เด็กๆ หลายๆ คนเดี๋ยวนี้เริ่มเล่นสมาร์ทโฟน-เล่นแท็บเล็ตเป็นก่อนพูดเป็นอีกต่างหาก แม้ผู้ใหญ่ๆ ส่วนมากจะมองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเราอยู่ในยุคดิจิตอลแบบนี้ก็จำเป็นที่เด็กๆ จะต้องเรียนรู้ไว้ แถมก็ยังมีเนื้อหาที่ช่วยเสริมทักษะของเด็กๆ ไปในตัวและช่วยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเวลาคุณพ่อ คุณแม่ยุ่งๆ ได้เป็นอย่างดี แต่!!! รู้หรือเปล่าว่าการเริ่มเล่นหน้าจอมากเกินไปตั้งแต่เด็กๆ แบบนี้อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้เหมือนกัน

Play video

อย่างที่โฆณาชิ้นนี้บอกหละค่ะว่าการให้เด็กๆ เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นไม่สมควรนักเพราะเด็กๆ เองก็ยังมีอะไรอีกเยอะที่ควรจะเรียนรู้นอกจออีกมากมายซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ว่าการให้เด็กใช้งานหน้าจอมากเกินควรเนี่ยนอกจากจะทำให้เสียสายตาแล้วยังทำให้เด็กๆ สมาธิสั้น มีพัฒนาการด้านภาษาช้ากว่าปกติ แถมยังขาดทักษะด้านการเข้าสังคมอีกด้วย ซึ่งถามว่าพ่อแม่รู้กันมั้ยว่าไม่ดี…ก็รู้…แต่ว่าก็ยังทำกันใช่มั้ย พูดดดดด!!! 😀

แต่ว่าอายุ 12 ปีนี้มันเหมาะสมแล้วหรือว่ายาวนานเกินไปกันแน่หนอ

ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเราอยู่ในยุคดิจิตอล จะไม่ให้เด็กใช้งานเลยก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็ต้องเรียนรู้การใช้งานให้เท่าทันกับเทคโนโลยีด้วยเหมือนกันนี่นา แถมในต่างประเทศเองมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าการใช้แอพพลิเคชั่นบนแท็บเล็ตมาสอนในห้องเรียนเสริมกับการใช้หนังสือแบบรูปเล่มปกตินั้นสามารถช่วยทำให้เด็กๆ มีความเข้าใจและจดจำบทเรียนได้มากกว่าการเรียนการสอนแบบเดิมๆ และพวกเขาจะเอาบทเรียนที่เรียนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีกว่าด้วยทั้งนี้เป็นเพราะเขาได้เห็นภาพจริงและสามารถแตะ เลื่อน หรือมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ในบทเรียนได้อย่างสนุกสนานนั่นเอง

คำถามคือ แล้วแบบนี้คุณพ่อ-คุณแม่ควรจะให้เขาเริ่มใช้งานแท็บเล็ต-สมาร์ทโฟนได้เมื่อไหร่? แล้วใช้งานแบบไหนหรือแค่ไหนถึงจะเหมาะสม?

มีคำแนะนำจากสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกาชี้ว่าไม่ควรให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบใช้หน้าจอของอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเพราะอาจทำให้เด็กๆ มีพัฒนาการที่ล่าช้าและรบกวนการนอนด้วย แต่แม้เด็กจะอายุเกินจากที่กำหนดแล้วการใช้งานก็ยังคงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองนะคะ เพราะว่าจะต้องคอยแนะนำความเหมาะสมต่างๆ ทั้งเรื่องของระยะเวลาและเนื้อหาให้เด็กๆ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมกับการใช้งานของเด็กๆ คือราว 30 นาที – 2 ชม. ต่อวัน เพราะนอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์พร้อมกับจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ดีกว่าแล้วยังจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยแต่ถ้าหากผู้ปกครองไม่มีเวลามาดูแลการใช้งานของเด็กๆ แล้วเนี่ยการรอไปจนเด็กๆ อายุ 12 ปี ตามโฆษณาที่เขาเสนอมาก็ดีไม่น้อยเพราะเวลานั้นเด็กๆ จะโตพอที่จะแยกแยะสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองแล้วค่ะ

กล่าวคือ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคะ บอก ณ จุดๆนี้ว่าอย่าเลี้ยงลูกด้วย Smartphone หรือ Tablet เลยค่ะ ใช้มันเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างพัฒนาของเด็กก็พอ แต่อย่าเอามาช่วยทำให้คุณสบาย ไม่ต้องมีภาระในการเลี้ยงดูพวกเค้าเลย ไม่งั้นต้องระวังว่าเด็กอาจจะคิดว่าคนที่เค้าโตมาด้วยเป็น Tablet ไม่ใช่พวกคุณเอาได้นะคะ :]

ว่าแล้วก็มาแนะนำแอพสำหรับเด็กสักหน่อย เผื่อเหล่าคุณพ่อคุณแม่จะหาเอาไปเล่นกับคุณลูกบ้าง

แอพพลิเคชั่นที่เหมาะสมกับวัยและจะช่วยเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กๆ ใน store ที่ผู้ปกครองสามารถไปโหลดไว้ติดเครื่องไว้ให้เด็กๆ ตอนนี้ก็มีให้เลือกสรรกันมากมายนะคะ ยกตัวอย่างเช่น

  • รู้รอบ ตอบได้

  • แบบถาม-ตอบความรู้รอบตัว

  • My Incredible Body เรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายรวมไปถึงหลักการทำงานของอวัยวะแบบเห็นภาพ เข้าใจง่าย

  • ภาษาอาเซียน แอพต้อนรับ AEC ที่ได้รวบรวมคำศัพท์ การออกเสียงภาษาประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียนเอาไว้ให้ได้ฝึกกัน เป็นต้น

และถ้าจะให้ดีลองสร้างกิจกรรมร่วมกันจากแอพเหล่านี้ เช่นการถาม-ตอบก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครองครัวไปในตัวไ้ด้อีกด้วย

 

แต่หากว่าผู้ปกครองไม่สะดวกที่จะดูแลการใช้งานของเด็กๆ ตลอดทั้งวันก็สามารถใช้โหมด Parental Control ในแท็บเล็ตหรือไปโหลดแอพจาก store มาเพื่อช่วยตั้งเวลา รวมถึงกำหนดเนื้อหาที่จะให้เด็กๆ ใช้งานอย่างเหมาะสมได้นะคะ

 

รวมถึงผู้ปกครองควรจะต้องมีการตั้งกฎการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แน่ชัด อย่างเช่นกำหนดว่า วันธรรมดาให้เล่นได้วันละ 1 ชม. , ห้ามเล่นในห้องทานอาหารเพื่อให้ได้ใช้เวลากับครอบครัว หรืออาจจะสร้างแรงจูงใจในเรื่องอื่นๆ อย่างการตั้งกฎว่าหากอ่านหนังสือ 1 ชั่วโมง ก็จะให้เล่นสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตได้ 1 ชั่วโมง เป็นต้น และก็อย่าลืมจัดตารางกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ออกไปเล่น ไปอยู่กับเพื่อนๆ ด้วยนะคะ

และอย่าลืมว่าผู้ปกครองเองต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญในพัฒนาการของเด็กๆ และของที่ดีที่สุดไม่ใช่ของที่ราคาแพงที่สุดใหม่ที่สุดหรือล้ำสมัยที่สุดแต่คือของที่เหมาะสมกับลูกๆ หลานๆ ของคุณมากที่สุดต่างหากค่ะ

Source: