NexDock 2 อุปกรณ์เสริมสุดล้ำสำหรับมือถือเรือธง Samsung และ Huawei ที่รองรับการใช้งานคู่กับหน้าจอเสริมเพื่อเปลี่ยนให้มือถือตัวน้อยๆ ของเรากลายเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ (DeX ของ Samsung และ PC Mode ของ Huawei) ซึ่งเจ้า NexDock 2 จะเข้ามาทำให้การใช้งานโหมดดังกล่าวสะดวกกว่าเดิม เพราะมันมีทั้งหน้าจอ, Trackpad และคีย์บอร์ดเลยทีเดียว แถมราคายังน่าคบหาอยู่ที่ราวๆ หกพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
สำหรับคนที่เคยได้ใช้ Samsung DeX และ Desktop Mode ของมือถือ Huawei มาแล้ว อาจจะชอบใจที่มันสามารถใช้งานบางอย่างได้สะดวกเกือบๆ จะเท่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็น UI ที่ปรับปรุงใหม่ให้เหมาะกับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แถมยังสามารถเชื่อมกับเมาส์+คีย์บอร์ดเพื่อการทำงานที่คล่องกว่า จะติดปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือเราต้องหาหน้าจอเสริมนั่นเอง.. และเจ้า NexDock 2 นี่แหละที่จะเข้ามาทำให้เรื่องนี้มันง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม
NexDock 2 มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับโน้ตบุ๊คสุดบางเบาในตลาดทั่วๆ ไป แต่ในตัวมันจะไม่มีหน่วยประมวลผล หรือหน่วยความจำใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมันต้องใช้งานร่วมกับมือถือของเรานั่นเอง ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรวมถึงการใช้งาน Bluetooth ก็ใช้ร่วมกับของมือถือเรานั่นแหละ
การใช้งานก็แสนง่ายดาย แค่เสียบสาย USB-C > USB-C หรือ USB-C > HDMI จากมือถือที่รองรับเข้ากับตัว NexDock 2 เท่านั้น หน้าจอของมันก็จะติดขึ้นมาเป็น DeX หรือ PC Mode ให้พร้อมใช้งานได้ทันที ส่วนคีย์บอร์ด และ Trackpad ที่มีในตัวก็ใช้ได้แบบโน้ตบุ๊คทั่วไปเลย หรือจะเสียบเมาส์เสียบแฟลชไดรฟ์เพิ่มเอาก็ได้ เพราะมันมีทั้งพอร์ท USB-C มาให้ 3 ช่อง (สำหรับชาร์จไฟ 1 ช่อง), USB-A 1 ช่อง, HDMI 1 ช่อง, รูหูฟัง 3.5 มม. 1 ช่อง และ SDcard Reader 1 ช่อง
NexDock 2 มีหน้าจอ LCD ความละเอียด Full HD ขนาด 13.3 นิ้ว, มีลำโพงขนาด 1W 4 ตัว และมีแบตเตอรี่ขนาด 38Wh ที่มากพอจะใช้งานไปด้วยและชาร์จไฟให้มือถือเราไปด้วยได้ ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 317 x 215 x 15.9 มม. และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.4 กก. เท่านั้น
NexDock 2 ในตอนนี้ใช้งานร่วมกับมือถือที่รองรับ Samsung DeX อย่าง Galaxy S8/S8+, S9/S9+, S10/S10+, Note 8, Note 9, และ Galaxy Tab S4 ส่วนมือถือ Huawei ที่รองรับ PC Mode ก็มีทั้ง Mate 10/10 Pro, Mate 20/20 Pro/20 X และ P20/P20 Pro
