิดทางให้ AI เชื่อมต่อกับฟังก์ชันของแอปบนเครื่องได้โดยตรง
ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์ที่รองรับ AI ทำให้ชิปอย่าง Core Ultra 200, Ryzen AI และ Snapdragon X ถูกพูดถึงบ่อยในช่วงหลัง เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ที่ Microsoft กำลังดันเต็มที่

แต่แทนที่จะสร้างความตื่นเต้น กลับกลายเป็นลานจอดรถทัวร์ เพราะทันทีที่ผู้บริหาร Microsoft อย่าง Pavan Davuluri ออกมาโพสต์อัปเดตใน X และบอกว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Ignite ก็โดนทัวร์ลงแบบไม่ยั้ง คอมเมนต์ถล่มจนต้องปิดคอมเมนต์ในที่สุด
หลายคนบ่นว่า Windows ควรโฟกัสเรื่องความเร็ว ความเสถียร และฟีเจอร์พื้นฐานก่อน บางคนยังเหน็บว่าแค่ไอคอนบน Taskbar ยังทำให้ถูกใจไม่ได้ แต่กลับเร่งผลักดัน AI ที่กินทรัพยากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลัวว่า Windows จะยิ่งบวมและทำงานอืดกว่าเดิม

ดราม่ารอบนี้แรงถึงขั้นมีผู้ใช้บางคนบอกว่ากำลังคิดจะย้ายออกจาก Windows หรือเลิกใช้บริการของ Microsoft ไปเลย เพราะรู้สึกว่าถูกยัดเยียดฟีเจอร์ที่ไม่ต้องการ ซึ่งภาพรวมก็ชัดเจนว่าผู้ใช้จำนวนไม่น้อยยังไม่อินกับทิศทาง Windows สาย AI ที่ Microsoft เดินอยู่ในตอนนี้
ที่มา : Neowin

ถ้าวันไหน SteamOS มันปังมาก ๆ ขึ้นมาจนคนไม่จำเป็นต้องใช้ Windows เล่นเกมแล้วจะรู้สึก
MS นี่ภายในเป็นอะไรกันอะ ทิศทางไม่ชัดเจน หลาย ๆ อย่างละไม่ได้เรื่อง ล่าสุดขนาด Word เราอยู่ดี ๆ ก็ใช้ไม่ได้ เพราะมันแปลงร่างเป็น 365 เองเฉย คุยกับ customer service ไป 3 ชมกว่าจะแก้ไขได้ อะไรที่มันเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้คุณยังทำไม่ได้เลย ไม่ต้องไปทำเรื่องใหญ่หรอก เฮ้อ และเป็นแบบนี้มา 20-30 ปีแล้วมั้ง จัดการได้แล้วววว
ผูกขาดตลาด ไม่จำเป็นต้องแก้