Galaxy Buds Pro ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหูฟังไร้สายที่คุณภาพระดับท็อป ๆ ของตลาด มากับดีไซน์ทันสมัย และฟีเจอร์ครบ ๆ มีระบบตัดเสียง แต่เหมือนว่าหนึ่งในข้อเสียของหูฟังรุ่นนี้ก็คือ การออกแบบตัวก้านหูฟังนั้น ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร บางคนใส่แล้วแน่นจนเกิดอาการเจ็บหู ล่าสุดก็มีรายงานจากผู้ใช้งานในเกาหลีใต้ว่า เกิดอาการหูอักเสบหลังจากสวมใส่ใช้งานหูฟังรุ่นนี้
อ้างอิงจากข้อมูลดูเหมือนจะมีผู้ใช้งานชาวเกาหลีใต้หลายคนที่เจออาการน้ำหนองไหลและเป็นสะเก็ดที่หูหลังจากใช้งานหูฟัง Galaxy Buds Pro ซึ่งในส่วนนี้ทาง Samsung ก็ออกมาชี้แจงว่า หูฟัง Galaxy Buds Pro ได้ผ่านการมาตรฐานการทดสอบแบบนานาชาติมาก่อนจะวางขายจริง ๆ จัง อีกทั้งยังยืนยันว่าวัสดุงานประกอบไม่เป็นอันตรายในการใช้งานอย่างแน่นอน
ทว่าในส่วนนี้ Samsung กลับบอกว่า ด้วยความที่ตัวหูฟัง Galaxy Buds Pro นั้น มาในรูปแบบ In-Ear เหงื่อหรือความชื้นอาจเข้าไปเป็นปัญหาทำให้เกิดอาการอักเสบได้ ตามที่ผู้ใช้งานเกาหลีใต้ได้รายงานกัน
ก่อนหน้านี้ ก็มีผู้ใช้งานในจีน รายได้ว่า พวกเขามีอาการหูอักเสบ หลังจากใช้งาน Galaxy Buds Pro ซึ่งในส่วนนี้มีการคาดการณ์กันว่า สาเหตุของเรื่องทั้งหมด น่าจะมาจากการออกแบบจุกยางหูฟังที่ใหญ่เกินไปนั่นเอง โดย Samsung ตั้งใจออกแบบแบบนี้ เพื่อที่จะทำให้ระบบตัดเสียง ANC นั้น ทำงานออกมาได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง
ในเคสนี้ทาง Samsung ก็ออกมายืนยันว่าอาการอักเสบที่เกิดขึ้น อาจเกิดมาจากเรื่องดีไซน์ของหูฟังจริง ๆ ซึ่งทางแบรนด์ก็ออกมาแนะนำให้หมั่นทำความสะอาดหูฟัง และคอยรักษาหูให้แห้งเอาไว้อย่างสม่ำเสมอเพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น
โดยมีความเป็นไปได้ที่อาการอักเสบของหูหลังจากใช้งาน Galaxy Buds Pro นั้น อาจจะมาจากอาการแพ้วัสดุงานประกอบตัวหูฟังเอง ซึ่งในส่วนนี้ Samsung ก็บอกชี้แจงส่วนประกอบเอาไว้อย่างชัดเจนที่หน้าสเปคบนเว็บ Official เอาเป็นว่าใครที่เล็ง ๆ Galaxy Buds Pro (หรือหูฟังรุ่นอื่น ๆ) ก็อย่าลืมไปหาข้อมูลอ่านรีวิวก่อนนะครับ เผื่อมีวัสดุบางอย่างที่แพ้ หรือถ้าจะให้ดี ก็ไปลองสวมใส่ที่ช็อปก่อนเลย
REVIEW | รีวิว Galaxy Buds Pro หูฟังภาคต่อน้องถั่ว ระบบตัดเสียงดี ฟีเจอร์ครบ ในราคา 6,990 บาท
