หลังจากสิ้นสุดครบกำหนดการลงทะเบียนซิมการ์ดตามข้อกำหนดผู้ที่ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป ต้องทำการขึ้นทะเบียนใหม่ พบว่ามีผู้ถือครองซิมสูงสุด 10,000 เบอร์ และได้มีหมายเลขถูกระงับไปแล้วรวมกว่า 3 ล้านเลขหมาย พร้อมทั้งมีการตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนซิมการ์ด Mobile Banking กับบัญชีธนาคารว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ด้วย

กสทช. แถลงผลดำเนินการตรวจสอบผู้ถือครองซิม

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการแถลงความคืบหน้าสำหรับการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยสามารถสรุปได้ 4 ประเด็นหลัก ดังนี้

1.สถิติผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 6 เบอร์ขึ้นไป

สำหรับการลงทะเบียนซิมได้สิ้นสุดในวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา สามารถสรุปข้อมูลออกมาได้ดังนี้

จำนวนผู้ลงทะเบียนถือครองซิม 6-100 เบอร์

  • ผู้มาลงทะเบียน 1,839,934 เลขหมาย
  • ผู้ถูกระงับใช้งาน 2,141,317 เลขหมาย

จำนวนผู้ลงทะเบียนถือครองซิม 101 เบอร์ ขึ้นไป

  • ผู้มาลงทะเบียน 3,982,283 เลขหมาย
  • ผู้ถูกระงับใช้งาน 1,096,000 เลขหมาย

ซึ่งซิมที่ถูกระงับขะไม่สามารถโทรออก ส่งข้อความ หรือใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ แต่ยังคงรับสายโทรเข้าได้อีกระยะหนึ่งก่อนถูกเพิกถอน คาดการณ์ว่า2 – 3 สัปดาห์หลังการระงับจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากหลั่งไหลมายืนยันเพิ่มเติมเช่นเดียวกับกลุ่มแรก อีกทั้งซิมที่เปิดใช้โดยไม่มีการลงทะเบียนหรือลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน และเข้าข่ายเป็นของของแก็งคอลเซ็นเตอร์ก็จะถูกกำจัดออกไป

2.ตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนซิมการ์ดให้ตรงกับ Mobile Banking บัญชีธนาคาร

อัปเดตล่าสุดของการดำเนินการตรวจสอบ ซึ่ง กสทช. ได้รับข้อมูลจากธนาคารทั้ง 21 แห่งผ่านทาง ปปง. แล้วว่ามีจำนวน 113,568,836 บัญชี คิดเป็น 79 ล้านเลขหมายตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแยกเครือข่าย ก่อนส่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละรายตรวจเปรียบเทียบว่าเชื่อของเจ้าของซิมตรงกับชื่อบัญชี Mobile Banking ที่ใช้โอนเงินหรือไม่ จากนั้นจึงจะรวบรวมส่งกลับให้ธนาคารแต่ละแห่งผ่านทางระบบของ ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป

3.การกำจัด เสา สาย กระจายสัญญาณโทรคมนาคมเถื่อน

ทางกสทช. ได้มีการร่วมมือกับ สตช. ในการกวาดล้างจับกุมผู้ที่ลักลอบติดตั้งเสาส่งสัญญาณเถื่อน ตามแนวชายแดน ที่เอื้อผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตอนนี้จับกุมได้ 29 ราย พร้อมทั้งได้มีการตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาสัญญาณของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม, ตรวจสอบทิศทางการกระจายสัญญาณบริเวณชายแดน และออกมาตรการตรวจสอบเข้มข้น

4.ผลการจับกุมอุปกรณ์โทรคมนาคมเถื่อนที่ไม่ได้อนุญาตจาก กสทช. 

นอกจากนี้ กสทช. ยังได้แถลงผลการจับกุม เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมาที่ทาง กสทช. ,เจ้าหน้าที่ตำรวจและสรรพสามิตได้มีการเข้าตรวจค้นสถานที่ลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมเถื่อน ณ เขตสวนหลวงและเขตวัฒนา ซึ่งได้ยึดของกลางมากกว่า 6,000 ชิ้น รวมมูลค่ามากกว่า 12 ล้านบาท

ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมในข้อหา มี ใช้ นำเข้า และค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต จึงได้ดำเนินการจับกุม, ตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการเผยว่ามาตรการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นับเป็นการทำลายปัจจัยสำคัญในการก่ออาชญากรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คาดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันคนร้ายก็เริ่มปรับตัวได้ เห็นได้จากการที่มีอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม Starlink ไหลทะลักเข้ามา

ที่มา : NBTC