นอกจากนี้ตามข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Android Q ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ Desktop Mode ก็จะสามารถใช้งานกับ NexDock 2 ได้อีกด้วย เรียกว่าซื้อมาทีเดียวแล้วใช้กันได้ยาวๆ ไปเลย เพราะเครื่องจะแรงหรือไม่แรงก็อยู่ที่มือถือของเรานั่นเอง
หรือใครที่อยากจะใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ก็สามารถเอาพวก PC Stick หรือ Rasberry Pi มาเสียบใช้งานก็ยังได้
ตอนนี้ NexDock 2 ได้รับการสนับสนุนทะลุเป้าไปแล้วถึง 156,568 ดอลลาร์ (ราวๆ 5 ล้านบาท) จากที่ขอไว้แค่ 50,000 ดอลลาร์ เท่านั้น (ประมาณหนึ่งล้านห้าแสนบาท) ถ้าใครสนใจก็เข้าไปร่วมสนับสนุนกันได้เลย โดยขั้นต่ำอยู่ที่ 199 ดอลลาร์ หรือราวๆ 6,300 บาท เท่านั้น ก็จะได้ NexDock 2 ไปใช้กัน 1 เครื่อง (ราคานี้เหลืออีกราวๆ 300 สิทธิ์) โดยจะเริ่มส่งของตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 เป็นต้นไป ส่วนราคาจริงตอนวางขายจะอยู่ที่ 279 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8,800 บาท
ที่มา : Slashgear, Kickstarter
จอพร้อมคีย์บอร์ดถ้าขายแพงก็ดับไปเท่านั้นเอง
156,568 ดอลลาร์ (เกือบๆ 50 ล้านบาท) อันนี้เลขตกไปหนึ่งหลักป่ะครับ
ไม่ได้ตกครับ มันเกินตะหาก 555 แก้ไขแล้วครับ
5 ล้านกว่าเองมั้งครับ ไม่ถึง 50 ล้าน
0 เกินมาตัวนึง แก้ไขแล้วครับ 555
ไม่น่าเวริคนะ คือถ้าต้องพกโน้ตบุ้คแล้วเอามาเสียบมือถือเพื่อใช้กลายเป็นว่ายุ่งยากกว่าเดิมอีก คำถามคือไม่งั้นทำไมไม่พกโน้ตบุคแท้ๆสักเครื่องไปเลยดีกว่ามั้ย ถ้าไม่ได้ใช้เล่นเกม สมัยนี้ราคาหมื่นกว่าก็ใช้ได้โอเคแล้วแถมได้วินโดวอีกต่างหาก อย่างของhuawei samsung. มันคือใช้แทน desktop ทึ่แน่ๆคือประหยัดทึ่กว่าเครื่องคอมแน่นอน
โน๊ตบุ๊คพลังมือถือ ก็เหมือนกันดั้มพลังคูโบต้าครับ
พยายามนั่งคิดแบบเปิดใจแล้ว ผมก็ยังนึกไม่ออกจริงๆว่าทำไม
ผมถึงอยากจะต้องอยากซื้อเจ้าเครื่องๆนี้
จะแคชชวลก็ไม่ใช่ จะจริงจังก็ไม่ได้ อารมณ์เดียวกับกล้อง Sony QX
มันเหมาะกับคนมีมือถือไฮเอนด์ แล้วไม่ต้องไม่เท็ปเล็ตจอใหญ่อีกเครื่อง เวลาใช้งานจริงจัง มือถือจอ6นิ้ว มันก็ไม่มันส์เท่าจอใหญ่ ที่มีแป้นคีย์บอร์ด เม้าท์แยกได้หรอก
มันน่าจะเป็น Desktop พลังมือถือมากกว่านะ ไปที่ทำงาน กลับบ้าน เอามือถือต่อทำงานต่อได้เลย
ถ้าต้องใช้ประสิทธิภาพก็ connect VDI ที่ทำงานไปทำงานบน all flash …
พอเป็น N/B แล้วมันเลยงง จะพกทำไมหว่า เพิ่มอีกไม่กี่โลก็ได้มั๊ง ultrabook
ถ้าจะใช้เป็น Desktop ก็ไม่ยากอยู่แล้วครับ เพราะ Samsung DeX กับ Huawei PC Mode มันเสียบกับ TV หรือ Monitor ใช้ได้เลย