สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่านครับ หลายคนน่าจะทราบแล้วว่า Nokia กลับมาทำมือถือขายอีกครั้งหนึ่งแล้ว โดยการกลับมารอบนี้ Nokia ได้ถอดหัวโขนของ Microsoft ออกเรียบร้อย และกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งด้วยการร่วมมือกับ Google ทำมือถือและแท็บเล็ต Android แบบ 100% ผู้อยู่เบื้องหลังการกลับมาครั้งนี้ของ Nokia คือบริษัทที่ชื่อว่า HMD Global บริษัท startup จากประเทศฟินแลนด์บ้านเกิดของ Nokia นั่นเอง แต่การกลับมาครั้งนี้จะสามารถกู้ศรัทธาจากแฟนๆได้หรือไม่ เรามาลองวิเคราะห์กันดูครับ
กำเนิดใหม่ Nokia ภายใต้ HMD Global
อย่างที่เราทราบกันว่า ก่อนหน้านี้ส่วนงานมือถือของ Nokia ทั้งหมดทั้งโรงงาน, สิทธิบัตร และงานวิจัยถูกซื้อกิจการไปโดยบริษัท Microsoft เพื่อนำไปผลิตมือถือ Windows Phone ออกมาจำหน่ายในตลาดเมื่อปี 2014 แต่ Nokia ที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของ Microsoft ก็ไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนแต่ก่อน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเครื่องและนวัตกรรมต่างๆ แต่เป็นเรื่องซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Windows Phone ที่ไม่สามารถเบียดขึ้นมาเทียบเท่า Android และ iOS ได้เลยทั้งเรื่องความสามารถและแอปต่างๆที่มีให้ใช้งานในระบบของตัวเอง จน Microsoft ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาใช้ชื่อแบรนด์ Nokia ทำสมาร์ทโฟนอีกต่อไป
ตั้งแต่นั้นมาชื่อของ Nokia ก็หายไป จนหลายคนคิดว่า Nokia คงถึงจุดอวสานไปแล้ว แต่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เมื่อช่วงกลางปี 2016 ทางบริษัท Nokia Technologies ได้ตัดสินใจขายสิทธิ์การใช้ชื่อแบรนด์ Nokia และสิทธิบัตรบางส่วนสำหรับสมาร์ทโฟนให้กับบริษัทที่ชื่อว่า HMD Global เป็นเวลา 10 ปี และอีกไม่กี่เดือนต่อมา HMD Global ก็ไปซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อ Nokia สำหรับฟีเจอร์โฟนต่อมาจาก Microsoft หลังจาก Microsoft ตัดสินใจออกจากธุรกิจฟีเจอร์โฟนเพราะมองว่าเป็นส่วนเกินสำหรับบริษัท จึงกลายเป็นว่า HMD Global คือผู้ที่มีสิทธิ์ในการทำมือถือในชื่อ Nokia ทั้งสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ว่าแต่ HMD Global คือใคร?
HMD Global คือใคร? มาจากไหน?
HMD Global Oy คือชื่อเต็มของบริษัทนี้ เรียกสั้นๆว่า HMD เป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ที่มีสโลแกนของบริษัทคือ “The Home of Nokia Phones” หรือ “บ้านของมือถือ Nokia” นั่นเอง โดยก่อตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ “สืบสานตำนาน Nokia ต่อไป” บริษัทก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2016 พร้อมการประกาศเข้าซื้อกิจการฟีเจอร์โฟนของ Microsoft (ฟีเจอร์โฟนของ Nokia นั่นแหละ) โดยร่วมมือกับ Foxconn ผู้ผลิตมือถือจากไต้หวัน นอกจากนั้นยังได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์ Nokia สำหรับผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมาด้วยเช่นกัน เรียกว่าบริษัทก่อตั้งขึ้นมาเพื่อ Nokia ก็คงไม่ผิดนัก
Foxconn มาเกี่ยวอะไรกับ Nokia และ HMD?
