Steve Kondik คือใคร? ทำไมถึงเป็นคนสำคัญเมื่อกูเกิลเริ่มเปิดสงครามดรามากับเขา?

สตีฟคือคนที่ทำ Costom Rom ของ Android ชื่อดังตัวหนึ่งที่ชื่อว่า CyangenMod ซึ่งมีผู้ใช้อยู่ราวๆ 30,000 คน ซึ่งตอนนี้เป็นรอมที่ดีที่สุด (อย่างน้อยก็ในสายตาผู้เขียนข่าว) สำหรับ G1 และ MyTouch

สตีฟทำการปรุงรอม ไม่เพียงแต่แค่นำมายำๆๆๆ แบบที่รอมหลายๆตัวทำ เขาทุ่มเทกับงานโดยได้ใส่หลายๆอย่างลงไปในรอมอย่างมากมาย (อ่านได้จาก Log การพัฒนาตั้งแต่เวอร์ชัน 4.0.4) ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รอมของ CyanogenMod จึงได้รับการยอมรับอย่างมากมาย

ตัวโทรศัพท์ที่ CyanogenMod สามารถรองรับนั้นจะเป็นโทรศัพท์รุ่นที่เป็น Google Phone (ไม่นับ Android Magic ของไทยที่ดันลงได้ ส่วนเงื่อนไขที่จะลงผมไม่ทราบเพราะไม่ได้ใช้ รู้สึกว่าจะต้องมีตัวแปลงไฟล์อีกที) ได้แก่ G1 หลากโอเปอร์เรเตอร์ (T-Mobile , Telstra , Rogers , Singtel ) ซึ่งเป็น Google Phone ทั้งหมด และ Mytouch3G ที่เป็น hTC Magic สำหรับ T-mobile ( เป็น Google Phone ) แปลว่ามือถือเหล่านี้ถ้าลงรอมที่เป็น Official Rom ของ Operator นั้นจะมีโปรแกรม maps, market, talk, gmail, youtube อยู่แล้ว สำหรับผู้ใช้จะลงรอมไหนก็คงไม่ผิดนักเพราะยังคงได้โปรแกรมเหล่านี้เหมือนเดิม

ความดรามาเริ่มต้นเมื่อทีมกฏหมายของกูเกิล ส่งจดหมายไปหา Steve (อ่านจาก Blognone)

เนื้อความในจดหมายมีว่าทางกูเกิลดีใจมากที่ขณะนี้ชุมชนผู้ใช้ Android กำลังเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ทางทีมพัฒนาเพิ่งทำ Android 1.6 (Donut) เสร็จ ทางกูเกิลเองมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นตลาดที่แข็งแกร่ง และกูเกิลมี Google Voice , GTalk , Google maps , GMail Youtube อยู่แล้ว และกูเกิลต้องการผลักดันบริการอันแข็งแกร่งเหล่านี้ให้ไปอยู่บนโทรศัพท์มือถือ จึงหาพันธมิตรได้แต่ OHA นั่นเอง

แต่ตัวบริการอย่าง GTalk , Google Maps , Market , Gmail , Youtube ที่ใช้บนแอนดรอยด์นั้น เป็นโปรแกรมประเภท Closed Source ทำให้ใครก็ตามที่เผยแพร่โดยไม่ได้รับการยอมรับจากทางกูเกิลนั้นเป็นการละเมิดสิทธิ์โดยสิ้นเชิง

เมื่อจดหมายเปิดศึกดรามาจากทีมกฏหมายของกูเกิลเริ่มขึ้น ทางชุมชนผู้ใช้ก็เริ่มมีการตอบสนองต่อพฤติกรรมดังกล่าว
ลงนามปกป้อง CyanogenMod
โหลด App เพื่อปกป้อง CyanogenMod

ส่วนทางตัวสตีฟเองได้ออกมาบอกว่าเขาเองนั้นทำผิดจริงๆที่ได้นำแอพพลิเคชันเหล่านั้นมาใส่ ทางออกเดียวที่เห็นตอนนี้ก็คือเขียนโปรแกรมทดแทนพวก ‘Closed Source’ เหล่านั้นและนำมาทำเป็น Open Sourced นั่นเอง

ส่วนทางทีมแอนดรอยด์ของกูเกิลนั้นพยายามที่จะเปิดช่องทางให้กับ Steve อยู่ โดยที่กำลังพยายามหาทางทำข้อตกลงร่วมกันให้กับ CyanogenMod

ดังนั้นดรามาที่เกิดนั้นไม่ใช่ระหว่างทีมแอนดรอยด์กับสตีฟ แต่เป็นชุมชนผู้ใช้กับทีมกฏหมายของกูเกิลนั่นเอง

โดยส่วนตัวแล้วคาดว่าเดี๋ยวทางแอนดรอยด์ทีมจะให้สตีฟเซ็นสัญญาอนุมัติการเผยแพร่ แล้วทุกอย่างก็จะจบอย่างแฮปปี้เอนด์ดิ้ง ไม่เช่นนั้นแล้ว ผมไซร้จะขายG1 ทิ้ง แล้วไปซบอก Palm Pre ที่อนาคตมืดมนกว่าแทน