ข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้มือถือทุกท่าน(ก็น่าจะคนเกือบทั้งประเทศ) ปีหน้าเราอาจจะต้องจ่ายค่าบริการมือถือแพงขึ้น เพราะกระทรวงไอซีทีมีแผนจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทางด้านโทรคมนาคมจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (AIS, DTAC, TRUE, และเจ้าอื่นๆ) หลังจากที่เคยมีการจัดเก็บไปก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2546-2549 และก็มีมติจากรัฐบาลให้หยุดเก็บมาจนถึงปัจจุบัน และตอนนี้กระทรวงไอซีทีเตรียมจะกลับมาเก็บภาษีอีกครั้งเพื่อหารายได้เข้ารัฐ 

ส่วนสาเหตุของการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทางด้านโทรคมนาคมทางไอซีทีชี้แจงว่า เป็นเพราะหลังจากเปลี่ยนแปลงจากการให้สัมปทานคลื่นสัญญาณมือถือมาเป็นการออกใบอนุญาตคลื่นสัญญาณมือถือ (การประมูล 3G ในปี 2555 ที่ผ่านมา) ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากสัมปทานที่หมดอายุสูงสุดถึงปีละ 20,000 ล้านบาทต่อผู้ให้บริการ

ถึงแม้จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปีจากจากออกใบอนุญาต 0.25 – 1.25% ของรายได้ผู้ให้บริการ และค่าธรรมเนียมหมายเลขโทรศัพท์เดือนละ 2 บาท ซึ่งคิดเป็นรายได้รวมเข้ารัฐเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 7,500 – 8,000 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าสัมปทานแบบแต่ก่อน และจะยิ่งดูน้อยเข้าไปใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวมต่อปีที่เหล่าผู้ให้บริการได้รับกันรวมกว่า 200,000 – 300,000 ล้านบาท

การเก็บภาษีสรรพสามิตทางด้านโทรคมนาคม ประเทศไทยได้ตั้งเพดานไว้สูงถึง 50% ก่อนหน้านี้ปี 2546 – 2549 ประเทศไทยก็เคยจัดเก็บภาษีมาก่อน โดย ณ ตอนนั้นมีการจัดเก็บภาษีโทรศัพท์มือถือที่ 10% และโทรศัพท์พื้นฐาน 2% ต่อมาได้ถูกละเว้นไป แต่ก็ไม่ได้มีการยกเลิกภาษีสรรพสามิตด้านโทรคมนาคม เพราะเล็งเห็นว่ารัฐอาจจะได้ใช้อีกครั้งภายหลังจากการหมดสัมปทาน

โดยในตอนนี้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทางด้านโทรคมนาคมเพิ่มยังไม่มีการหารือหรือนำเข้ามติที่ประชุม แต่ถ้าทางรัฐบาลเห็นด้วยทางกรมสรรพสามิตก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไอซีทีเผยว่าจะพิจารณาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอย่างรอบคอบและเหมาะสม เพื่อไม่ให้ผู้ให้บริการผลักภาระภาษีแฝงลงไปอยู่ในค่าบริการ งานนี้คงต้องรอดูกันอีกว่าถ้าผลักดันออกมาแล้วแต่ละค่ายจะมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นกันยกใหญ่หรือไม่

 

ที่มา ไทยรัฐ