รายชื่อมือถือและแท็บเล็ตที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน กสทช.ประจำเดือนกันยายนได้เผยออกมาแล้ว โดยในเดือนนี้มีมือถือรุ่นที่น่าสนใจเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น Motorola RAZR 5G มือถือจอพับสุดล้ำ Moto G9 Play ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh จากค่ายเดียวกัน Lenovo Tab P11 Pro แท็บเล็ต Android ฟีเจอร์ครบในราคาสุดคุ้ม รวมถึง Vivo V20 SE และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมเอาไว้ให้หมดแล้ว เข้ามาดูกันได้เลย
หมายเลข | ตราอักษร | แบบ/รุ่น |
B38546-20 | NOKIA | TA-1272 |
B38549-20 | NOKIA | TA-1276 |
B38557-20 | Lenovo | Lenovo TB-J706L (Lenovo Tab P11 Pro) |
B38568-20 | HUAWEI | FRL-L22 (Y9a) |
B38569-20 | Motorola | XT2071-4 (motorola razr 5G) |
B38570-20 | vivo | vivo 2018 (V20 Pro) |
B38573-20 | POCO | M2007J20CT (POCO X3 NFC) |
B38571-20 | vivo | V2022 (V20 SE) |
B38577-20 | SONY | XQ-AT52 (Xperia 1 II) |
B38579-20 | vivo | V2029 (Y20s) |
B38584-20 | Motorola | XT2083-5 (Moto G9 Play) |
B38589-20 | SAMSUNG | SM-G780F/DS (Galaxy S20 FE) |
Samsung
เริ่มกันด้วย Galaxy S20 FE สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Samsung ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาโดยเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มือถือรุ่นนี้เองก็มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลามเช่นกัน มีสีตัวเครื่องให้เลือกมากถึง 6 สี สเปคนั้นอยู่ในระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz กล้องหลังเกรดโปร 3 ตัว ความละเอียด 12MP ครอบคลุมทุกช่วงระยะ ไวด์ อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้ กันน้ำและฝุ่น IP68 ลำโพงคู่สเตอริโอ
โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นที่ใช้ Exynos 990 (4G) และรุ่นที่ใช้ Snapdragon 865 (5G) แม้จะมีรายชื่อในลำดับท้ายสุด แต่พอผ่านการรับรองจาก กสทช.มาแล้วก็วางขายแทบจะทันทีเลย ซึ่ง Galaxy S20 FE มีราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 20,900 บาท
POCO
แทบจะทันทีหลังจากการประกาศวางจำหน่ายในประเทศไทย POCO X3 NFC ก็ได้รับความสนใจอย่างถล่มทลาย ด้วยสเปคสุดโหดแบบไม่เกรงใจชาวบ้านในเซกเมนต์เดียวกัน กับหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 732G พร้อมระบบระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus กล้องหลัง 4 ตัว 64MP มีลำโพงคู่สเตอริโอที่รองรับ Hi-Res Audio อีกทั้งยังกันน้ำและฝุ่น IP53 ด้วย ทั้งหมดนี้ในราคาเริ่มต้นแค่ 6,499 บาท
POCO X3 NFC มือถือสเปคงาม จอ 120Hz พร้อมกล้องหลัง 4 ตัว 64MP เคาะราคาไทยเริ่มต้น 6,999 บาท
Motorola
ถัดมากับ Motorola RAZR 5G เจ้านี่ถือเป็นมือถือจอพับรุ่นที่สองของ Motorola ต่อจาก Motorola RAZR ที่เปิดตัวในปี 2019 ซึ่งรุ่นแรกไม่ได้มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด โดย Motorola RAZR 5G ถูกขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 765G ชิปเซ็ตจาก Qualcomm แน่นอนว่า ต้องรองรับ 5G ตามชื่อของมัน
ทางด้านบานพับได้รับการปรับปรุงให้ทนทานมากขึ้น ผ่านการทดสอบกว่า 200,000 ครั้งก็ยังอยู่รอดปลอดภัย สำหรับราคาทางฝั่งอเมริกานั้นเปิดมาที่ 1,399 เหรียญ ตีเป็นเงินไทยราว 44,200 บาท ส่วนราคาของประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็ต้องมาลุ้นกันครับ
ต่อกันด้วย Moto G9 Play เป็นมือถืออีก 1 รุ่นของ Motorola ที่จ่อเปิดตัวในประเทศไทย โดยมีสเปคระดับกลาง ๆ มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว กล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความละเอียดสูง 48MP ชูจุดเด่นแบตอึด 5000mAh รองรับชาร์จไว 20W คาดราคาอยู่ระหว่าง 5,000 – 6,000 บาท
ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟน ๆ Motorola ในบ้านเรา ที่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เตรียมจะวางจำหน่ายพร้อมกันถึง 2 รุ่น เพราะช่วงที่ผ่านมาหลายเดือน Motorola ประเทศไทยดูจะเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวอะไรเท่าไหร่ ตั้งแต่เปิดตัว Moto G8 Power Lite ไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
