หลังจากที่ motorola นำร่องส่งรุ่นรองเรือธงมาเปิดตลาดปี 2024 กันแบบว้าว ๆ อย่าง moto Edge 50 Pro ในฐานะมือถือรุ่นแรกที่ได้รับการันตีจอสีตรงจาก Pantone ล่าสุดก็ถึงคิวของมือถือเรือธงอย่าง moto Edge 50 Ultra และรุ่นระดับกลางสเปคครบครัน Edge 50 Fusion โดยรุ่นใหญ่จะมีวัสดุฝาหลังที่ใช้ไม้ของจริงให้เลือก ส่วนรุ่นเล็กได้กล้องเซนเซอร์ใหม่ Sony LYT-700C

เปิดตัว motorola Edge 50 Ultra

motorola Edge 50 Ultra เป็นมือถือรุ่นเรือธงของแบรนด์ในปี 2024 มากับวัสดุฝาหลังสุดแปลกเลือกใช้เป็นไม้จริง ๆ โดใช้สารเคลือบพิเศษที่ช่วยให้กันน้ำ และความมันจากมือ ทำให้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ แล้วสีไม่เปลี่ยน แต่ยังให้สัมผัส และกลิ่นที่ยังคงความเป็นไม้ไว้อยู่ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบก็มีวัสดุหนังวีแกนให้เลือกเหมือนเดิม ส่วนขอบเฟรมใช้วัสดุอะลูมิเนียมขัดด้าน และได้มาตรฐานทนน้ำ ทนฝุ่นระดับ IP68

จอแสดงผลในรุ่นนี้ให้มาในขนาด 6.7 นิ้ว ใช้กระจก Gorilla Glass Victus ดีไซน์โค้ง 3D คเลือบสารกันรอยนิ้วมือ ใช้พาเนล LTPS pOLED ความละเอียด Super HD (2712 x 1220 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรตระดับสูงถึง 144Hz สว่างสูงสุด 2,500 nits รองรับการแสดงผล HDR10+ แสดงสีได้เที่ยงตรงมาตรฐาน Pantone Validated อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ และ Motion Blur ต่ำจาก SGS

ด้านระบบเสียงรุ่นนี้ให้ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos รองรับการใช้งาน Dolby Head Tracking เมื่อใช้งานร่วมกับหูฟังที่รองรับฟีเจอร์ดังกล่าว รองรับการเชื่อมต่อหูฟังไร้สายผ่าน Snapdragon Sound และมีมอเตอร์การสั่นแบบ Linear X-Axis Vibration

ระบบกล้องถ่ายของ moto Edge 50 Ultra รอบนี้ได้ใช้เซนเซอร์หลักความละเอียด 50MP ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3″ เก็บแสงได้ดีขึ้น มีระบบโฟกัส omni-directional PDAF จับโฟกัสได้ไวขึ้น 32 เท่า และมีระบบกันสั่น OIS ส่วนกล้อง Periscope Telephoto ให้ความละเอียดมาที่ 64MP ที่รองรับการซูม Optical ที่ระยะ 3x (72 มม.) ส่วนระยะดิจิทัลรองรับที่ 100 เท่า และมีกันสั่น OIS เช่นกัน

ส่วนเลนส์ Ultrawide ให้ความละเอียดมาที่ 50MP มุมกว้าง 122 องศา รองรับการถ่าย Macro ได้ในตัว ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 50MP มี Auto-Focus ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K@60FPS ได้ทุกเลนส์ทั้งกล้องเซลฟี่ และกล้องหลัง 3 ตัว

นอกจากนี้ยังมีระบบกล้องรอบนี้ยังม moto AI และ Photo Enhancement Engine คอยช่วยเพิ่มคุณภาพภาพถ่าย เร่งแสงเงา ความลึก สีสัน ปรับโบเก้เบลอหลัง รวมถึงช่วยปรับ Shutter Spped ตามสภาพแสดงโดยอัตโนมัติ ช่วยลดการสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอ หรือถ่ายภาพแบบ Long Exposer แทร็กติดตามวัตถุเพื่อโฟกัสในขณะถ่ายวิดีโอ รวมถึงนำมาใช้ในโหมด Action Shot เพื่อให้ถ่ายภาพคน หรือวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้คมชัด ไม่เบลอ