Foxconn บริษัทสัญชาติไต้หวัน (ไม่ใช่จีนนะ) เป็นส่วนหนึ่งในดีลการซื้อกิจการฟีเจอร์โฟนของ Microsoft ครับ โดย HMD เป็นคนซื้อสิทธิ์ในการใช้ชื่อ Nokia สำหรับฟีเจอร์โฟนและสิทธิบัตรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ส่วน Foxconn เป็นคนซื้อในส่วนโรงงานผลิตมือถือไปทำต่อ มองง่ายๆคือ HMD เป็นคนคุมเรื่องงานออกแบบมือถือ Nokia ส่วน Foxconn เป็นคนผลิตมือถือให้ HMD นั่นเอง ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับ iPhone ที่ออกแบบโดย Apple แต่ผลิตโดย Foxconn นั่นเอง ดังนั้นคนที่กลัวว่ามือถือ Nokia หลังจากนี้จะเป็นแค่มือถือจีนเอาชื่อ Nokia มาแปะเฉยๆ คงจะไม่ใช่ล่ะครับ แต่เป็นมือถือไต้หวันเอาชื่อ Nokia มาแปะต่างหาก เอ้ย! ไม่ใช่อีก เป็นมือถือ Nokia แท้ๆนี่แหละ แค่ผลิตโดย Foxconn เท่านั้น
ทาง HMD บอกว่า เป้าหมายหลักของบริษัทคือการโปรโมทแบรนด์ Nokia กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ไม่มีแผนการที่จะทำมือถือแบรนด์ตัวเองใดๆทั้งสิ้น แต่การที่จะกลับเข้าสู่ตลาดให้เร็วที่สุดในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรในการผลิตมือถือเองเหมือนแต่ก่อน เราสามารถจับมือกับคู่ค้าที่มี R&D และสามารถผลิตสมาร์ทโฟนได้เลย การร่วมมือกับ Foxconn จึงเป็นทางที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน
ทีมบริหารสายเลือด Nokia แท้
ความน่าสนใจของ HMD นอกจากจะเป็นเรื่องสโลแกนและภารกิจสืบสานตำนาน Nokia แล้ว ทีมบริหารของบริษัทนี้ส่วนใหญ๋ก็ล้วนเป็นพนักงานดั้งเดิมของ Nokia มาก่อนทั้งนั้น ไล่กันไปตั้งแต่ตำแหน่ง CEO เลยครับ
| Arto Nummela ดำรงตำแหน่ง CEO ของ HMD เค้าคนนี้มีสายเลือด Nokia แบบข้นคลัก เริ่มทำงานกับ Nokia มาตั้งแต่ปี 1994 ผ่านร้อนผ่านหนาวกับบริษัทมาตลอดตั้งแต่จุดสูงสุดจนตกต่ำที่สุด ถูก Microsoft ซื้อกิจการไปเค้าก็ตามไปทำงานกับ Microsoft ต่ออีก จน Microsoft ไม่เอา Nokia แล้ว ก็ถึงเวลาที่ Arto จะพา Nokia กลับสู่สนามแข่งขันเอง ประสบการณ์ทำงานของ Arto นั้นหลากหลายตำแหน่งมาก ตั้งแต่ดูแลผลิตภัณฑ์ไปจนถึงจัดการส่วนงานธุรกิจของบริษํท โดยตำแหน่งสุดท้ายที่ Microsoft คือ Vice President Sales and Marketing for Greater Asia, Middle East and Africa เรียกว่าธุรกิจมือถือในโซนเอเชีย, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เค้าเชี่ยวชาญเลยล่ะ |
| Florian Seiche ดำรงตำแหน่ง President หรือประธานบริษัท HMD นั่นเอง ตามตำแหน่งคือใหญ่กว่า CEO อีกนะ แต่ CEO เป็นคนรับเข้าทำงาน 55 สำหรับ Florian นั้นหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเพราะเค้าคือ หนึ่งในผู้ก่อตั้งธุรกิจสมาร์ทโฟนของ HTC ในยุคแรกเลย จากนั้นก็มารับงานเป็นรองประธานของ Nokia ก่อนที่จะโดน Microsoft ซื้อกิจการไปและทำงานที่ Microsoft ต่อเหมือนกับ Arto ตำแหน่งสุดท้ายของ Florian ที่ Microsoft คือ Senior Vice President, Europe – Sales and Marketing เรียกว่าธุรกิจมือถือโซนยุโรปก็คนนี้แหละ |
