เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ได้มีสมาร์ทโฟนน้องใหม่จากจีนในชื่อแบรนด์ว่า ZUK (ซึ่งมี Lenovo หนุนหลังให้อยู่) เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงราคาประหยัดอย่าง ZUK Z1 ไปอย่างเป็นทางการในจีน ก่อนที่จะส่งขายในต่างประเทศด้วย Cyanogen OS แต่หลังจากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไปพักใหญ่

ล่าสุด เขาได้กลับมาอีกครั้งภายใต้ร่มเงาของ Lenovo โดยการกลับมาครั้งนี้ มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ ZUK Z2 Pro ที่มาพร้อมสเปกที่จัดหนักจัดเต็มเช่นเคย และที่สำคัญคือ ราคาเอื้อมถึงได้มาก ๆ

หลายคนที่อ่านมาถึงจุดนี้ก็คงจะงงกันเป็นแถบว่า สมาร์ทโฟนจากบริษัทสตาร์ตอัปอย่าง ZUK กลายเป็นของ Lenovo แล้วหรือ? คำตอบคือ ใช่ครับ

ย้อนกลับไปในช่วงที่ Lenovo ประกาศปรับโครงสร้างส่วนโทรศัพท์มือถือ (หรือ Lenovo Mobile) ที่ได้ยุบรวมแผนกของ Motorola และ Lenovo Mobile เข้าด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สื่อหลายสำนักกลับไม่ได้พูดถึงนั่นก็คือ Lenovo ได้เข้าซื้อกิจการ Shenqi บริษัทสตาร์ตอัปเจ้าของแบรนด์ ZUK เพื่อทำสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในราคาเอื้อมถึงได้ และได้กลายเป็นแบรนด์ย่อยของ Lenovo ในที่สุดนั่นเอง – อ้างอิงจาก Engadget

เรามาเข้าเรื่องเกี่ยวกับ ZUK Z2 Pro ดีกว่าครับ สำหรับตัว Z2 Pro ตัวนี้ ได้มีความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ จุดจากรุ่นแรก เริ่มต้นจากหน้าจอที่เล็กลงจากรุ่นแรกเพียงเล็กน้อย (Z2 Pro ใช้หน้าจอ 5.2 นิ้ว เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่ใช้หน้าจอ 5.5 นิ้ว) แต่สิ่งที่ถือเป็นจุดขายของรุ่นนี้คือขอบดำข้างจอที่ขนาดเล็กเพียง 0.05 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าขอบดำบางที่สุดในตลาดซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมบนหน้าจอได้อย่างเต็มอารมณ์กว่าเดิม

ขณะที่ระบบสแกนลายนิ้ว U-Touch มือของ Z2 Pro ก็ได้อัปเกรดเช่นเดียวกัน โดยรอบนี้สามารถใช้งานได้กับนิ้วที่เปียกน้ำ รวมถึงมีระบบเรียนรู้ลายนิ้วมือด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการสแกนลายนิ้วมือให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ZUK Z2 Pro กลับไม่มี NFC ติดมาให้ด้วย แต่ยังคงสามารถจ่ายผ่าน AliPay, WeChat, JD และ Bestpay ได้ผ่านออนไลน์หรือบนแอปต่าง ๆ

ส่วนด้านหลังของเครื่องก็ได้เพิ่มเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเข้ามาด้วย แต่ถ้าหากจะให้มาแค่การวัดอัตราการเต้นหัวใจเพียงอย่างเดียวมันจะธรรมดาไปหน่อย Lenovo เลยจัดเอาระบบวัดระดับออกซิเจนภายในกระแสเลือดได้อีกด้วย

ซึ่งตัวระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจตัวนี้ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องสุขภาพเท่านั้น แต่มันสามารถเอาไปถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเอง พร้อมกับวัดระดับการเต้นของหัวใจในรวดเดียว