ตัวเครื่องประมวลผลโดยใช้ชิปเซ็ตซีรีส์เรือธงรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8s Gen 3 ที่ความแรงอยู่กึ่งกลางระหว่าง SD 8 Gen 3 และ Gen 2 มากับชนิดหน่วยความจำระดับท็อป RAM LPDDR5x + ROM UFS 4.0 ความจุสูงสุด 16GB + 1TB ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 125W ผ่านสาย USB-C และชาร์จไร้สายที่ 50W

เรื่องการเชื่อมต่อรุ่นนี้ก็ถือว่าให้มาแบบไม่กั๊ก เพราะได้ทั้งพอร์ต USB-C 3.1 Gen 2 ที่มากับ DisplayPort 1.4 ต่อกับจอมอนิเตอร์เพื่อใช้งาน PC Mode (Ready For ได้) รวมถึงมี Ultra Wideband ใช้ตามหาอุปกรณ์หายในระยะ 10 – 30 ซม. หรือใช้งานมือถือเป็นกุญแจปลดล็อกรถยนต์ได้ และมี NFC ด้วย

สเปค motorola Edge 50 Ultra

  • จอภาพ : จอโค้ง LTPS pOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
    • ความละเอียด Super HD (2712 x 1220 พิกเซล)
    • สว่างสูงสุด 2500 นิต
    • อัตรารีเฟรช 144Hz
    • รองรับ HDR10+
  • ชิปเซต : Snapdragon 8s Gen 3
  • RAM LPDDR5x : 12GB / 16GB
  • ROM UFS 4.0 : 512GB / 1TB
  • กล้องหลัง 3 ตัว:
    • กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.6) ขนาด 1/1.3″, ระบบกันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 50MP มุมกว้าง 122 องศา (𝑓/2.0), รองรับการถ่าย Macro
    • กล้อง Perscope Telephoto 64MP (𝑓/2.4), ซูมออปติคัล 3x, Digital 100x, ระบบกันสั่น OIS
  • กล้องหน้า : 50MP (𝑓/1.9), Auto Focus
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
    • รองรับ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 4,500mAh
    • รองรับชาร์จไว 125W
    • รองรับชาร์จไร้สาย 50W
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
    • USB-C 3.2 Gen 2
    • UWB
    • รองรับ PC Mode (Ready For)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14
  • ขนาด : 161.1 x 72.4 x 8.6 มม.
  • น้ำหนัก : 197 กรัม

เปิดตัว motorola Edge 50 Fusion

motorola Edge 50 Fusion เป็นรุ่นเล็กสุดในซีรีส์ที่ปรับลดสเปคหลายส่วนให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากขึ้น โดยรุ่นนี้จะแบ่งเป็น 2 รุ่นโมเดลที่สเปคแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด โดยหลัก ๆ แล้วรุ่นนี้จะมากับจอ pOLED แบบโค้ง 3D ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 สว่างสูงสุด 1,600 nits แต่จะต่างกันตรงที่รุ่นที่ขายทั่วโลกจะได้รีเฟรชเรต 144Hz ส่วนรุ่นที่ขายในประเทศกลุ่มละตินอเมริกาจะได้จอ 120Hz แทน

เช่นเดียวกับประสิทธิภาพที่ในรุ่นวางจำหน่ายทั่วโลกจะได้ใช้ชิปที่แรงกว่าอย่าง Snapdragon 7s Gen 2 ส่วนรุ่นที่วางจำหน่ายในละตินอเมริกาจะได้ชิป Snapdragon 6 Gen 1 ส่วนชนิดสตอเรจได้เป็น RAM LPDDR4x + ROM UFS 2.2 มากับความจุสูงสุด 12GB + 512GB มีฟีเจอร์ AI Generate Wallpaper ได้