| Pekka Rantala ดำรงตำแหน่ง CMO ของ HMD เค้าคนนี้คืออดีต CEO ของบริษัท Rovio Entertainment ผู้สร้างเกม Angry Birds นั่นเองครับ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเค้าเคยทำงานที่ Nokia มาแล้ว 17 ปี โดยดูแลเรื่องการตลาดของบริษัทในภาคพื้นยุโรปและทั่วโลก ตำแหน่งสุดท้ายที่ Nokia คือ Global Marketing ครับ และตอนนี้ก็กลับมาดูแลการตลาดของ Nokia อีกครั้งในตำแหน่งสูงสุดด้านการตลาด Chief Marketing Officer |
สำหรับบุคลากรของ HMD คนอื่นๆ หลายคนเคยทำงานที่ Nokia มาก่อน แล้วก็ไปทำงานที่ Microsoft ต่อเหมือนกับ Arto และ Florian ดังนั้นจริงๆอาจจะเรียกว่า เกือบจะยกทีม Nokia เดิมมาจาก Microsoft เลยก็ว่าได้ ดังนั้นความเข้าใจความเข้าขาในการทำธุรกิจมือถือไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน
Nokia โดย HMD หรือ HMD โดย Nokia ?
อันนี้เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับที่ตั้งของบริษัท HMD Global เพราะตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับสำนักงานใหญ่ของ Nokia เลยครับ เรียกว่าอยู่ตรงข้ามกันเลยดีกว่า เดินข้ามถนนก็ถึงกันแล้ว คิดเล่นๆก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว HMD ตั้งตัวเองขึ้นมาสร้าง Nokia หรือ Nokia นั่นแหละที่เป็นคนสร้าง HMD ขึ้นมา เพื่อสานต่องานมือถือของบริษัทนะครับ 55 อ้อ ที่จริงแล้ว Nokia ก็ไม่ได้ปล่อยให้ HMD ทำไปโดยลำพัง เพราะทาง Nokia เองก็ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดบริหาร HMD Global ด้วยเช่นกัน
การเดินทางครั้งใหม่บนเส้นทาง Android
การกลับมาของ Nokia ในครั้งนี้ จะเป็นการผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ของ Google แบบ 100% ดังนั้นสมาร์ทโฟน Android ของ Nokia จะมี Google Play Store และแอปของ Google ลงมาให้เลยเหมือนกับสมาร์ทโฟน Android จากผู้ผลิตรายอื่นๆ ยกเว้นในประเทศจีนที่บริการ Google ถูกแบนอยู่
Arto Nummela ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทาง Google ตื่นเต้นมากที่ Nokia เลือกใช้ Android ของ Google
ใช่แล้ว พวกเรากำลังทำงานกับ Google อยู่ครับ ทาง Google เองก็ดีใจมากๆที่จะได้เห็นมือถือ Nokia เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Android
จริงๆแล้วมือถือ Nokia ที่เป็น Android เคยมีมาก่อนหน้านี้แล้วครับ มันคือ Nokia X นั่นเอง แต่มือถือรุ่นนี้ใช้ Android แบบทำเอง (fork) ไม่ใช่ของ Google เลยไม่มี Play Store และบริการต่างๆของ Google มาให้ ตอนนั้น Nokia ก็พัฒนาแอปต่างๆขึ้นมาเองเพื่อใช้ทดแทนบริการของ Google แต่สุดท้ายมันก็ไม่สำเร็จ
