ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ระบบการให้คะแนนกล้องบนสมาร์ทโฟนของ DxOMark เหมือนจะเป็นหนึ่งในเครื่องวัดคุณภาพกล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ไปแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เกือบทั้งหมดที่ออกวางจำหน่ายในท้องตลาดได้ถูกนำไปทดสอบ แต่ก็มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ไม่ได้ผ่านการทดสอบ ซึ่ง OPPO ก็เป็นหนึ่งในนั้น

นาย Brian Shen รองประธาน OPPO ได้ตอบข้อสงสัยให้กับผู้ติดตามบนช่องทาง Weibo ของเขาเกี่ยวกับวงการสมาร์ทโฟนบนท้องตลาดที่ให้ความสำคัญกับ DxOMark  ว่า เขาไม่จำเป็นต้องวางมาตรฐานเฉพาะให้กับระบบกล้องสมาร์ทโฟนที่ออกใหม่ และเขายังบอกอีกว่า มันดีแล้วเหรอที่จะปรับเปลี่ยนกล้องสมาร์ทโฟนให้มีมาตรฐานเดียวกันหมด

“DxO มันจำเป็นมากหรือเปล่า? เราต้องการทำให้กล้องสมาร์ทโฟนถูกปรับให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดเหรอ? พวกเขาอาจจะมีความจำเป็นในการจัดอันดับหรือเป็นตัวแทนที่จะคอยให้คะแนนต่างๆ แต่ส่วนตัวคิดว่า เวลาถ่ายรูปนั้นมันมีอะไรล้ำลึกกว่านั้น การไปทำให้ความสวยงามนั้นเป็นแบบเดียวกันหมดไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนของ OPPO ไม่เคยเข้าร่วมทดสอบกับ DxOMark แต่สมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ เริ่มถูกส่งไปทดสอบมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่วาจะเป็น Huawei, Xiaomi, Samsung, Sony หรือแม้แต่ OnePlus เองก็ถูกส่งไปทดสอบด้วย

จากคำตอบของ Brian ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า OPPO เองไม่ได้สนในเรื่องของการทดสอบกล้องกับ DxOMark ซึ่งในมุมมองนึงก็แอบเห็นด้วยว่าเราไม่สามารตตัดสินความสวยงามหรือพลังของกล้องถ่ายภาพได้เลย เพราะวิธีการทดสอบต่างๆ และในบางการทดสอบทาง DxOMark ก็เลือกที่จะตัดฟีเจอร์บางอย่างทิ้งไป (เช่น Night Sight ของ Pixel 3 ที่ไม่เคยถูกนำมารวมกับการนับคะแนน) แต่สิ่งนึงที่ได้จากการทดสอบคือเราได้เห็นการทำงานของกล้องสมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อในสภาพแสงที่แตกต่างกัน

oppo-r17-pro-king-custom-edition-featured

OPPO R17 Pro ที่ไม่เคยปรากฏอยู่ใน DxOMark

เพราะเอาเข้าจริงๆ บางคนอาจจะชอบกล้องของ Google Pixel 3 (DxoMark 107) มากกว่า Huawei Mate 20 Pro (DxOMark 109) ก็ได้ เพราะแต่ละคนนั้นชอบสไตล์ภาพ สี และฟีเจอร์กล้องที่แตกต่างกันออกไป แต่คงเป็นไปได้ยากที่จะบอกว่ากล้องของ Asus Zenfone 5 (DxoMark 90) จะมีคุณภาพดีกว่า Galaxy Note 9 (DxoMark 103)

แล้วคุณคิดว่าการจัดคะแนนกล้อง DxOMark มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อมือถือใหม่แค่ไหน?

source : gizchina