แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยตอนนี้จะเริ่มทรงตัวแล้ว แต่ก็ยังต้องระวังตัวกันอยู่เรื่อยๆ ได้ยินใครไอ ใครจามใกล้ๆ ก็ยังรู้สึกหลอนกันอยู่ และที่แย่ก็คือในบางประเทศยังคงมียอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดยล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกอย่าง MIT (Massachusetts Institute of Technology) ได้พัฒนาแอปที่สามารถจำแนกผู้ติดเชื้อ COVID-19 ได้จากเสียงไอเท่านั้น แถมยังมีความแม่นยำสูงมากอีกด้วย
ในปัจจุบัน ถ้าใครที่สงสัยว่าตัวเองติดเชื้อ COVID-19 แล้วหรือยัง หากไม่ไปขอรับการตรวจที่สถานพยาบาล ก็จะทำได้แค่คอยสังเกตอาการของตัวเองเท่านั้น ว่าเรามีไข้เกิน 37.5° หรือเปล่า, มีน้ำมูก, อ่อนเพลีย, ปวดตัว ฯลฯ ซึ่งบางคนที่มีอาการดังกล่าวอาจจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาๆ แต่ทำเอาหัวใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มกันก่อนแล้ว
แต่ถ้าหากว่าแอปที่พูดถึงอยู่นี้ พัฒนาเสร็จเรียบร้อยพร้อมปล่อยให้ใช้งานกันได้ เราก็จะสามารถระบุอาการได้ง่ายสุดๆ ว่าตอนนี้ติดเชื้อไปแล้วรึยัง เพราะแอปนี้จะใช้ระบบ AI ในการคำนวณเสียงไอ แล้วนำมาแยกแยะความแตกต่างของผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 แต่ไม่แสดงอาการ และผู้ที่ไม่มีเชื้อได้ โดยการทำงานของแอปนี้จากการทดลองแล้วพบว่ามีความแม่นยำสูงสุดๆ อีกด้วย
ตามข้อมูลบอกว่าเหล่านักวิจัยได้เก็บข้อมูลจากเสียงไอของอาสาสมัครกว่า 70,000 ราย (ให้อาสาสมัครบันทึกเสียงไอแล้วส่งมาทางเน็ต) เพื่อใช้ในการพัฒนาแอปดังกล่าว จากนั้นได้ทำการทดสอบจริงกับกับอาสาสมัครกว่า 200,000 ราย และพบว่ามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ถึง 2,500 ราย คำนวณแล้วพบว่ามีความแม่นยำถึง 98.5% เลยทีเดียว
ต่อจากนี้นักวิจัยจาก MIT จะเข้าไปขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลหลายๆ แห่งเพื่อขอตัวอย่างเสียงไอของผู้ติดเชื้อเพื่อนำมาขยายฐานข้อมูลของ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจำแนกผู้ติดเชื้อให้มากขึ้นไปอีก
มีความเป็นไปได้ว่าแอปดังกล่าวอาจถูกพัฒนาไปสู่อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นลำโพงอัจฉริยะ หรือผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant, Siri, Alexa แต่มีข้อแม้นิดนึงคืออุปกรณ์ที่ใช้จะต้องมีไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูง ถึงจะจำแนกเสียงได้อย่างแม่นยำนั่นเองครับ
ที่มา : PhoneArena
เคยฟังงานวิจัยเรื่องำทำนายฝน ว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ตก แม่นยำมาก มีไปขอข้อมูลสถิติย้อนหลัง และอื่นๆ
แต่พอดูอัลกอริทึมมีแฟคเตอร์หนึ่งที่เขาเอามาใช้เสริมคือ เมื่อวานฝนตกหรือเปล่า ถ้าใช้ก็มีโอกาสมากที่ฝนจะตกด้วย
เราก็มาคิดในใจะ ถ้าพายุเข้ามันตกติดต่อกัน 10 วัน อีก มันก็เท่ากับ อาจมีผิดแค่วันแรกหรือวันฝนไม่ตก นี่ก็ได้หลาย % ละ
เมื่อมีกราฟลมเข้ามาช่วย วิเคราะห์เส้นทางเดินของพายุ มันก็ยิ่งแม่นยำ แต่แฟคเตอร์ตัวนั้นมันก็ดูโกงๆหน่อย
ก็ไม่รูอันนี้นอกจากเสียง มีแฟคเตอร์อื่นเสริมไหม เพราะถ้าเอาจริงๆ ลำโพงมือถือ มันก็รับเสียงได้คุณภาพไม่เท่ากัน
วรรคสุดท้ายน่าจะหมายถึงไมค์ปะครับ