เราได้ลองวิเคราะห์ข้อมูลของ Nokia X เพื่อดูว่าใครซื้อมันไปใช้ และก่อนหน้านี้เค้าใช้มือถืออะไรมาก่อน เราพบว่าหลายคนยอมย้ายมาจากมือถือระดับท็อปของ Samsung และ iPhone ของ Apple เลยนะ
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจเพราะสเปกของ Nokia X นั้นเทียบไม่ได้กับมือถือเหล่านั้นเลย ทาง HMD เองก็รู้สึกว่า Nokia X นั้นมาผิดทางเรื่องการเลือกทำ Android ของตัวเอง ดังนั้นมันยังเป็นโอกาสที่ดีจะทำมือถือ Nokia ที่เป็น Android ที่แท้จริง Arto บอกว่า
ครั้งนี้ผมสัญญาว่า พวกเราจะทำให้เกินกว่าที่ทุกคนคาดหวังเลยล่ะ
ฟีเจอร์โฟน ยังไงก็ทิ้งไม่ได้
HMD เป็นบริษัท startup ที่ได้เงินทุนสนับสนุน 500 ล้านดอลลาร์จากกองทุน Smart Connect LP ที่บริหารโดย Jean-Francois Baril อดีตผู้บริหารของ Nokia ในช่วงระหว่างปี 1999-2012 แต่นั่นคือทุนสำหรับใช้จัดตั้งบริษัทและดำเนินงานในช่วงเริ่มต้น และการทำบริษัทต้องมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยง ที่ HMD ซื้อกิจการฟีเจอร์โฟนต่อจาก Microsoft ก็เพื่อการนึ้ เพราะเริ่มต้นบริษัทก็จะมีของที่ขายได้เลย มีเงินสดวิ่งเข้าบริษัทเลยทันที ถึงแม้ตลาดฟีเจอร์โฟนจะเล็กลงเรื่อยๆเพราะคนหันไปใช้สมาร์ทโฟนกัน แต่ HMD ยังเห็นความสำคัญของมันอยู่
Arto ให้สัมภาษณ์ว่า
มันยังเป็นตลาดที่ใหญ่มากอยู่นะ และในฐานะบริษัท startup ที่เพิ่งเริ่มต้น นี่จึงเป็นเรื่องที่ดีมากที่เรามีกระแสเงินสดเป็นบวกได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
Florian เองก็สำทับว่า
ด้วยฟีเจอร์โฟนที่เรามี HMD กลายเป็นผู้เล่นอันดับ 1 หรือ 2 ในตลาดฟีเจอร์โฟนทั่วโลกเลยนะ ในหลายๆที่เรามีส่วนแบ่งตลาดถึง 94% เลยทีเดียว มันจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆสำหรับเรา
Nokia ที่ไม่เหมือนเดิม
หากพูดถึงชื่อ Nokia คนทั่วโลกต่างรู้จักกันดีอยู่แล้วว่ามันคือแบรนด์มือถือเก่าแก่มาช้านาน และหลายๆคนก็ยังไว้วางใจในชื่อนี้อยู่ แต่อีกหลายคนก็ไม่เชื่อมั่นอีกแล้ว ดังนั้นการทำให้คนรู้จักชื่อแบรนด์ Nokia ไม่ใช่เรื่องที่ HMD จะทำ แต่การกู้ศรัทธาและความไว้วางใจของคนใช้ต่างหากที่ HMD ตั้งเป้าหมายเอาไว้ อย่างไรก็ตามด้วยสถานะปัจจุบันของ Nokia ไม่เหมือนกับ Nokia สมัยก่อนอีกแล้ว ไม่มีทรัพยากรของตัวเองสำหรับสร้างมือถือและขายในตลาดได้เหมือนเดิม ตอนนี้ HMD มีเพียงสิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์และสิทธิบัตรงานออกแบบบางส่วนเท่านั้น ส่วนนวัตกรรมหลายๆอย่างที่เคยเป็นของ Nokia เช่น ClearBlack Display หรือ Pureview Camera นั้น Microsoft ไม่ยอมปล่อยออกมาด้วย
