Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 11 เวอร์ชัน 21H2 และ 22H2 สำหรับเวอร์ชัน Home และ Professional แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือเข้าสู่ภาวะ End-of-service ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันดังกล่าวจะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือการปรับปรุงอื่นๆ ที่จำเป็นอีกต่อไป โดยทาง Microsoft แนะนำให้ทำการอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่กว่า เช่น 23H2 หรือ 24H2 ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนที่ยาวนานกว่า

ส่วนผู้ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 แบบ Enterprise และ Education จะยังได้รับอัปเดตต่ออีกหนึ่งปีจนถึงวันที่ 14 ต.ค. 2025 วิธีดูว่าเครื่องใช้ Windows 11 เวอร์ชั้นไหนอยู่สามารถเข้าไปดูได้ที่ Settings > System > About > Windows Specifications

โดยปกติแล้ว ผู้ใช้ทั่วไปที่มีการตั้งค่าอัปเดตอัตโนมัติใน Windows จะไม่พบปัญหาใดๆ ในการอัปเดต แต่ประกาศนี้จะกระทบกับบางองค์กรที่มีการล็อกเวอร์ชันไม่ให้อัปเดตฟีเจอร์ข้ามรุ่น อัปเดตแค่ความปลอดภัย แก้บั๊ก เพียงอย่างเดียวมากกว่า

เพราะซอฟต์แวร์บางตัวอาจทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปัจจุบันดีที่สุดอยู่แล้ว การอัปเดตอาจทำให้โปรแกรมทำงานผิดพลาดได้ หลายองค์กรเลยปิดไม่อัปเดตให้ข้ามรุ่นเอาไว้

นอกจากเรื่องของ Windows 11 แล้ว Microsoft ยังเตือนถึงการยุติการสนับสนุน Windows 10 ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ซึ่งหมายความว่าเวลาที่เหลือสำหรับการอัปเดต Windows 10 ตอนนี้ไม่ถึง 1 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตามการอัปเดตนี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการของผู้ใช้ยังคงปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่ติดอะไรก็แนะนำว่าควรอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด หรือเกือบล่าสุดจะดีที่สุด

ที่มา : neowin