ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ Nokia 8 หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมากันอย่างต่อเนื่อง โดย Nokia 8 นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงตัวแรกของ Nokia ภายใต้ HMD เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าทาง Nokia นั้นจัดเต็มทั้งในเรื่องของสเปคและฟีเจอร์กันเลยทีเดียว แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ กล้องหลังคู่ 13 ล้านพิกเซล ที่ได้ทำการฟีเจอร์ริ่งกับทาง Carl Zeiss กันอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรก็มาดูกันเลยครับ

สำหรับสเปคต่างๆ ของ Nokia 8 นั้นแทบจะเหมือนกับที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ทุกอย่าง ซึ่งก็มีคร่าวๆ ดังนี้

  • OS: Android 7.1.1 Nougat
  • หน้าจอ: 5.3 นิ้ว LCD ความละเอียด Quad-HD (2560×1440) Corning Gorilla Glass 5
  • CPU: Qualcomm Snapdragon 835
  • GPU: Adreno 540
  • RAM: 4GB / 6GB (Polished Blue)
  • หน่วยความจำภายใน: 64GB  / 128GB (Polished Blue) รองรับ microSD การ์ดสูงสุด 256GB
  • กล้องหลังคู่: Dual 13MP RGB OIS + 13MP Monochrome ZEISS optics, f/2.0, PDAF, IR range finder, dual tone flash
  • กล้องหน้า: 13MP, f/2.0, PDAF, display flash
  • การเชื่อมต่อ:
    • Wi-Fi Connectivity 802.11 a/b/g/n/ac
    • Bluetooth 5.0
    • GPS, APGS, GLONASS, BDS
    • NFC
    • USB Type-C 3.1
    • รองรับ 4G LTE
  • มีสแกนลายนิ้วมือ
  • รองรับ IP54
  • แบตเตอรี่: 3,090 mAh รองรับ Quick Charge 3.0
  • สัดส่วน: 151.5 x 73.7 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 160 กรัม
  • สี: Polished Blue, Tempered Blue, Steel และ Polished Copper

 

 

ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องของ Nokia 8 นั้นใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ unibody โดยรองรับ IP54 ที่สามารถกันน้ำสาดได้ แต่ว่าเอาลงไปเล่นในน้ำไม่ได้นะ สำหรับหน้าจอนั้นมีขนาดอยู่ที่ 5.3 นิ้ว และมีความละเอียดอยู่ที่ QHD 2560 x 1440 พิกเซล ซึ่งถูกป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 แบบโค้ง 2.5D

 

กล้องเลนส์ ZEISS

สำหรับตัวเลนส์กล้องของ Nokia 8 นั้นได้ร่วมกันพัฒนากับคู่หูเดิมอย่าง ZEISS ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยกล้องหลังนั้นใช้เป็นกล้องหลังคู่ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเซนเซอร์ที่ใช้คือ RGB + Monochrome และทำการจับภาพมารวมกันด้วยเทคโนโลยีของ Nokia ที่เรียกว่า Image Fusion Technology ให้กลายเป็นภาพเดียว

ในส่วนของฟีเจอร์กล้องนั้นก็จะมีการถ่ายภาพหรืออัดวิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง หรือที่ทาง Nokia นั้นเรียกว่า Dual-Sight mode นอกจากนี้ก็ยังสามารถที่จะทำการ Facebook Live ในโหมดนี้ได้อีกด้วย คนที่ live บ่อยๆ น่าจะชอบนะ

 

ระบบเสียง OZO

นอกจากนี้ Nokia 8 ยังมาพร้อมกับระบบเสียง OZO ที่จะทำให้เราได้อรรถรสในการดูวิดีโอมากขึ้น เพราะว่าจะเป็นการเล่นเสียงแบบ 360 องศา ซึ่งระบบเสียง OZO ยังรองรับกับการอัดวิดีโอแบบ 4K อีกด้วย เนื่องจาก Nokia 8 นั้นมีไมโครโฟนมาให้ถึง 3 ตัว ด้วยกัน โดยระบบ OZO นั้นเป็นระบบเดียวกับที่ทาง Hollywood เค้าใช้กันนั่นเองครับ

 

ราคาและวันวางจำหน่าย

Nokia ได้ทำการเคาะราคาของ Nokia 8 มาที่ 600 ยูโร หรือประมาณ 23,500 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายน นี้ ในโซนยุโรปก่อน ส่วนบ้านเรานั้นก็มีแว่วๆ ว่าจะเข้ามาจำนวนอยู่เหมือนกันครับ แต่จะเป็นเมื่อไหร่ และราคาเท่าไหร่นั้นต้องรอดูกันอีกทีนะ

Play video