ดังนั้นการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง Foxconn จึงเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล ถ้า Nokia อยากกลับมาให้เร็วที่สุดก็ต้องเลือกจากสิ่งที่มีอยู่แล้วเอามาทำให้ได้ก่อน ดังนั้นมือถือ Nokia ในช่วงเริ่มต้นใหม่อาจจะมีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับมือถืออื่นๆในตลาดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจะให้มารอทำวิจัย หานวัตกรรมใหม่ๆ แล้วค่อยทำมือถือขาย มันคงไม่ใช่ เอาไว้มีรายได้ มีกำไรมาหล่อเลี้ยงบริษัท แล้วค่อยขยับขยายจากตรงนั้นก็ยังดีกว่า ดังนั้นคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่า Nokia จะกลับมาสร้างอะไรแปลกใหม่ให้ตลาดมือถือได้เหมือนแต่ก่อน
เสียงตอบรับจากแฟนๆ
เราได้เห็นกันไปแล้วสำหรับ Nokia 6 สมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกในยุคใหม่ของ Nokia ซึ่งต้องบอกว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ล็อตแรกขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่นาที และยังมีความต้องการสูงมากในตลาด คาดว่าคงจะขาดตลาดอีกสักพักสำหรับ Nokia 6 อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Nokia 6 วางขายในประเทศจีนเป็นที่แรก จึงยังไม่มีบริการของ Google อยู่ในเครื่อง แต่ถ้าขายนอกจีนเมื่อไหร่ Google Services ตามมาแน่ๆ
ในส่วนของการติดต่องานกับผู้แทนจำหน่ายต่างๆ HMD หรือ Nokia ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี บางรายดีใจถึงขั้นเข้ามาสวมกอด Arto Nummela ตอนที่เข้าไปพูดคุยบอกว่า Nokia จะกลับมาเลยทีเดียว
Nokia ไม่ได้ตั้งใจขายแค่ประเทศจีนแน่นอนเพราะทาง HMD ได้ไปร่วมงาน MWC 2017 ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ประเทศสเปน เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของบริษัทด้วย์ โดยมีการคาดกันว่าจะเป็นมือถือระดับเรือธงที่ชื่อว่า Nokia P1 ชิปเซต Snapdragon 835 กันไปเลย ต้องรอดูว่าจะจริงหรือเปล่า แต่กระแสความสนใจจากสื่อนั้นท่วมท้นแน่นอน
อนาคตที่น่าลุ้นของ Nokia
ทาง CEO ของ HMD บอกว่า Nokia จะเข้าถึงตลาดในทุกช่วงราคาของสมาร์ทโฟน ตั้งแต่ระดับ Low-end ไปจนถึง Premium เลย เพราะมั่นใจว่ากำลังซื้อในทุกช่วงระดับนั้นรู้จัก Nokia และต้องการให้ Nokia เข้าไปแข่งขัน ดังนั้นปี 2017 นี้เราน่าจะเห็นโทรศัพท์มือถืออีกหลายรุ่นจาก Nokia ทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลกแน่นอน Nokia Thailand ก็กลับมาแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนภารกิจกู้ศรัทธาของ HMD และ Nokia ในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ อนาคตจะเป็นข้อพิสูจน์ แต่ผมว่า Nokia น่าจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วครับ และพวกเราจะเป็นสักขีพยานอีกครั้งสำหรับเส้นทางของ Nokia บนถนน Android
ข้อมูลอ้างอิง:
Finland’s Impossible Dream Is Happening: Meeting The Startup Behind Nokia’s Smartphone Return
moto กลับมาแล้ว