Source: GizChina
มีในกลุ่ม Samsung ไทย พูดเรื่องนี้อยู่แต่ส่วนใหญ่จะโทษตัวเองว่าคงไม่เหมาะกับหูฟังแบบนี้ ใส่แล้ว มีน้ำเหลืองไหล และเห็นเป็นหลายท่าน ต่างก็เข้าใจว่าตัวเองไม่เหมาะ ก็คิดไม่ถึงว่าเป็นปัญหาที่ผลิตภัณฑ์
สาวนตัวใช้หูฟังประเภทสมอลทอร์คมายาวนานหลายปีจน ใช้ทั้งin ear ,ear buds ราคาถูกๆไม่เคยมีปัญหา จนในปัจจุบันก็มี true wirelessออกมามากมาย ก็ได้ใช้งานหลายยี่ห้อสลับสับเปลี่ยนมาโดยตลอด จนกระทั่ง เปิดตัวและวางจำหน่ายก็ไม่พลาดที่จะต้องขอลองใช้งานมัน
ต้องยอมรับว่าคุณภาพเสียงดี ฟีเจอร์การตัดเสียง คุยโทร การฟังเพลง การใช้งานทุกอย่างดีหมด แต่ครั้งแรกที่ใช้งานเพียง30นาทีมีอาการคันรูหู จึงถอดออก ผ่านไปหลายช.ม.เริ่มมีน้ำใสๆไหลออกจากหูอย่างต่อเนื่องหลายวันจนเป็นเหตุให้ต้องคอยซับน้ำ อักเสบ ติดเชื้อตามมา รักษานานหลายอาทิตย์จนหาย
เมื่อหายดีแล้วก็ได้ทดลองใส่หูฟังin ear ตัวยี่ห้ออื่นที่วางขายก่อนหน้าเป็นเวลานานอยู่หลายวันก็ไม่เป็นปัญหาอีก จึงกลับไปใช้ตัวนี้อีกครั้ง ใส่เพียงแป๊บเดียวราว10-20นาทีเริ่มคันยิบๆจึงรีบถอดออก อักไม่กี่ช.ม.ผ่านไปมีน้ำไหลจากหูและเป็นอาการเดิมอีก รอบนี้รักษานานเพราะมีอาการข้้างเคียง นอกจากอักเสบและเกิดเชื้อราในหูทั้งที่ไม่เคยเป็น รักษาจนคิดว่าเริ่มหายแล้วเปลี่ยนไปใช้ over earแบบfull size ของยี่ห้อดังถึงสองยี่ห้อ ก็กลายเป็นแพ้ทำให้คันใบหูและรูหูภานนอกจนต้องหยุดใช้หูฟังไประยะนึง ทั้งที่ใช้หูฟังคอมราคาถูกๆม่ก่อนหน้าก็ไม่แพ้
หลังจากที่ใช้งานหูฟังtrue wireless ตัวนี้ครั้งแรกตั้งแต่วางจำหน่ายจนมีอาการดังกล่าว จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนเกือบครึ่งปีแล้ว ไม่สามารถใช้หูฟังin ear, over ear , on ear ได้อีกเลย ทุกครั้งที่ใช้เหมือนร่างกายต่อต้านและแพ้โดยเริ่มต้นจากคันและอย่างอื่นตามมาเสมอ หูฟังที่ยังใช้ได้และไม่เกิดเอฟเฟ็คน่าจะเหลือแค่ ear budsที่อาจแพ้น้อยที่สุด
สรุป ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับหูฟังมาตลอดชีวิต จนมาใช้ตัวนี้ กลายเป็นตัวกระตุ้นอะไรสักอย่างทำให้ไม่สามารถใช้หูฟังที่เคยใช้มาก่อนได้อีก คือก็ไม่ได้อยากจะโทษแบรนหรือโทษตัววัสดุอุปกรณ์ อาจเป็นที่ตัวเราแพ้เอง ทั้งหมดเพียงเล่าถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองซึ่งเชื่อว่าอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ เคยส่งฟีดแบ๊คไปทางเพจครั้งนึง จนพึ่งจะมาอ่านเจอบทความนี้ จึงมาเล่าสู่กันฟัง
