ก่อนหน้านี้ราวๆ เดือนเมษายนที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า Motorola เตรียมเปิดตัวมือถือซีรีส์ One รุ่นใหม่ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ถึงสองรุ่นด้วยกัน โดยล่าสุดก็ได้เปิดตัว Motorola One Fusion+ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมาพร้อมกับจุดเด่นที่กล้องเซลฟี่แบบป๊อปอัพ, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP และชิป Snapdragon 730 ในราคาแค่ราวๆ หมื่นบาทนิดๆ เท่านั้น

Motorola One Fusion+ เป็นมือถือรุ่นที่สองของค่ายต่อจาก Motorola One Hyper ที่เลือกใช้ดีไซน์กล้องเซลฟี่แบบ pop-up ซึ่งก็ทำให้ให้มือถือรุ่นนี้มีจอแสดงผลแบบ full view ที่ไม่มีติ่ง หรือรูกล้องบนหน้าจอมาให้รำคาญใจ ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับความละเอียด FHD+ และรองรับ HDR10 อีกด้วยซึ่งก็จะทำให้การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ บนมือถือมีอรรถรสยิ่งขึ้น

โดยในส่วนดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นเป็นแบบขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน ตัวกรอบและฝาหลังเป็นพลาสติก มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านหลังที่มีโลโก้ Motorola ติดอยู่เป็นเอกลักษณ์ประจำค่าย และมีกล้องหลัง 4 ตัว อยู่ด้านซ้ายบน จัดเรียงลงมาในแนวตั้ง ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 MP + กล้อง Ultrawide 118˚ ความละเอียด 8MP + กล้อง Macro ความละเอียด 5MP + กล้อง depth sensor ความละเอียด 2MP

 

ส่วนสเปคเต็มๆ ของ Motorola One Fusion+ ก็มีตามนี้เลย

สเปคของ Motorola One Fusion+

  • จอแสดงผล :  IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับความละเอียด FHD+ (1080 x 2340 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9
  • ชิปเซ็ต :  Snapdragon 730
  • GPU : Adreno 618
  • RAM: 6GB RAM
  • ROM : 128GB รองรับ microSD card สูงสุดถึง 1TB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    • Main: 64 MP, f/1.8, PDAF
    • Ultra Wide: ultrawide 118˚ ความละเอียด 8MP, f/2.2
    • Depth: 2MP, f/2.2
    • Macro: 5MP, f/2.2
  • กล้องหน้า : 16MP,f/2.0
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
  • Bluetooth : 5.0, A2DP, LE
  • GPS : A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, LTEPP, SUPL
  • USB : 2.0, Type-C 1.0
  • มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับ Fast chargeTurboPower 15W
  • ขนาดตัวเครื่อง :  62.9 x 76.4 x 9.6 มม. หนัก 210 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ :  Android 10 ครอบทับด้วย My UX

Motorola One Fusion+ จะมีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว Moonlight White และ สีน้ำเงิน Twilight Blue โดยมีสนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ €300 หรือราวๆ 10,635 บาท และมีกำหนดจะเปิดตัวในโซนยุโรปเร็วๆ นี้

 

ที่มา gizmochina, gsmarena