Lenovo
สำหรับ Lenovo Tab P11 Pro จะเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ที่มีราคาอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ของ Lenovo แม้หน่วยประมวลผล Snapdragon 730G ของมันจะไม่ใช่ชิปเซ็ตระดับท็อป แต่ฟีเจอร์การใช้งานอื่น ๆ ต้องบอกว่า ใส่มาให้เยอะไม่แพ้แท็บเล็ตระดับเรือธงค่ายอื่นเลยทีเดียว โดยเฉพาะด้านความบันเทิงนี่จัดหนักจัดเต็มมาก เพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 11.5 นิ้ว ใหญ่กำลังดี รองรับการแสดงผล Dolby Vision และ HDR10
ส่วนลำโพงที่ให้มานั้นเป็นลำโพงจากแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง JBL ด้วยจำนวนถึง 4 ตัว และถูกปรับจูนเสียงโดย Dolby Atmos อีกต่างหาก นอกจากนี้ Lenovo Tab P11 Pro ยังรองรับการใช้งานร่วมกับเคสคีย์บอร์ดและปากกาสไตลัสด้วย แต่อุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นนี้ต้องซื้อแยกนะครับ โดยค่าตัวของ Tab P11 Pro จะอยู่ที่ประมาณ 15,500 บาท
Huawei
ตามรายชื่อที่เผยออกมาของ กสทช.ในเดือนกันยายนนี้มีสมาร์ทโฟนจาก Huawei เพียงรุ่นเดียว คือ Y9a ถือเป็นมือถือสุดคุ้มอีกรุ่นที่น่าสนใจ เพราะเปิดตัวที่ต่างประเทศด้วยราคาเพียง 1,099 ริยัลซาอุดีอาระเบีย หรือราว 9,300 บาท แต่สเปคที่ให้มานั้นดุเดือดมาก ๆ ด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.63 นิ้ว แสดงผลได้อย่างเต็มตา เพราะกล้องหน้าเป็นแบบ pop-up ที่ซ่อนอยู่ด้านใน จึงไม่รบกวนหรือกินพื้นที่หน้าจอ
กล้องหลังให้มาครบชุด 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 64MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP มุมกว้าง 120 องศา กล้องมาโครและกล้องจับความลึก ที่มีความละเอียด 2MP เท่ากัน ภายในมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4300mAh รองรับชาร์จไว 40W สามารถชาร์จจาก 0-70% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที ส่วนชิปเซ็ตของ Huawei Y9a รุ่นนี้คือ Helio G80 จาก MediaTek
Vivo
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Vivo ได้เปิดตัว V20 Pro 5G ในประเทศไทยพร้อมทั้งประกาศราคาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากดูจากรายชื่อของ กสทช.จะเห็นได้ว่า ยังมีสมาร์ทโฟนของ Vivo เหลืออยู่อีก 1 รุ่น ในชื่อรหัส V2022 หรือก็คือ V20 SE นั่นเอง ซึ่งพึ่งเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อคืนนี้ในต่างประเทศ
โดยจะมีจุดเด่นที่กล้องหลัง 3 ตัว 48MP สุดเทพเช่นเดียวกับในรุ่น Pro แต่จะมีสเปคโดยรวมที่ลดหลั่นลงมาเล็กน้อย ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 665 หน่วยความจำ 128GB และ RAM 8GB ส่วนหน้าจอยังมีขนาดเท่าเดิมที่ 6.44 นิ้ว พาแนล AMOLED อีกด้วย
เปิดตัว Vivo V20 SE น้องเล็กของซีรีส์ ที่มากับสเปคครบครัน ราคาประมาณ 9,000 บาท
Sony
สมาร์ทโฟนเรือธงของ Sony ที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่พึ่งจะได้ฤกษ์เปิดให้ลงชื่อจองในประเทศไทยไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง Xperia 1 II เป็นสมาร์ทโฟนที่จัดเต็มทั้งในด้านของประสิทธิภาพการใช้งานและความบันเทิง ด้วยหน้าจอ CinemaWide ขนาด 6.5 นิ้ว พาแนล OLED ความละเอียด 4K UHD บนสัดส่วน 21:9 ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ ทำให้ดูหนังได้เต็มอรรถรส
อีกทั้งยังมีลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า ระบบเสียงจัดเต็มตามสไตล์ Sony ในขณะที่หน่วยประมวลผลเลือกใช้เป็น Snapdragon 865 5G จาก Qualcomm โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในราคา 35,990 บาท แถมฟรีหูฟังไร้สายตัวเทพ WF-1000XM3 ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้
Nokia
ฝั่ง Nokia มีมาด้วยกัน 2 รุ่น ในชื่อรหัส TA-1272 และ TA-1276 นั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ว่าทั้งคู่คือรุ่นอะไร มีเพียงเรื่องเดียวที่พอบอกได้คือ สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายเพียงแค่ 4G และไม่รองรับ 5G ส่วนราคาจะเป็นเท่าไร สเปคเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
ที่มา : กสทช.
Comment