OnePlus Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในงาน Cloud 11 ที่เพิ่งจบไปเมื่อสักครู่นี้ และแน่นอนว่าการบุกตลาดแท็บเล็ตครั้งแรกของ OnePlus ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะตัวเครื่องมาพร้อมกับสเปคแจ่ม ๆ ในดีไซน์กล้องด้านหลังแปลกตาไม่เหมือนใคร แถมยังรองรับปากกา Stylus และคีย์บอร์ดเสริมด้วย
OnePlus Pad ใช้หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาดใหญ่ 11.6 นิ้ว พื้นที่หน้าจอคิดเป็น 88% ของตัวเครื่อง บนความละเอียดสูง 2.8K ที่มีอัตราส่วน 7:5 รุ่นแรกของโลก สว่างสูงสุด 500 nits พร้อมรองรับรีเฟรชเรทลื่นไหลสูงถึง 144Hz, รองรับปากกา OnePlus Stylo แถมยังรองรับ HDR 10+ และ Dolby Vision
ตัวเครื่องมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Metal Unibody หน้าจอขอบบางตามสมัยนิยม ถูกจัดวางมาใน Layout แบบแนวนอนทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ด้านล่างตัวเครื่องมีแถบแม่เหล็กเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดเสริม Magnetic Keyboard ให้กลายเป็นโน้ตบุ๊ค Laptop ขนาดย่อม ๆ ได้
ด้านประสิทธิภาพก็เรียกได้ว่าหายห่วง เพราะในรุ่นนี้ได้ใช้ชิปอดีตเรือธงจาก MediaTek อย่าง Dimensity 9000 ที่ไว้ใจได้ในเรื่องระบายความร้อน ประกบคู่มากับหน่วยความจำ RAM LPDDR5 ความจุสูงสุด 12GB และ ROM UFS 3.1 128GB
นอกจากนี้ ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์เขาก็จัดเต็ม เพราะมีลำโพง 4 ตัว ที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Omnibearing Sound Field และ Dolby Vision จะเล่นเกม หรือดูหนังก็สะใจ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 9,510 mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 67W สแตนด์บายได้สูงสุด 1 เดือนเต็ม
สเปค OnePlus Pad (ยังเปิดเผยไม่หมด)
- หน้าจอ LCD ขนาด 11.6 นิ้ว ความละเอียด 2.8K อัตราส่วน 7:5 รีเฟรชเรท 144Hz
รองรับ HDR 10+, Dolby Vision สว่างสูงสุด 500 nits - รองรับปากกา OnePlus Stylo และ คีย์บอร์ดเสริม Magnetic Keyboard
- ชิปเซ็ต Dimensity 9000
- RAM 8GB / 12GB (LPDDR5)
- หน่วยความจำ UFS 3.1 128GB
- กล้องหลัง 13MP
- กล้องหน้า 8MP
- การเชื่อมต่อ WiFi 6 | 5G
- ลำโพง 4 ตัว เสียงรอบทิศทาง Omnibearing Sound Field รองรับ Dolby Vision
- แบตเตอรี่ 9,510 mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 67W
- หนา 6.54 มม. / หนัก 552g
ราคา และอุปกรณ์เสริม
OnePlus Pad จะเริ่มเปิดให้สั่งจองเป็นเจ้าของในอินเดีย ทวีปอเมริกาเหนือ, ยุโรป และตะวันออกกลาง ช่วงเดือนเมษายนปีนี้ ตัวเครื่องมีให้เลือกเพียงสีเขียว Halo Green โดยรายละเอียดสเปคแบบเต็ม ๆ พร้อมราคาตัวเครื่อง จะถูกเปิดเผยให้ทราบในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า
ที่มา: OnePlus (YouTube Live), Android Police
Comment