เพิ่มเติม
หลังจากที่ใช้Galaxy buds proแล้วแพ้น้ำออกหู หูอักเสบอยู่หลายรอบจนเลิกใช้ กลับมาใช้ Huawei Freebuds Pro เลยแพ้ไปด้วย และล่่่าสุดแพ้ Oppo enco Xด้วยเลย
จึงพยายามหาสาเหตุว่าจริงๆแล้วแพ้ที่ขนาด วัสดุ หรืออะไรกันแน่จนคิดว่าตนเองนั้นแพ้ซิลิโคน ทั้งที่ใส่Bandก็เป็นสายซิลิโคนแต่กลับไม่แพ้
หลังจากทดสอบจุกหลายประเภทหลายยี่ห้อ เช่นตุกเมมโมรี่โฟม หรือเอาจุกซิลิโคนรุ่นอื่นๆมาทดสอบกับแขนพับที่มีความบาง
ได้ข้อสรุปดังนี้
1. จุกเดิมๆที่ผลิตปลายปีที่แล้วจนถึงปีนี้ที่มีลักษณะผสมสีจนขุ่นทึบซึ่งอาจมีสารหรือสีที่เคลือบที่เป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้แน่ๆ
2. ทดสอบจุกเมมโมรี่โฟมไม่มีอาการแพ้ในระยะแรก แต่เมื่อใส่กับหูฟังแล้วใส่ตลับชาร์จทิ้งไว้ พอนำกลับมาใช้งานมีอาการแพ้ราว40-70% นั่นอาจบอกได้ว่าตัวเมมโมรี่โฟมอาจดูดซับสารที่ทำให้แพ้เอาไว้ด้วย
3. ทดสอบกับจุกของยี่ห้ออื่นเช่น Galaxy Buds+และจุกหูฟังLg ซึ่งมีลักษณะมีสีแต่กึ่งใส ไม่มีอาการแพ้ใดๆเลย
4. กำลังทดสอบกับจุกซิลิโคนที่วางขายเป็นจุกสำรองยี่ห้อนึงที่มีลักษณะกึ่งใส ยังไม่มีอาการแพ้ใดๆ
ดังนั้น ผลจากที่ตัวเองแพ้และทดสอบแล้ว อาจไม่ได้เกิดจากขนาดหรือจะวัสดุที่เป็นซิลิโคน แต่ที่ทำให้แพ้จนมีน้ำไหลจากหู หูอักเสบ และเจ็บหูนั้นน่าจะเกิดจากสีหรือสารที่ผสมหรือเคลือบมาทั้งที่ตัวจุกหูฟัง ที่ตัวหูฟัง และที่ตลับชาร์จ
***ท้ายนี้ จึงอยากให้มี Feedback ไปยังผลิตภัณท์ยี่ห้อต่างๆตรวจสอบหรือแจ้งไปยังผู้ผลิตให้ทราบถึงสาเหตุปัญหาดังกล่าวให้ตรวจสอบแก้ไจเปลี่ยนแปลงในปลิตภัณท์ตัวต่อๆไป เพื่อให้ไม่เกิดการแพ้ต่อผู้บริโภคได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงบางส่วนเล็กๆก็ตาม
สวัสดีครับ ผมเป็นอาการเดียวกันเลยครับ
อยากสอบถามว่ารักษายังไงครับ
แล้วสรุปตอนนี้กลับไปใช้แบบ inear ได้อยู่มั้ยครับ?
ผมเห็นคุณโพสขาย huawei freebuds4 ใน Fb marketplace ใส่แล้วแพ้เหมือนกันหรอครับ
พอดีผมสนใจหาซื้อแบบ earbuds มาใช้อยู่ เพราะใช้แบบ inear ไม่ได้
ใส่ใช้งานประมาณ 10-20 นาที สักพักจะเริ่มคันยิบๆที่รูหู
ถ้าใส่ตัว huawei freebuds 4 แล้วแพ้เหมือนกัน
คิดว่าน่าจะอาการเดียวกับ ตัว inear freebuds pro จะได้ไม่ซื้อมาใช้
ขอบคุณครับ