ไมโครซอฟท์ประกาศปรับปรุงระบบอัปเดตของ Windows ให้ใช้งานง่ายและเข้าใจได้มากขึ้น โดยได้เปลี่ยนรูปแบบการแสดงชื่อของการอัปเดตให้ดูเรียบง่ายและสื่อความชัดเจนกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใจได้ทันทีว่าอัปเดตนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร โดยไม่ต้องเจอกับรายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อนเหมือนเมื่อก่อน
จากเดิมที่ชื่ออัปเดตใน Windows Update มักจะยาวและเต็มไปด้วยข้อมูล เช่น เวอร์ชันของระบบหรือชนิดของสถาปัตยกรรม ตัวอย่างเช่น 2025-10 Cumulative Update for Windows 11, version 25H2 for x64-based Systems (KB5066835) (26200.6899) ซึ่งฟังดูเข้าใจยากพอสมควร แต่ในรูปแบบใหม่ ไมโครซอฟท์จะใช้ชื่อที่สั้นและตรงประเด็นมากขึ้น เช่น Security Update (KB5066835) (26200.6899)

ชื่อแบบใหม่นี้จะถูกใช้กับการอัปเดตหลายประเภท ทั้งอัปเดตคุณภาพของ Windows อย่าง Patch Tuesday หรืออัปเดตตัวอย่าง (Preview Update) รวมถึงการอัปเดต .NET Framework ไดรเวอร์ ส่วนประกอบ AI และ Visual Studio โดยผู้ใช้จะเห็นชื่อใหม่เหล่านี้ในหน้าต่าง Windows Update ประวัติการอัปเดต และหน้า Windows Release Health ขณะที่ใน Microsoft Update Catalog และ Windows Server Update Services จะยังคงใช้ชื่อรูปแบบเดิม
ไมโครซอฟท์ยกตัวอย่างการตั้งชื่อใหม่ไว้หลายแบบ เช่น การอัปเดตความปลอดภัยจะขึ้นว่า Security Update (KB5034123) (26100.4747) ส่วนอัปเดตตัวอย่างที่ไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยจะใช้ชื่อ Preview Update (KB5062660) (26100.4770) ถ้าเป็นการอัปเดต .NET Framework ก็จะแยกเป็น Security Update หรือ Preview Update ตามประเภทของมัน รวมถึงไดรเวอร์หรือส่วนประกอบ AI ก็จะมีชื่อเฉพาะของแต่ละตัว เช่น Logitech Driver Update หรือ Phi Silica AI Component Update

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะช่วยให้ชื่อของการอัปเดตดูเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลามานั่งแปลความหมายเหมือนเมื่อก่อน และยังช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าอัปเดตนั้นสำคัญหรือไม่ นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างรหัสข้อผิดพลาด 0x800f0983 และบั๊กอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Windows Update ไปพร้อมกันด้วย
ที่มา : Neowin

Comment