ส่วนกล้องถ่ายภาพ moto Edge 50 Fusion มากับกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ใหม่ Sony LYT-700C 50MP มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 13MP มุมกว้าง 120 องศา ถ่ายมาโครได้ กล้องหลังรองรับการถ่าย 4K@30FPS ทั้ง 2 เลนส์ ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 32MP

ตัวเครื่องมากับแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไวผ่านสาย 68W แถมยังทนน้ำ IP68 เหมือนรุ่นเรือธง ส่วนระบบเสียงให้ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos รองรับเสียงคุณภาพ Hi-Res ทั้งผ่านหูฟังมีสาย และหูฟังไร้สาย ติดตั้งมากับ Android 14 ตั้งแต่แกะกล่อง

สเปค motorola Edge 50 Fusion

  • จอภาพ : จอโค้ง pOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
    • ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล)
    • สว่างสูงสุด 1600 นิต
    • อัตรารีเฟรช 144Hz (120Hz เฉพาะบางประเทศ)
  • ชิปเซต
    • Snapdragon 7s Gen 2 (ทั่วโลก)
    • Snapdragon 6 Gen 1 (เฉพาะในแถบละตินอเมริกา)
  • RAM LPDDR4x : 8GB / 12GB
  • ROM UFS 2.2 : 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว:
    • กล้องหลัก Sony LYT-700c 50MP (𝑓/1.88), ระบบกันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 13MP มุมกว้าง 120 องศา (𝑓/2.2), รองรับการถ่าย Macro
  • กล้องหน้า : 32MP (𝑓/2.45)
  • เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
    • รองรับ Dolby Atmos
    • Hi-Res Audio
  • แบตเตอรี่ : 5,000mAh
    • รองรับชาร์จไว 68W
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5.2
    • NFC
    • USB-C 2.0
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14
  • ขนาด : 161.9 x 73.1 x 7.9 มม.
  • น้ำหนัก : 174.9 กรัม

ราคา และการวางจำหน่าย

ราคา motorola Edge 50 Ultra

moto Edge 50 Ultra ยังไม่ได้ระบุวันวางจำหน่ายมาแบบแน่ชัด แต่ระบุเพียงว่าจะวางจำหน่ายในยุโรปก่อนใครในเร็ว ๆ นี้ ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี 2 วัสดุ ได้แก่ สีส้มพีช Peach Fuzz และสีเทาเขียว Forest Grey ที่ใช้วัสดุหนังวีแกน ส่วนสีที่สามคือ Nordic Wood ที่ใช้วัสดุไม้จริง

ส่วนราคาวางจำหน่ายนั้นจะขายในราคาเริ่มที่ 1,000 ยูโร หรือราว ๆ 39,000 บาท (ในยุโรปมือถือแพงกว่าไทยประมาณ 15 – 30%) และมีให้เลือก 3 รุ่นความจุขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่าย ได้แก่

  • 12GB + 256GB
  • 16GB + 512GB
  • 16GB + 1TB

ราคา motorola Edge 50 Fusion

moto Edge 50 Fusion มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี 2 รุ่นวัสดุ โดยรุ่นที่ใช้หนังวีแกนจะมีสีชมพู Hot Pink และสีฟ้า Marshmallow Blue ส่วนสีน้ำเงินเข้ม Forest Blue จะเป็นฝาหลังแบบพลาสติก ส่วนราคาวางจำหน่ายในยุโรปเริ่มต้นที่ 349 ยูโร หรือราว ๆ 13,600 บาท และมีให้เลือก 4 รุ่นความจุขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่าย ได้แก่

  • 8GB + 128GB
  • 8GB + 256GB
  • 12GB + 256GB
  • 12GB + 512GB

และอย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ moto ได้บ๊ายบาย เลิกทำตลาดในไทยมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ของมือถือ motorola คงต้องกลับไปพึ่งพาร้านหิ้วกันเหมือนเดิม

ที่มา: motorola