Nokia กำลังจะกลับมา
แล้วยักษ์เก่าที่ เซ่ไปเซ่มาอย่าง Sony ละจะเอาอย่าไง
ยุคนี้ไม่ง่ายนะครับ
ผมอดีตสาวกโนเกีย
กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ววว 555
HMD ยังมีการบ้านที่ต้องทำอีกเยอะ
ในการเรียกลูกค้าจากผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดตอนนี้
ได้ชุดเดิมจาก nokia มาทำ แล้วจะพลาดแบบเดิมที่ nokia เคยพลาดไหม สิทธิบัตรดีๆ หลายอย่างก็ไม่ได้ตามมา มีแค่ชื่ออย่างเดียวอาศัยใบบุญเก่าของชื่อ brand กับต้นทุนไม่สูงจากการใช้โรงงานจีน ไม่ง่ายแน่นอน
มีความคิดถึง ทำออกมาให้ดี ละกัน
ยังไง ถ้าโดนใจ ก็สนับสนุนนะ
Sony ไม่เซไปเซมานะ ยอดขายตกแต่กำไรมากขึ้น
จากราคาที่แพงขึ้น 5555
ตามข่าวนี้
http://droidsans.com/sony-2016-report-xperia-lower-sale-but-profit
ใช้ผู้บริหารชุดเดิม ไม่รู้ว่าเป็นชุดเก่า ที่ทำให้ Nokia เจ๊งหรือป่าว
กลับมาบริหารแบบนี้ น่าติดตามว่าจะ รุ่ง หรือ ร่วง
ผมยังไม่ด่วนตัดสิน ขอรอดูไปก่อนจนกว่ารุ่นอื่นๆจะออกตามมา ว่ามันจะเป็นยังไง จากอดีตผู้เคยใช้ Nokia หลายต่อหลายรุ่น
ผมขอเชียร์ให้ NOKIA กลับมาโลดแล่นได้เหมือนยุคที่รุ่งเรืองนะครับ
และขอให้มีการออกแบบที่มีความหลากหลายเหมือนกับสมัยฟีเจอร์โฟนด้วย เพราะยุคนี้ผมชักจะเบื่อการออกแบบที่จำเจของค่ายมือถือแต่ละค่ายไปแล้ว
– แข่งกันบาง
– แข่งกนจอใหญ่
– แข่งกันใช้บอดี้โลหะเต็มรูปแบบที่ถอดแบตไม่ได้อีกต่อไป
– เลียนแบบกันไปมา โดยเอา iPhone มาเป็นแรงบันดาลใจ
หน้าตาโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ยุคนี้ "มันคล้ายกันหมด" จนหลายครั้งเห็นคนถือใช้งานยังแยกไม่ออกเลยว่า โทรศัพท์ยี่ห้ออะไร? รุ่นอะไร?
ผมบอกเลย มีคนชอบความหรู ก็มีคนชอบความแปลกด้วย และความเป็นแฟชั่นอยู่ด้วย ..ในยุคที่ NOKIA รุ่งเรือง โทรศัพท์แต่ละรุ่นหน้าตาแทบจะไม่เหมือนกันเลย นี่จึงเป็นสิ่งที่ NOKIA ประสบความสำเร็จด้วย ถ้า NOKIA จะเอาข้อดีของตัวเองในยุคนั้นมาทำให้ผงาดอีกครั้ง จะดีมาก
ซึ่ง…ผม…อยากเห็นยุคที่โทรศัพท์มีหน้าตาหลากหลายนั้นกลับมาอีกครั้ง
จะรอดูคนที่บอกว่าจะซื้อ Nokia ถ้าทำ Android เมื่อ 4-5 ปีก่อนนะครับ
แค่ใช้ Snapdragon 835 กับแรม 4Gb+
แปะตรา Nokia
เปิดราคามา 30k ผมก็ซื้อครับ (คล้ายๆสาวกแอปเปิ้ลเลยเน้อะ ^..^)
ฮ่าๆ5ห้า๕
ต้องดูยาวๆว่าจะรุ่งหรือร่วง
เขียนได้ดีครับ เขียนได้ดี
แฟนโนเกียเก่าหรือเปล่านะ
ดูผลงานตัวแรกก่อนค่อยว่ากัน
เขียนบทความได้ดีครับ
แค่ไม่มี สตีเฟ่น อีหรอบอยู่ด้วย แค่นี้ก็ไปรอดแล้ว เชื่อผม
ยุคนี้โทรศัพท์ดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องมีการตลาดด้วย ใช้แล้วต้องเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันให้ได้ จะไปรุ่ง
แค่มีโนเกียแมปส์ ออฟไลน์ 100% ใช้ได้ทั่วโลกก็เรียกเงินผมได้แล้วครับ
คนเดินทางแบบไม่มีสัญญาณบ่อยๆรู้ดีว่ามันดีมาก