เชื่อว่าในตอนนี้น่าจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก Mobvoi กันเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าเป็นบริษัทพัฒนาระบบ AI และพัฒนาสมาร์ทวอทช์ของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Ticwatch เคยระดมทุนทุนผ่าน Kickstarter มีคนสนใจลงเงินไปให้ถึง 2.1 ล้านดอลลาร์ ผลงานเด่นจนเข้าตา Google เลยร่วมลงทุนสนับสนุนอีกเป็นหลายล้านดอลลาร์ เร็วๆนี้ก็เตรียมจะเอาเจ้า Ticwatch เข้ามาขายในบ้านเราอีก…ทีนี้เริ่มสนใจบริษัทนี้ขึ้นมาบ้างรึยัง? 

Mobvoi เป็นใครมาจากไหน?

Mobvoi แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นแค่บริษัทพัฒนาระบบ AI ที่ผลิตระบบการค้นหาข้อมูลจากคำสั่งเสียงภาษาจีน ในแอป WeChat เท่านั้น แต่หลังจากที่ลองหันมาพัฒนาสมาร์ทวอทช์ Ticwatch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Ticwear OS (ใช้ระบบพื้นฐานจาก Android) ขายในประเทศจีนเมื่อปี 2015 ก็ปรากฎว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะหลังจากวางจำหน่ายไปแล้ว Ticwatch ก็กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนไปแล้ว โดยขายได้มากถึง 100,000+ เรือน เลยทีเดียว ถ้านับสินค้าประเภทสมาร์ทวอทช์ทั้งหมดก็เป็นรองแค่ Apple Watch เท่านั้น

Ticwatch รุ่นแรก

และจากการที่ Google ได้เห็นประสิทธิภาพของ Mobvoi ในการพัฒนาเทคโนโลยีประมวลผลภาษาพูด และระบบการสั่งงานด้วยเสียง ทำให้ Google เห็นแววของ Mobvoi และขอเข้ามาร่วมลงทุนด้วยเมื่อปี 2015 เป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์ (ประมาณหนึ่งพันแปดร้อยกว่าล้านบาท) เพื่อทำให้ทั้งคู่สามารถร่วมมือกันช่วยพัฒนาและแบ่งปันเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งในด้านของอุปกรณ์ Wearable, อุปกรณ์ภายในรถยนต์ และเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ รวมถึงเป็นการช่วยปูทางให้ระบบปฏิบัติการ Wear OS เข้าถึงผู้ใช้งานในประเทศจีนได้มากขึ้นอีกด้วย โดยถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลย ที่ Google ได้เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทเล็กๆ ในประเทศจีนด้วยเงินมหาศาลขนาดนี้ 

ทีมงาน Ex-Googler

นอกจากทั้ง 2 บริษัทนี้ นอกจากจะจับมือกันเพื่อสร้างพันธมิตรในการนำ Wear OS เข้ามาในประเทศจีนแล้ว ทั้ง 2 บริษัทยังมีการทำงานที่คล้ายๆ กันอีก…โดยผู้ก่อตั้งบริษัท Mobvoi ในปักกิ่ง ก็เคยทำงานอยู่ที่ Google มาก่อน ส่วน CEO ของ Mobvoi อย่าง Zhifei Li และ Mike Lei ทั้งคู่ก็เคยทำงานอยู่ในแผนกวิจัยของ Google ที่อเมริกามาก่อนเหมือนกัน ทำให้แนวทางในการทำงานของ Mobvoi มีความคล้ายคลึงกับ Google ในหลายๆ ด้าน เพราะทาง CEO ของ Mobvoi เป็นฝ่ายออกปากเองเลยว่าได้ใช้วิธีการทำงานของ Google มาประยุกต์ใช้ภายในบริษัท Mobvoi

Zhifei Li ผู้ก่อตั้ง Mobvoi และเคยทำงานที่ Google มาก่อน

เริ่มขายใน KickStarter ยอดเปรี้ยงปร้าง

ซึ่งหลังจากนั้น Mobvoi ก็ขอรุกตลาดสมาร์ทวอทช์อีกรอบในปี 2016 ด้วยการเปิดตัว Ticwatch 2 Global Edition (ที่เป็นภาษาอังกฤษและสามารถใช้ได้ในประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากประเทศจีน) และนำโปรเจ็คท์ดังกล่าวไปขอระดมทุนในเว็บไซท์ Kickstarter ทำให้ได้ทุนไปกว่า 2.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 65,641,865 บาท) จากผู้ร่วมระดมทุนทั้งหมด 9,955 ราย เนื่องจาก Ticwatch 2 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีสเปค และฟีเจอร์เยอะแยะมากมายเทียบเท่าสมาร์ทวอทช์แบรนด์ดังๆ แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก ซึ่งมีทั้งระบบ GPS, Heart rate sensor, มีดีไซน์สวย, หน้าจอสีสวยคมชัด และใช้วัสดุคุณภาพดี ที่สมาร์ทวอทช์ในระดับราคาเท่าๆ กัน เรียกได้ว่าไม่มีสมาร์ทวอทช์รุ่นไหนที่ให้สเปค และฟีเจอร์ได้ขนาดนี้เลยล่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่เคยเล็งๆ Ticwatch เอาไว้ตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว แต่ติดตรงที่มันใช้งานได้เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น พอออกรุ่น Global Edition ที่รองรับภาษาอังกฤษออกมา ก็เลยเปรี้ยงปร้างทำยอดระดมทุนได้สูงลิ่วขนาดนี้ เพราะใครๆ ก็ต้องสนใจสมาร์ทวอทช์สเปคครบเครื่องแต่ราคาน่าคบหาแบบนี้อยู่แล้ว

