เมื่อเดือนที่ผ่านมาทาง Netflix ออกมาบอกว่าทางบริษัทไม่อยากให้สมาชิกสมัครบัญชีหลักนำ ID ไปแชร์กับสมาชิกคนอื่น ๆ ที่อยู่กันคนละบ้าน (คือต้องการให้แชร์ ID ระหว่างคนที่อยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น) และจะเริ่มทดสอบแพ็คเกจใหม่ ให้บัญชีหลักสามารถเพิ่ม ID สมาชิกที่อยู่คนละบ้านได้ในราคาพิเศษ โดยตอนแรกบอกว่าจะเริ่มทดสอบในบางประเทศก่อนเท่านั้น…แต่ล่าสุดมีรายงานกว่า Netflix เตรียมเอาจริงกับสมาชิกที่แชร์ ID ในรูปแบบนี้มากขึ้น หลังพบว่ารายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหายไปเพียบ
มีการแชร์ ID กับสมาชิกที่อยู่คนละบ้านกว่า 100 ล้านรายทั่วโลก
ได้มีการเปิดเผยจดหมายที่ทาง Netflix ส่งให้กับเหล่าผู้ถือหุ้น โดยแจ้งว่า ตอนนี้มีสมาชิก Netflix เป็นจำนวนเยอะมาก ๆ ที่แชร์ ID กันแม้ว่าจะอยู่คนละบ้าน ทำให้การเติบโตของรายได้ไม่ค่อยเป็นไปตามที่ตั้งไว้ โดยมีการประมาณว่าน่าจะมีสมาชิกทั่วโลกกว่า 100 ล้านราย ที่แชร์ ID กันในรูปแบบนี้ โดยเฉพาะในอเมริกาและแคนาดาก็น่าจะปาไปราว ๆ 30 ล้านรายแล้ว
ซึ่งจริง ๆ สมาชิกเหล่านี้เข้าใจผิดเกี่ยวกับนโยบายการแชร์ ID ให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีเดียวกัน เนื่องจากทาง Netflix ตั้งใจให้เป็นการแชร์ ID ระหว่างสมาชิกที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันเท่านั้น และหากว่าต้องการแชร์ ID ให้กับสมาชิกคนละบ้าน เราก็ได้เริ่มทดสอบแพ็คเกจใหม่ให้บัญชีหลักสามารถเพิ่มสมาชิกที่อยู่คนละบ้านได้อีก 2 คน โดยต้องเสียค่าบริการเริ่มต้นอีกรายละ 2.99 ดอลลาร์ / เดือน (ประมาณ 99 บาท)
Netflix เตรียมทดสอบเก็บค่าบริการเพิ่ม หากมีการแช์ไอดีให้คนที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
สมาชิกหดหายเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
โดยเมื่อปี 2016 ทาง Netflix เคยออกมาบอกว่า “การแชร์ ID ระหว่างสมาชิกที่อยู่คนละบ้าน ไม่มีผลกระทบกับทางบริษัท และยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรกับมัน” ซึ่งทาง Netflix ก็รู้ดีว่าการแชร์ ID แบบนี้จะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น และลูกค้าเหล่านี้ก็น่าจะติดใจกับบริการของ Netflix แล้วด้วย แต่ในปัจจุบัน…พอรายได้ของบริษัทไม่เข้าเป้า รวมถึงบริการคู่แข่งก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าอะไร ๆ มันก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย
เพราะล่าสุดมีรายงานออกมาว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ผู้ใช้บริการ Netflix ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยหายไปกว่า 2 แสนราย และมีการคาดการณ์อีกว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปในช่วงไตรมาสที่ 2 อาจมีสมาชิกหายไปอีกถึง 2 ล้านรายเลยทีเดียว
และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางฝ่ายบริการของ Netflix ได้ออกมาบอกว่าทางบริษัทจะเริ่มขยายการทดสอบแพ็คเกจเก็บค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกที่อยู่คนละบ้าน ไปยังประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศชิลี, คอสตาริกา และเปรู
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทาง Netflix จะมีมาตรการแบบไหนเพื่อป้องกันการแชร์ ID ระหว่างสมาชิกที่อยู่คนละบ้าน เพราะจากการทดลองก่อนหน้านี้ทาง Netflix จะสุ่มตรวจสอบผู้ใช้งานสมาชิกระดับ Premium ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เข้าใช้งานภายในบัญชีเดียวกัน พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันรึเปล่า ด้วยการบังคับให้กรอกรหัสยืนยันตัวตนที่จะส่งไปให้ในเมลของเจ้าบ้านที่เป็นผู้สมัครบริการ แต่การแก้ปัญหานี้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพราะถ้าอยู่คนละบ้านก็แค่ทักไปขอรหัสมาใส่เอาก็ได้แล้วนั่นเอง
อาจเปิดแพ็คเกจราคาถูก แต่มีโฆษณาคั่น
นอกจากนี้ทาง Netflix ยังมีไอเดียที่จะเปิดแพ็คเกจที่มีค่าบริการถูกลง แต่ต้องแลกกับการดูโฆษณาคั่นด้วย โดยฝ่ายผู้บริหารคิดว่าหากบริษัทต้องการรายได้มากกว่าเดิม ตัวเลือกก็มีอยู่ไม่มากนัก อย่างแรกคือการเพิ่มราคาค่าบริการ หรือจะใช้วิธีเพิ่มแพ็คเกจใหม่ที่มีราคาถูกลงแต่มีโฆษณาคั่นเพื่อเรียกลูกค้าใหม่ ๆ ก็น่าจะโอเคอยู่
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Netflix จะใช้วิธีไหน และหากว่าป้องกันการแชร์ ID รูปแบบนี้ได้จริง ๆ จะทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น หรือจะลดลงกันแน่ ส่วนแพ็คเกจราคาถูกแต่มีโฆษณาจะออกมาให้เห็นเมื่อไหร่ และจะน่าใช้รึเปล่า…ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
มิน่าล่ะ ทำไมลูกค้าหายไป 2 แสนราย + หุ้นร่วงยับๆเลยด้วย
โลกยุคนี้ เดินหมากพลาดตาเดียวเจ๊งทั้งกระดาน
จากเจ้าตลาดกลายเป็นวูบกันมากี่รายแล้ว
พูดตรงๆว่าเป็นคนนึงที่แชร์ ID แต่ถ้ามาคิดเล็กคิดน้อย ก็พร้อมเลิกทันที
เพราะทุกวันนี้อาทิตย์นึง เปิดดูนับชั่วโมงได้
ถ้ามันยุ่งยากนักก็คงเลิกล่ะ
ทุกวันนี้ใช้กัน 2 คนหารกัน อยู่บ้านเดียวกันตอนวันหยุด วันทำงานอีกคนไปอยู่หอพักใกล้ที่ทำงาน
แล้วหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้ดูด้วย ขี้เกียจอ่านซับ
นี่มัน Nokia 2 !? ……จากอันดับ 1 จะล่วงมาท้ายสุดก็ไม่แปลก ออกอะไรมาแต่ละอย่างผิดพลาดไปหมด
หนังคนแสดงก็ยัดเยียด ผิวสี LGBT เกินเหตุ ไม่เคราพต้นฉบับจากเกม การ์ตูนบ้าง
หนังก็มีแต่ เกาหลีเยอะเกิน ที่ตามเพราะยังมี anime มาลงเยอะอยู่
แต่ถ้ามาเก็บคนละบ้านด้วยนี่ รับรอง ลูกค้าหายได้อีก 20-30% เลย