เมื่อวานนี้ (24 กันยายน 2019) นอกจากจะมีการเปิดตัวมือถือ Xiaomi Mi 9 Pro 5G และ Mi Mix Alpha แล้ว ยังมีการเปิดตัว MIUI 11 ออกมาเช่นกัน โดย UI รุ่นใหม่นี้ ก็จะมีทั้งการพัฒนาระบบเดิมให้ดีมากขึ้น แก้ไขจุดพร่องต่างๆ และแน่นอนว่าจะต้องมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย.. ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันครับ

ไอคอนใหม่

ใน MIUI 11 ได้มีการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเหล่าไอค่อน และเมนูต่างๆ ใหม่ ให้มีสีสันที่สดใสขึ้น ดูน่าใช้กว่าเดิม

ดีไซน์ใหม่

UI ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ โดยจะเน้นช่องว่างที่เป็นสีขาวของแต่ละเมนูให้มากขึ้น ทำให้ดูไม่อึดอัด สบายตากว่า

หน้าจอโทรออกแบบใหม่

หน้าจอโทรออกใน MIUI 11 ถูกปรับปรุงให้รองรับการใช้งานกับ Dark Mode และเปลี่ยนดีไซน์ให้ดู Minimal มากขึ้น รวมถึงหน้าจอตอนมีสายเข้าก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อยด้วย

ดีไซน์หน้าจอ Settings แบบใหม่

ไอค่อนหน้าจอที่ได้รับการดีไซน์ใหม่หมด มีการเว้นช่องว่างระหว่างไอค่อนและเมนูมากขึ้น ดูไม่อึดอัด นอกจากนี้การปรับแต่งเสียงเรียกเข้าก็ยังง่ายกว่าเดิม

ฉายขึ้นจอผ่าน Screen Cast ได้ง่ายขึ้น

ฟีเจอร์ยิงภาพจากมือถือที่ใช้ MIUI 11 ขึ้นจอทีวีที่ง่ายกว่าเดิม เพราะตอนนี้มีให้กดเปิดได้ง่ายๆ ใน GameTurbo ทำให้สามารถยิงภาพขึ้นจอได้ก่อนเปิดเกมเล่น แถม Screen Cast รุ่นใหม่ยังสามารถฉายภาพในระหว่างปิดจอได้ด้วย

ตั้งเวลาให้ Dark Mode ได้

Dark Mode สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดได้ อย่างเช่น ตั้งให้เปิด Dark Mode ตอน 19.00 น. และให้ปิดโหมดตอน 8.00 น.

ตัวอักษรใหม่

Xiaomi จะใช้ตัวอักษรใหม่ใน MIUI 11 ที่มีชื่อว่า MiLanPro ที่มีดีไซน์โค้งมนและดูนุ่มนวลมากขึ้น

Animation แบบใหม่

การเคลื่อนไหวของหน้าต่างเมนูในการใช้งานได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดูลื่นไหลขึ้น ทั้งในหน้า Lock Screen และ Home Screen

Xiaomi Browser แบบใหม่

Xiaomi Browser V11.0.0 Beta มีดีไซน์ Home Page ที่ดูง่าย และใช้งานง่ายขึ้น

ระบบ Theme แบบใหม่

ในแอป Themes ที่ให้เราสามารถเลือกดาวน์โหลดหรือซื้อ Theme ใหม่ๆ มาใช้ในมือถือ ตอนนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์การติดตามผู้พัฒนา Theme ที่เราชอบ และจะแจ้งเตือนเมื่อผู้พัฒนาคนนั้นปล่อย Theme ตัวใหม่ออกมาด้วย

ปฏิทินใหม่

ปรับปรุงหน้าตาของหน้าปฏิทินใหม่ โดยสามารถแสดงผลปฏิทินแบบย่อส่วนได้ดีขึ้น

โหมดประหยัดพลังงานที่อึดกว่าเดิม

โหมด Super Battery Saver จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อตอนที่เปิด Dark Mode เท่านั้น โดยโหมดนี้จะใช้ได้เฉพาะการโทรออก-รับสาย, ส่งข้อความ และอีก 3 แอปที่เราเลือกเอาไว้เท่านั้น ซึ่งมันสามารถยืดเวลาการใช้งานออกไปได้อีกยาวเลยทีเดียว ตามภาพตัวอย่างคือเหลือแบตเตอรี่ 58% ก็สามารถใช้ได้นานถึง 240 ชม. เลยทีเดียว

File Manager

File Manager ถูกปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูใช้งานได้ง่ายขึ้น

Always on Display

ฟีเจอร์ Always on Display คราวนี้สามารถเปลี่ยนสีสันของนาฬิกา และตัวหนังสือได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของตัวอักษรพร้อมกับนาฬิกาแบบใหม่ๆ ได้ด้วย

หน้าจอข้อมูลแบตเตอรี่

หน้าจอของ Battery Stats เปลี่ยนใหม่หมด โดยคราวนี้มีตัวเลือกว่าจะให้แสดงข้อมูลการใช้งานเป็นเปอร์เซ็นต์หรือเป็นมิลลิแอมป์ก็ได้

Lock Screen

หน้าจอตอนล็อคมี Quick Reply ให้สามารถตอบแชทได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องปลดล็อคเครื่องก่อน

โหมดปิด Notch แบบใหม่

สำหรับมือถือรุ่นที่มี Notch จะมีตัวเลือกในการซ่อน Notch แบบใหม่ให้เลือกใช้

ฟีเจอร์นับก้าวเดิน ดีไซน์ใหม่

หน้าจอ Pedometer หรือแอปสำหรับนับก้าวเดินเปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่ให้ดูง่ายกว่าเดิม

ปรับปรุง Launcher ใหม่

กดเลือก Application Sharing และ Application Cloning ได้ง่ายๆ ด้วยการแตะค้างที่ไอค่อนของแอปที่เราต้องการ

อื่นๆ

  • แอปที่ถูกซ่อนเอาไว้จะไม่สามารถหาเจอได้ในเมนู Settings แล้ว
  • Watermark จากแอปกล้องของ Redmi Note 7 สามารถปรับแต่งได้
  • โหมด Game Acceleration เพิ่มปุ่ม WiFi เข้ามาให้กดเปิด-ปิด ได้จากหน้านั้นเลย
  • เพิ่มระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหว

ทั้งมือถือ Xiaomi และ Redmi หลายๆ รุ่น จะได้รับการอัพเดท MIUI 11 ภายในเดือนพฤศจิกายน 2019 โดยจะเริ่มอัพเดทให้กับเหล่าซีรีส์เรือธงอย่าง Mi 8, Mi 9, Mi Mix ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ส่วนมือถือรุ่นไหนที่จะได้อัพเดทบ้าง สามารถเข้าไปเช็ครายชื่อได้ในบล็อกนี้เลยครับ “Xiaomi เปิดตัว MIUI 11 อย่างเป็นทางการ ประกาศอัพเดทให้มือถือกว่า 40 รุ่น”

 

ที่มา : Techindeep