Ticwatch 2

และล่าสุดเมื่อปีที่แล้วนี้เอง Mobvoi ก็ได้เปิดโปรเจ็คท์สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ Ticwatch S / Ticwatch E และเปิดระดมทุนใน Kickstarter อีกรอบจนได้ทุนมาถึง 3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 93,774,093 บาท) จากผู้ร่วมระดมทุนทั้งหมด 19,251 ราย จาก 150 ประเทศ โดยตอนแรก Mobvoi ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 100,000 ดอลลาร์ เท่านั้น ทำให้ Ticwatch S และ E กลายเป็นอุปกรณ์ Wearable ที่สามารถระดมทุนได้มากเป็นอันดับ 2 ของเว็บไซท์ Kickstarter จนถึงทุกวันนี้ไปแล้ว (อันดับ 1 คือสมาร์ทวอทช์ ZeTime และอันดับ 3 คือ Ticwatch 2)

Ticwatch S / E

จากที่ Mobvoi เป็นแค่บริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์เล็กๆ มาก่อน แต่ตอนนี้ Mobvoi กลายเป็นบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 400 คน โดยมีออฟฟิศตั้งอยู่ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน และยังมีออฟฟิศอีกแห่งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่งเหล่าพนักงานเหล่านี้ก็เคยเป็นอดีตพนักงานระดับหัวกะทิจากบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Google, Microsoft, Amazon. Nokia, Tencent และ Baidu มาก่อนเชียวนะ

ทีมงานของ Mobvoi บางส่วนในปักกิ่งที่เคยเป็นอดีตพนักงานจากบริษัท IT ชื่อดัง

 

ประวัติและความสำเร็จโดยย่อของ MOBVOI

  • 2012 – ก่อตั้ง Mobvoi : Mobvoi ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตพนักงานจาก Google คือนาย Zhifei Li โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาระบบ AI ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ และในตอนนั้น Mobvoi เป็นเพียงบริษัทเดียวในจีนที่มีระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาจีนเป็นของตัวเอง
  • 2015 – Mobvoi จับมือกับ Google ร่วมกันพัฒนาระบบ และอุปกรณ์ Wear OS : Google ร่วมลงทุนกับ Mobvoi เพื่อพัฒนาระบบการสั่งงานด้วยเสียงภาษาจีนกับอุปกรณ์ Android Wear ในประเทศจีน
  • 2016 – Movoi เปิดตัว Ticwatch Global Edition : Mobvoi เปิดตัว Ticwatch เวอร์ชั่นที่สามารถใช้งานนอกประเทศจีนได้ และได้รับการสมทบทุนจากเว็บ Kickstarter ไปกว่า 2.1 ล้านดอลลาร์
  • ปี 2017 – Mobvoi จับมือกับ Volkswagen : บริษัทรถยนต์ชื่อดังที่มีสำนักงานในประเทศจีนอย่าง Volkswagen Group China เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับ Mobvoi ด้วยเงินลงทุนถึง 180 ล้านดอลลาร์ เพื่อร่วมกันโปรโมทและพัฒนาระบบ AI สำหรับใช้กับรถยนต์
  • ปี 2017 – Ticwatch S&E : เปิดตัว Ticwatch S / E ที่เปิดระดมทุน และมีผู้ร่วมสมทบทุนกว่า 19,000 ราย เป็นเงินกว่า 3 ล้านดอลลาร์ และกลายเป็นอุปกรณ์ Wearable ที่มีผู้ร่วมสมทบทุนมากเป็นอันดับ 2 ของเว็บ Kickstarter

ตอนนี้ Gadget สร้างชื่อรุ่นล่าสุดของ Mobvoi อย่าง Ticwatch S / E ก็กำลังเป็นที่นิยมของตลาดมากเลยทีเดียว เพราะด้วยสเปค และฟีเจอร์ที่หลากหลาย แต่มาในราคาค่าตัวที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้ง่ายๆ ซึ่งตอนนี้ก็มีข่าวออกมาแล้วว่า Mobvoi เตรียมนำ Ticwatch S และ Ticwatch E เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยด้วย ส่วนข้อมูลอื่นๆ ทั้งวันเปิดตัว, รุ่นและสีที่จะเอาเข้ามา รวมถึงเรื่องสำคัญอย่างราคา (ว่าจะถูกเหมือนกับที่ขายในประเทศอื่นรึเปล่า) ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเราจะเอามาอัพเดทให้ทันทีครับ

 

ที่มา : Techcrunch, Money.CNN.com, Mobvoi, ZDNet