กลับมาที่กล้องของ ZUK Z2 Pro ที่รอบนี้มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลจากซัมซุง ขนาดเซ็นเซอร์ 1.34 ไมครอน รูรับแสงขนาด f/1.8 มาพร้อมกับ OIS, ระบบออโต้โฟกัสแบบ Phase Detection Auto Focus และแฟลช LED 2 สี แต่เท่านั้นยังไม่พอ กล้องด้านหลังยังสามารถวัดระดับของ UV ได้ 15 ระดับ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบอาบแดด หรือคนที่ชอบทำงานกลางแสงแดดเป็นอย่างมาก

ส่วนกล้องหน้าก็มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4 ไมครอน รูรับแสง f/2.0 พร้อมกับ smart beautification mode ปรับแต่งให้หน้าสวยและเนียนขึ้นได้เพียงปลายนิ้ว ที่สำคัญคือ มันสามารถแยกได้ระหว่างชาย หรือหญิง ฉะนั้น เวลาผู้ชายเซลฟี่ก็คงไม่เจอลิปสติก หรือแก้มชมพูวิ้งอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ZUK Z2 Pro มาพร้อมกับการรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ iCloud ของแอปเปิล ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ iPhone สามารถย้ายไปใช้ ZUK Z2 Pro ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

สุดท้าย ZUK Z2 Pro จะมาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น นั่นคือ รุ่นปกติ และรุ่น Elite ซึ่งรายละเอียดของสเปกมีดังนี้ครับ

ZUK Z2 Pro

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p ที่การันตีว่าสามารถแสดงผลภาพได้ถูกต้อง 100% ตามช่วงสี NTSC (NTSC gamut) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 แบบโค้ง 2.5D ความสว่างหน้าจอ 500-nit
  • ซีพียู Qualcomm Snapdragon 820 ความเร็ว 2.15 GHz แบบ quad-core
  • แรม LPDDR4 ขนาด 4GB (ในรุ่นปกติ) หรือ 6GB (ในรุ่น Elite)
  • หน่วยความจำภายใน UFS 2.0 ขนาด 64GB (ในรุ่นปกติ) หรือ 128GB (ในรุ่น Elite)
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL จากซัมซุง ขนาดเซ็นเซอร์ 1.34 ไมครอน รูรับแสง f/1.8 มี OIS และ PDAF ในตัว พร้อมแฟลช LED 2 สี
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4 ไมครอน รูรับแสง f/2.0 พร้อมกับ smart beautification mode
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ U-Touch 2.0 สามารถสแกนลายนิ้วมือได้แม้นิ้วเปียกน้ำ, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและระดับออกซิเจน และเซ็นเซอร์อีกสารพัด รวม 10 ตัว
  • Wi-Fi มาตรฐาน a/b/g/n/ac ความถี่ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz, บลูทูธ 4.1 และ USB 3.1 Type-C พร้อม Quick Charge 3.0
  • ใส่ 2 ซิมได้ (ขนาด nano-SIM) รองรับ 2G, 3G, 4G ทุกคลื่นในไทย โดยสามารถรองรับ LTE ได้สูงสุดที่ LTE Cat 6 (รวมถึงรองรับ CDMA, CDMA2000 และ TDD-LTE ของจีนอีกเช่นเคย)
  • แบตเตอรี่ 3,100 mAh
  • Android 6.0 Marshmallow พร้อมกับ ZUI 2.0 รุ่นใหม่ล่าสุด
  • ตัวเครื่องบางเพียง 4.6 มิลลิเมตร พร้อมกับชั้นโลหะซับแรงกระแทกแบบเดียวกับบน ThinkPad

ZUK Z2 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ สีขาว และสีดำ สำหรับราคาที่ประกาศมา ณ ตอนนี้คือรุ่น Elite ซึ่งอยู่ที่ 2,699 หยวน (ราคาราว ๆ 14,590 บาท) เริ่มเปิดจองวันพรุ่งนี้ในจีน ส่วนรุ่นปกติจะเปิดให้จองวันที่ 10 พฤศภาคมนี้ในจีนเช่นกันครับ ส่วนแผนการบุกต่างประเทศนั้นอีกไม่นานจะเริ่มบุกในยุโรป และแถบตะวันออกกลางให้มากขึ้น แต่ต้องรอดูที่ราคา และความร่วมมือกับ Cyanogen ครับ

ที่มา: Engadget