Microsoft เพิ่งจะมีการเปิดตัวบริการ Office 2019 ไปเมื่อช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมานี้เอง แต่ปรากฏว่าใน campaign โฆษณาล่าสุดของบริษัทดันทำออกมาราวกับอยากจะบอกผู้บริโภคว่า “อย่าซื้อเลย” หลังจากที่มีการปล่อยคลิปโฆษณาผ่านไอเดียการนำเสนอคู่แฝดที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Office แข่งกันซึ่งดูเหมือนว่า Microsoft อาจจะไม่ได้อยากให้เราซื้อ Office 2019 สักเท่าไหร่…

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=PxOS4OvShAY]

บอกได้คำเดียวเลยว่า “พิลึกได้อีก” จากการที่ Microsoft ดูเหมือนกำลังพยายามที่จะบอกว่า Office 2019 ที่เป็นแบบ One-time payment (ซื้อขาด จ่ายครั้งเดียว) นั้นมันไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพ ไม่คล่องตัวเอาเสียเลยหากต้องมาเทียบกับรูปแบบของ Office 365 ที่ได้รับการอัพเดทผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ตลอดเวลาผ่านระบบ Subscription (รายเดือน / รายปี)

รูปแบบของโฆษณาเช่นนี้สำหรับยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันแล้วก็คงไม่เรียกว่าแปลกมากนัก หากนี่เป็นการที่ Microsoft นำเอาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาเปรียบเทียบว่ามันดีและทรงประสิทธิภาพแค่ไหน หากจับมาเทียบกับ iWork Suite ของ Apple หรือ Goole Drive Suite ของ Google แต่นี่ไม่ใช่ พี่แกเล่นเอาของใหม่ที่ตัวเองเพิ่งจะเปิดตัวเริ่มขายไปมาบอกว่า ไม่โอเคเลยอ่ะ ใช้ Office 365 เถอะ ดีกว่าเยอะ!  💡

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=Zz-lxoHKfMg]

เอาจริงๆ ถ้าเทียบราคาของผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบนี้ดูก็ชัดเจนอยู่ว่าทำไม Microsoft ถึงเข็นโฆษณาที่สุดจะพิลึกนี้ออกมาราวกับว่าอยากจะฆ่า Office 2019 ทิ้งเสียตั้งแต่ต้นปี เพราะราคาของ Office 365 แบบ Home Single License นั้นอยู่ที่ 69.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราคาไทย 2,899 บาท ต่อปี ในขณะที่ Office 2019 แบบซื้อขาดเนี่ย สนนราคาอยู่ที่ 149.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราคาไทย 4,299 บาท จ่ายครั้งเดียวจบ ซึ่งหมายความว่าใช้เกิน 2 ปีก็คุ้มแล้ว แถมผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีจุดแตกต่างชัดเจนมากนักสำหรับบุคคลทั่วไปหรือแม้กระทั่งองค์กรส่วนมาก ว่าจำเป็นต้องอัพเดทตลอดเวลาต้องใช้ของใหม่ที่สุดเสมอหรือไม่

อาจเรียกได้ว่า เป็นอีก 1 ตัวอย่างของการปรับตัวจากเจ้าของผลิตภัณฑ์กลุ่มซอฟแวร์ที่แม้กระทั่งยักษ์ใหญ่ เจ้าตลาดทั้งหลายก็ยังหันมาโฟกัสไปที่การสร้างรายได้จากรูปแบบ Cloud & Subscription Services คือผ่านระบบออนไลน์และสมาชิกรายเดือน/ปี มากกว่าการขายเป็นสินค้ารายชิ้นขายขาดกันไปจบแล้วจบเลย เช่นเดียวกันกับที่ Adobe Creative Cloud กลายเป็นโฟกัสหลักของบริษัท Adobe มาได้สักพักใหญ่ๆแล้วนั่นเอง…

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=aR_o2uZ4sjU]

ที่มา: The Verge